ขนทีละ1ล้าน ใส่เปไปพม่า พันถึง ‘เบนซ์’
ตำรวจ ปส.เปิดยุทธการชัยยะสยบไพรี 61/5 เด็ดดอกไม้พิษ กวาดล้างยานรกกว่า 80 เป้าหมายทั่วประเทศ บุกทลายแหล่งฟอกเงิน รวบ 4 สาวรับจ้างโอนเงินให้แก๊งค้ายานรกข้ามชาติ และเบิกถอนครั้งละ 1 ล้านบาทขนข้ามแดนแม่สาย จ.เชียงราย พร้อมจับหนุ่มพม่ามารับเงินอีก 1 คน ก่อนสั่งอายัดทรัพย์กว่า 20 ล้านบาท ผบช.ปส.ชี้ผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายเดียวกับ “เบนซ์ เรชซิ่ง” สามีดาราสาว ขณะที่กำลังอีกชุดบุกค้นร้านทองกลางตลาดอัญมณีแม่สอด จ.ตาก หลังพบการโอนเงิน และโยงคนร้ายที่เพิ่งถูกวิสามัญฯ 2 ศพ ยึดยาบ้า 5 ล้านเม็ด เฮโรอีนอีก 199 แท่ง
ตำรวจปราบปรามยาเสพติดทลายแก๊งยาเสพติดเครือข่าย “เบนซ์ เรซซิ่ง” พร้อมลุยค้นจับผู้ต้องหาตัวการฟอกเงินโอนให้นายทุนใหญ่ชาวพม่ารายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 15 พ.ค. ที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า บช.ปส. (ศปก.สน.ปส.) จ.เชียงราย ภายในรีสอร์ทปุณยมันตรา หมู่ 7 ต.ห้วยไร่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. ร่วมกันแถลงผลกวาดล้างยาเสพติดตามแผนชัยยะสยบไพรี 61/5 ยุทธการเด็ดดอกไม้พิษ ระหว่างวันที่ 1-15 พ.ค. ในพื้นที่กว่า 80 เป้าหมายทั่วประเทศ
ล่าสุดเช้ามืดวันที่ 15 พ.ค. ตำรวจปราบปรามยาเสพติดร่วมกับ ป.ป.ส. บช.ภ.5 ตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เจ้าหน้าที่ ปปง.และทหารกองกำลังผาเมืองนำกำลังกว่า 100 นาย เข้าปฏิบัติการตรวจค้นแหล่งฟอกเงินในพื้นที่ จ.เชียงราย 3 จุด จุดแรกที่ หจก.ไอเอชเค เทรดดิ้ง เลขที่ 702 หมู่ 3 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ของนางภัทวิน เสิมเส็น ผู้ต้องสงสัยร่วมกันฟอกเงิน ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จุดที่ 2 บ้านเลขที่ 430 หมู่ 10 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ของ น.ส.หอมนวล ยอดอ่อน อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันฟอกเงิน พบเงินสด 11,000 บาท สร้อยคอทองคำและแหวนทองจำนวนหนึ่ง และจุดสุดท้ายบ้านเลขที่ 141 หมู่ 2 ต.โป่งผา อ.แม่สาย ของ น.ส.ทับทิม ใหญ่ทอง อายุ 33 ปี และ น.ส.เมวิกา ชาญอาวุธ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันฟอกเงิน แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย
...
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จับกุม น.ส.หอมนวล น.ส.ทับทิม และ น.ส.เมวิกา ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน หลังทั้งหมดมีพฤติการณ์รับจ้างโอนเงินให้กับขบวนการค้ายาเสพติดจากพม่า โดย น.ส.หอมนวลรับสารภาพว่า หลังได้รับการโอนเงินจากขบวนการค้ายาเสพติดเข้าบัญชีจะไปเบิกจากธนาคารครั้งละ 1 ล้านบาทนำใส่กระเป๋าเป้สะพายหลัง ขี่รถ จยย.ข้ามด่านพรมแดนสะพาน 1 อ.แม่สาย เพื่อไปส่งให้ขบวนการค้ายาเสพติดในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ได้รับค่าจ้างขนเงินครั้งละ 10,000 บาทต่อเงิน 1 ล้านบาท ตรวจสอบพบว่าช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีเงินหมุนเวียนเข้าออกบัญชีกว่า 200 ล้านบาท หรือเบิกเงินออกวันละ 1 ล้านบาท
ส่วนพฤติกรรมของ น.ส.ทับทิม ใหญ่ทอง พบว่า มีความเชื่อมโยงกับขบวนการยาเสพติดข้ามชาติ หลังจากเมื่อวันที่ 27 ม.ค. ตำรวจจับนายไพบูลย์ หรือต้น โอสถ นายสิทธิพงค์ หรือนัท แซ่ตัน และ น.ส.สุชาดา หรือบุ๋ม ขำยินดี พร้อมของกลาง ยาบ้า 60,777 เม็ด บริเวณลานจอดรถศุภาลัยปาร์ค แยกติวานนท์ ถนนประชาราษฎร์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี ตรวจสอบพบสลิปโอนเงินค่ายาเสพติดไปเข้าบัญชีของ น.ส.ทับทิม และ น.ส.ทับทิมให้ น.ส.เมวิกา กับ น.ส.หอมนวล ผู้ต้องหาอีก 2 คนช่วยกันนำเงินส่งข้ามไปฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก บางครั้งจะนำใส่กระเป๋าเป้นักเรียนพม่าที่เข้ามาเรียนฝั่งไทยกลับฝั่งพม่าในช่วงเย็นหลังเลิกเรียน ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จะผลัดกันส่งเงินครั้งละ 1 ล้านบาท
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังร่วมกันจับกุมนางเพ็ญศรี ก้างออนตา อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 หมู่ 2 ต.ศรีเมืองชุม อ.แม่สาย ขณะเบิกเงินจากแก๊งยาเสพติดที่ธนาคารกสิกรไทย สาขา 1 อ.แม่สาย และนายไส เทน มิน อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาชาวพม่าที่มารับเงินจากนางเพ็ญศรีที่ได้รับโอนมาจากเครือข่ายยาเสพติด ในบัญชีมีเงินอยู่ 3.7 ล้านบาท
พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. เปิดเผยถึงเบื้องหลังการทลายแหล่งฟอกเงินเครือข่ายยาเสพติดว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ม.ค.60 ตำรวจ บช.ปส.จับกุมนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ กับพวก พร้อมของกลางยาเสพติดเคตามีน ก่อนขยายผลจับนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรชซิ่ง สามีของแพท-ณปภา ตันตระกูล ดาราสาว ตรวจสอบพบมีการโอนเงินค่ายาเสพติดเข้าบัญชีชาวพม่า ต่อมาวันที่ 6 ก.พ. ตำรวจ สภ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง จับนายนิพนธ์ กลิ่นระรื่น และ น.ส.เฉลิมพร กรอนกระโทก พร้อมยาบ้า 46,000 เม็ด ไอซ์หนัก 1,570 กรัม พบการโอนเงินเข้าบัญชีชาวพม่าคนเดิม และโอนเข้าบัญชี น.ส.เพ็ญศรี จากนั้น น.ส.เพ็ญศรีไปเบิกเงินให้กับนายไส เทน มิน ผู้ต้องหาชาวพม่าที่มาคอยรับที่ธนาคาร
ผบช.ปส. กล่าวอีกว่า ส่วนผลการปฏิบัติงานตามแผนชัยยะสยบไพรี 61/5 เด็ดดอกไม้พิษ ระหว่างวันที่ 1-15 พ.ค จับกุมทั้งหมด 18 คดี ได้ผู้ต้องหาสำคัญ 5 คน ประกอบด้วย น.ส.เพ็ญศรี ก้างออนตา นายไส เทนมิน น.ส.ทับทิม ใหญ่ทอง น.ส.เมวิกา ชาญอาวุธ น.ส.หอมนวล ยอดอ่อน ยึดของกลางยาบ้าได้ 6,194,000 เม็ด มูลค่า 619,400,000 บาท เฮโรอีน 70 กิโลกรัม เป็นเงิน 44,775,000 บาท ไอซ์ 493 กิโลกรัม มูลค่า 1,479,000,000 บาท ยาอี 18,000 เม็ด เป็นเงิน 9,000,000 บาท ผงยาอี 1 กิโลกรัม เป็นเงิน 1,000,000 บาท เคตามีน 10 กิโลกรัม มูลค่า 10,000,000 บาท ใบกระท่อม 50 ใบ และปืน 3 กระบอก ส่วนการอายัดทรัพย์สินผู้ต้องหา มีรถยนต์ 2 คัน รถ จยย.2 คัน บ้านพร้อมที่ดิน 2 หลัง เงินสด 4,275,487 บาท เงินในบัญชี 5,397,046 บาท โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง และทรัพย์สินอื่นๆอีกหลายรายการ รวมมูลค่า 19,789,533 บาท
ส่วนที่ จ.ตาก เช้ามืดวันเดียวกัน พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบก.ปส.3 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกระจายตรวจค้นพื้นที่ 5 เป้าหมายเครือข่ายฟอกเงินยาเสพติด เป้าหมายสำคัญคือบริษัทห้างทองวิริยะ จำกัด เลขที่ 84/3 ถนนประสาทวิถี ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ตั้งอยู่กลางตลาดค้าอัญมณีกลางเมืองแม่สอด ก่อนยึดเอกสารทางการเงินไปตรวจสอบ สำหรับการตรวจค้นครั้งนี้เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการโอนเงินจัดซื้อสารตั้งต้น และเชื่อมโยงขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มเดียวกับนายคมสัน แซ่โง้ว อายุ 31 ปี และนายสุรินทร์ แสงทรงเจริญ อายุ 23 ปี แก๊งขนยาเสพติดที่ถูกเจ้าหน้าที่ร่วมกันวิสามัญฆาตกรรม 2 ศพในพื้นที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เมื่อคืนวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมยึดยาบ้าของกลางได้ถึง 5 ล้านเม็ด และเฮโรอีนอีก 199 แท่ง หนัก 76 กิโลกรัม
...
ด้าน พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข กล่าวถึงการตรวจค้นร้านทองว่าเป็นวิธีการอำพรางเส้นทางการเงินค้ายาเสพติดคือใช้ร้านทองเป็นที่อำพราง โดยโอนเงินมาที่ร้านทอง หากถูกตรวจสอบก็จะเปลี่ยนเป็นทองแท่ง หรือทองเส้นส่งออก อ้างว่าจะเอาไปจำหน่าย แต่เจ้าหน้าที่สรรพากรตรวจสอบการเสียภาษีไม่เท่ากับปริมาณทองส่งออก ขณะนี้ทหารล็อกตัวผู้ต้องหารายสำคัญไว้ก่อน เพื่อกันไม่ให้หนีออกนอกประเทศ ที่น่าตกใจคือเมื่อถึงเวลาเร่งด่วนจะเอาเงินใส่เป้สะพานหลังเดินออกนอกประเทศ พวกนี้ทำกันเป็นทีม มีเครือข่ายแต่ละทีมเป็นร้อยๆคน หลายร้อยทีม ถ้าจับได้ก็จะย้ายไปจังหวัดอื่นอาจไปเชียงใหม่หรือพะเยา สำหรับผู้ต้องหาให้การภาคเสธว่ามีการรับการส่งเงินจริงแต่ปฏิเสธว่าไม่รู้ว่าเป็นเงินอะไร
ต่อมาช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นร้านจำหน่ายสุราข้างโรงเรียนแม่สอด เขตเทศบาลนคร-แม่สอด พบนางมะเท อายุ 59 ปี ชาวเมียนมา พร้อมครอบครัวพักอาศัยรวม 4 คน ภายในห้องนอนลูกสาวพบเงินสด 9 ล้านบาท และทองคำแท่งกับทองรูปพรรณน้ำหนักกว่า 70 บาทเก็บไว้ในตู้เซฟ จึงอายัดทรัพย์สิน เงินสดและทองรูปพรรณไปตรวจสอบ เนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบสวนพบว่าร้านจำหน่ายเหล้าดังกล่าวเชื่อมโยงการฟอกเงินให้กับขบวนการยาเสพติด