รถบรรทุกหกล้อชนรถ จยย.นักศึกษาดับ 1 สาหัส 1 บนถนนทางเข้าประตู 3 ของ มรภ.พิบูลสงคราม เผย คนขี่ จยย.หันไปคุยกับคนซ้อน ทำรถหลุดโค้งมาชนจนแขนคนขี่ขาดกระเด็น...
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 11 มิ.ย.2561 พ.ต.ท.สันตสิริ เมตตาวงศ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุรถบรรทุกหกล้อชนรถจักรยานยนต์ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บสาหัส 1 ราย บนถนนทางเข้าประตู 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม หมู่ 5 ต.บ้านคลอง ไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน ถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์บรรทุกหกล้อยี่ห้อโตโยต้า DUNA สีขาว ทะเบียน 70-1952 พิษณุโลก จอดอยู่ริมถนนขาออกมหาวิทยาลัย มีร่องรอยการเฉี่ยวชนที่ไฟเลี้ยวและประตูด้านขวาข้างคนขับ โดยมี นายประคอง เสนานุช อายุ 39 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ยืนรออยู่ในที่เกิดเหตุ
ห่างออกไปประมาณ 50 เมตรบริเวณทางโค้งพบศพผู้เสียชีวิตนอนหงายจมกองเลือดอยู่กับพื้นถนน ใกล้กับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 ไอ สีดำ ทะเบียน อธฬ 950 กรุงเทพฯ สภาพด้านหน้ารถพังยับเยินที่ล้มคว่ำอยู่ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมา คือ นายอนุรักษ์ วิวัฒนะมงคล อายุ 22 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เป็นนักศึกษาระดับชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมเครื่องกุล คณะอุตสาหกรรมศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ ใส่กางเกงยีนส์สีดำ มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะและแขนขวาขาด ส่วนผู้บาดเจ็บหน่วยกู้ชีพ รพ.ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้มาช่วยเหลือปั้มหัวใจในที่เกิดเหตุก่อนนำส่งโรงพยาบาล ยังไม่ทราบชื่อนามสกุลเนื่องจากอาการสาหัส คาดว่าจะเป็นเพื่อนนักศึกษาด้วยกัน
...
ตำรวจสอบสวน นายประคอง คนขับรถบรรทุกทราบว่า หลังนำขี้เถ้าไปทิ้งในมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามแล้ว ขณะขับรถกลับมาตามเส้นทางดังกล่าว เห็นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตขับสวนทางมา ผู้เสียชีวิตที่เป็นคนขับได้หันไปคุยกับคนซ้อนท้ายที่บาดเจ็บทำให้รถหลุดโค้งเลยเข้ามาในเลนของตน ตนพยายามหักพวงมาลัยรถหลบจนลงข้างทางแล้ว แต่ก็ไม่พ้นทำให้รถจักรยานยนต์ชนรถของตน เป็นเหตุให้คนขับรถจักรยานยนต์เสียชีวิตและเพื่อนที่ซ้อนท้ายบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพส่งให้แพทย์ชันสูตรอีกครั้งที่ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร ก่อนมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี และจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.