ทำดีฟ้าเห็น!! มทภ.3 เรียกตัว "จ่าชาติ" ทหารจิตอาสา มารับสิ่งของ และเครื่องใช้ เพื่อหนุนในการทำความดี ช่วยเหลือผู้ยากไร้บนดอยสูง ถิ่นทุรกันดาร เพราะถือเป็นผู้ปิดทองหลังพระ เป็นต้นแบบทำความดี สมกับเป็นทหารที่พึ่ง ปชช. ขณะที่เจ้าตัวขอทำความดีต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดลมหายใจ...
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 พ.ค. พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานมอบสิ่งของ เครื่องใช้ให้กับ จ.ส.อ.วีรชาติ ศิริสอ เสมียนสัสดี อ.สามเงา จ.ตาก ทหารจิตอาสา ซึ่งเป็นสะพานบุญแห่งขุนเขามานานกว่า 8 ปี เพื่อช่วยสนับสนุนการทำความดีในการนำสิ่งของไปช่วยเหลือผู้ยากไร้ และเด็ก ๆ บนดอยสูง ในถิ่นทุรกันดารของ จ.ตาก ที่บริเวณลานกาแฟ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังจากถูกเผยแพร่ในสกู๊ปข่าว "จนไม่จริงอย่าหลอกกัน! เปิดใจ จ่าชาติ ทหารอาสา 8 ปี เทวดาของชาวดอย" โดยไทยรัฐออนไลน์ ตามที่ได้มีการเสนอข่าวมาตามลำดับแล้วนั้น
โดย พล.ท.วิจักขฐ์ กล่าวว่า การที่ จ.ส.อ.วีรชาติ ใช้เวลายามว่างจากงานราชการ ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ที่ได้รับความเดือดร้อน ในถิ่นทุรกันดารของ จ.ตาก มาเป็นระยะเวลานานกว่า 8 ปี นั้น ถือได้ว่าเป็นการกระทำแบบปิดทองหลังพระ ซึ่งนับว่าเป็นต้นแบบในการทำความดี ที่กำลังพลทุกนายควรกระทำตาม ในการทุ่มเท อุทิศตน เสียสละ เพื่อสังคมและประเทศชาติ สมกับนโยบายของกองทัพบกคือ "ทหารต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส" ทางกองทัพภาคที่ 3 จึงได้จัดพิธีมอบสิ่งของ เครื่องใช้ ให้กับ จ.ส.อ.วีรชาติ เพื่อเป็นส่วนร่วมและสนับสนุน ในการนำสิ่งของเครื่องใช้ไปช่วยเหลือผู้ยากไร้และเด็ก ๆ บนดอยสูงในพื้นที่ จ.ตาก ต่อไป
...
สำหรับสิ่งของและเครื่องใช้ที่ทางกองทัพภาคที่ 3 มอบให้ จ.ส.อ.วีรชาติ ในวันนี้เป็นถุงยังชีพ กองทัพบก 40 ถุง น้ำดื่ม 100 แพ็ก ผ้าห่มกันหนาวกองทัพบก 100 ผืน ข้าวสาร 50 ถุง เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า ชุดนักเรียน และของใช้จำเป็นอื่น ๆ
แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกยินดีและชื่นชม กำลังพลในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ที่ได้ปฏิบัติตนเป็นจิตอาสามุ่งมั่นทำความดี ทำคุณประโยชน์แก่ส่วนรวม ดูแลช่วยเหลือเคียงข้างประชาชน ด้วยความจริงใจ ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ต้องเชิดชู ยกย่อง และสนับสนุน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ทำความดีต่อไป สมกับเป็น "ทหารของประชาชน เทวดาบนดอย"
ด้าน จ.ส.อ.วีรชาติ กล่าวว่า ตนภาคภูมิใจที่ผู้บังคับบัญชา เห็นความตั้งใจของตนเองในการทำความดีช่วยเหลือสังคม ซึ่งจุดเริ่มต้นของการทำความดีของตนนั้น เริ่มแรกจากการเห็นผู้เดือดร้อนในหมู่บ้านที่ตนไปปฏิบัติหน้าที่ มีประชาชนในหมู่บ้านขาดแคลนเครื่องนุ่งห่ม และสิ่งของเครื่องใช้ จึงได้ตั้งใจที่จะนำของที่ตนมีแบ่งปันให้กับผู้ที่เดือดร้อน พร้อมทั้งชวนเพื่อนๆ ตามเฟซบุ๊กบ้าง โทรศัพท์คุยบ้าง ให้ช่วยเหลือประชาชนจนมาถึงปัจจุบัน
"ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือผู้ที่ลำบาก เราได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ เงินเดือนตนตอนนี้ 20,304 บาท ต้องส่งสหกรณ์ เหลือกว่า 7,000 บาท ต้องส่งค่าผ่อนรถที่ใช้อยู่เดือนละกว่า 5,000 บาท ซึ่งเหลืออีกประมาณ 300,000 บาทก็จะผ่อนหมด แต่ละเดือนจึงไม่เหลือเงินที่จะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอะไร สิ่งของที่นำไปบริจาคก็จะได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้าหน่วยงานและเพื่อน ๆ ในเฟซบุ๊ก บางครั้งก็มีคณะผู้ใจบุญจากกรุงเทพฯ นำสิ่งของมามอบให้โดยให้ตนเป็นผู้นำพาไป ตนเป็นคน จ.เชียงราย พ่อแม่มีอาชีพทำนา ยังไม่มีครอบครัวจึงไม่มีภาระค่าใช้จ่ายส่วนตัวมากนัก และตั้งใจจะทำความดีเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เพราะการทำความดีไม่มีวันเกษียณอายุ จนกว่าจะหมดลมหายใจไปเอง" จ่าชาติกล่าว.
...