ผู้ว่าฯ เชียงราย เผยว่า ยังไม่ได้รายงานว่า น้องๆ คุยกับผู้ปกครองหรือยัง ขณะที่น้ำยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ โดยได้ขอซีลมาเพิ่มอีก และ ฝึกเด็กให้เรียนดำน้ำ ตอนนี้เป็นกำลังใจให้ จนท.-กู้ภัยทุกคน...

เมื่อเวลา 22.10 น.วันที่ 3 ก.ค.2561 นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เกี่ยวกับแผนปฏิบัติการกู้ภัยเพื่อช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่า ล่าสุด ได้ขอกำลังเสริมหน่วยซีลไปเพิ่มเติม เนื่องจากการดูแลส่วนงานต่างๆ อาจจะไม่ถนัด จึงต้องมีการขอกำลังเพิ่มเติม คาดว่าพรุ่งนี้จะมาถึง โดยหวังว่าน้องทั้ง 13 คนจะออกในเร็ววัน โดยตอนนี้เจ้าหน้าที่ต่างก็ล้า เพราะว่าสู้กันมาเต็มที่ อย่างไรก็ตามแม้จะมีข่าวดี แต่ภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น เพราะแค่หาเจอ แต่ภารกิจที่สองคือการเอาน้องออกมาให้ได้ ซึ่งเราต้องรีบทำให้ได้

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวต่อว่า ล่าสุด ยังไม่ได้รับรายงานว่า น้องๆ คุยกับผู้ปกครองหรือยัง แต่ตอนนี้ มีการลากสายสื่อสารเข้าไปแล้ว เราจะคาดหวังสูบน้ำอย่างเดียวไม่ได้ แต่เราต้องฝึกการดำน้ำให้เขาด้วย เพราะตอนนี้พยากรณ์อากาศ บอกว่าฝนจะตกทั้งสัปดาห์ ในหน้างานยังไม่ได้ต้องอุปกรณ์พิเศษใดๆ หรือในขณะนี้ยังไม่ขาดเหลือใดๆ สำหรับเรื่องการบริจาค หน้ากากดำน้ำแบบเต็มใบ ขณะนี้ ได้รับบริจาคไว้แล้ว ของทั้งหมดอยู่ในถ้ำ ส่วนอาหารการกินให้น้องกินเจลพลังงานอยู่ เพราะน้องทั้ง 13 คนขาดอาหารมาร่วม 10 วัน ยังย่อยไม่ได้ ต้องค่อยๆ ปรับกันไป

...

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ยังตอบไม่ได้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่จึงจะสามารถนำตัวออกมาได้ เนื่องจากเรายังมีปํยหาเรื่องระดับน้ำ ยืนยันว่า น้ำเป็นปัญหาหลัก ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้การจะทำให้น้องมีความปลอดภัย 100% ก็คือการสูบน้ำออกให้หมดเลย แต่เราต้องดูตามสถานการณ์ว่าระดับน้ำว่าระดับน้ำลดเพียง หรือเหมาะสมอย่างไร ถ้าจะรอน้ำหมดเรายังไม่แน่ใจว่าน้ำจะหมดได้จริงหรือไม่ เพราะว่าตลอดเวลาที่ฝนตกน้ำก็จะเติมเข้ามาตลอด ทำให้เราต้องคิดวิธีที่ 2 คือ พาดำน้ำออกมา จึงต้องเริ่มฝึกน้องๆ ให้ดำน้ำแบบสคูบาให้ได้ คนที่ถูกส่งไปฝึกน้องดำน้ำ เป็นครูฝึกซีลมืออาชีพทุกคน และได้มีการร้องขอเพิ่มเติมไปยังหน่วยปฏิบัติการทุกๆ หน่วยที่มีขีดความสามารถในการดำน้ำเก่งๆ และฝีมือระดับครูเข้าไปฝึกทั้ง 13 ชีวิตแล้ว ทั้งนี้ จะพาออกมาได้เมื่อไหร จะดูจากความพร้อมของน้องๆ เป็นหลัก

ส่วนที่มีการถามว่ามีน้องน้องคนไหนบ้างที่ร่างกายแข็งแรงเพียงพอที่จะสามารถนำออกมาได้? ผู้ว่าฯ เชียงราย กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจน เพราะหมอแท้ๆเรามีอยู่คนเดียว และอย่าลืมว่าบรรยากาศภายในมันไม่ได้สะดวก ไม่ได้มีแสงสว่างมักนัก ที่จะสามารถตรวจสอบวินิจฉัยสุขภาพของเด็กแต่ละคนได้อย่างชัดเจน แต่ประเมินเรื่องต้นดูแล้วน้องๆ ส่วนใหญ่อยู่เลยเกณฑ์สีเขียว

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยนั้น มีทั้งรถพยาบาลหรือเฮลิคอปเตอร์ และการเคลื่อนย้ายโดยรถพยาบาลจะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 40 นาที แต่ถ้าใช้เฮลิคอปเตอร์นั้น ก็จะต้องนำตัวน้องๆ ใส่รถพยาบาลอีกที จึงทำให้เสียเวลามากกว่า ฉะนั้นต้องประเมินดูสถานการณ์จราจรตอนหน้างานอีกที ถ้าการจราจรไม่มีปัญหาก็อาจจะเคลื่อนตัวน้องๆ ด้วยรถยนต์ แต่ถ้าประเมินแล้วการจราจรมีปัญหาเราก็จะส่งตัวน้องๆ ด้วยเฮลิคอปเตอร์

ส่วนดราม่าเรื่องการมอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือแก่ญาติของทั้ง 13 ชีวิต ผู้ว่าฯ เชียงราย กล่าวอีกว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบราชการ โดยในระเบียบราชการมีอยู่ว่าการเยียวยาช่วยเหลือครอบครัว ต้องอยู่ในเหตุประสบภัยอะไรและแต่ละภัยมีเงินช่วยเหลือเท่าไหร่ ทุกอย่างมีเหตุผลอยู่ทุกรายการ ฉะนั้น การที่ พม.เอาเงินมาแจกครอบครัวน้องรายละ 2,000 บาท เป็นระเบียบราชการที่ว่า กรณีทีญาติพี่น้องประสบเหตุจนทำให้ได้รับผลกระทบต่อจิตใจ ก็จะเบิกได้ 2,000 บาท จึงไม่ใช่เรื่องที่เราจะเอาเงินไปแจกจ่ายใครก็ได้

...

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ทุกคนยังดีอยู่ แม้ว่า จะมีเหนื่อยล้ากันบ้าง เพราะ ตอนนี้เข้าวันที่ 11 แล้ว ฉะนั้นถ้าตนมีเวลาก็จะเข้ามาเยี่ยมเยียน เพื่อถามสารทุกข์สุขดิบอย่างสม่ำเสมอ และเจ้าหน้าที่บางคนที่กลับไป หลังจากปฎิบัติภารกิจที่ถ้ำหลวงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ยังต้องกลับไปเข้าเวรของตัวเองอีก เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่เดินเยี่ยมให้กำลังใจเขา เขาอาจจะอ่อนล้าไร้กำลังใจ และผมจะเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคน.