รอขน-ลงเรือส่งข้ามขายจีนถูกตร.สกัดได้
แฉขบวนการค้าไม้ข้ามชาติแอบนำไม้เถื่อนพักไว้หน่วยป้องกัน รักษาป่าเพื่อรอขนลงเรือส่งขายต่างชาติ ล่าสุด ตำรวจตามสกัดจับไม้ได้คารถ 10 ล้อ 2 คัน ทั้งคนขับและเจ้าของรถยืนยันขนมาจากหน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นไม้ที่ถูกต้องและมีคนว่าจ้างมา ขณะที่หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าอ้างเป็นไม้ที่มีกลุ่มคนนำมากองไว้ในตอนกลางคืนแต่ไม่มีกำลังตรวจสอบ พอมาตรวจสอบภายหลังพบเป็นไม้เถื่อน
ขบวนการค้าไม้เถื่อนข้ามชาติใช้สถานที่ราชการเป็นจุดพักไม้ก่อนขนลงเรือในแม่น้ำโขงส่งขายเมืองจีน ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.เอกณสันต์ ศรีสองเมือง ผกก.สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย รับรายงานจะมีขบวนการลักลอบ ขนไม้หวงห้ามขนลงเรือที่แม่น้ำโขงก่อนส่งขายประเทศจีน จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ จันทะวงค์ รอง ผกก. (สส.) สภ.เชียงแสน พร้อมกำลังตรวจสอบจับกุม กระทั่งพบรถบรรทุก 10 ล้อ ทะเบียน 70-7331 เชียงราย ด้านท้ายคลุมผ้าอย่างมิดชิดขับมาจาก บ้านสบคำ ต.เวียง อ.เชียงแสน จึงขอตรวจค้นพบนายเสฎฐพัฒน์ ระลึก อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 61 หมู่ 8 ต.พระบาท อ.เชียงกลาง จ.น่าน เป็นคนขับรถ และพบไม้ประดู่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-1.20 เมตร ยาว 2.50 เมตร จำนวน 10 ท่อน และไม้แปรรูปขนาด ใหญ่ 2 แผ่น ซุกซ่อนกระบะหลัง ไม่มีรอยประทับดวงตราป่าไม้และเอกสารการเคลื่อนย้ายไม้
ระหว่างนั้นมีรถบรรทุก 10 ล้อ ทะเบียน 70-6393 เชียงราย ขับตามหลังมาอีกคันจึงเรียกให้หยุด เพื่อตรวจค้น มีนายวีระ อาริยะยิ่ง อายุ 50 ปี เป็นคนขับ ตรวจค้นหลังรถพบไม้ประดู่ 6 ท่อน และไม้แปรรูปขนาดใหญ่อีก 1 แผ่น ไม่มีรอยประทับดวงตราของป่าไม้และไม่มีเอกสารการเคลื่อนย้ายไม้ เช่นกัน จึงยึดไม้ทั้งหมดพร้อมรถไว้เป็นของกลางส่งหน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ ชร.4 (หาดไคร้) ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน สอบสวนคนขับทั้งสองให้การว่า เป็นคนขับรถของ หจก.เชียงแสนเครน ได้รับคำสั่งจากนายจ้างให้ไปบรรทุกไม้ประดู่ท่อนจากในหน่วยป้องกันรักษาป่าที่บ้านแซวไปส่งที่บ้านงิ้วเฒ่า ต.ศรีดอยมูล อ.เชียงแสน โดยไม่รู้ว่าเป็นไม้ ผิดกฎหมาย นำตัวส่ง ร.ต.ท.ประสงค์ สมพรเสริฐ พนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน ดำเนินคดี
...
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบหน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ ชร.4 (หาดไคร้) ต.บ้านแซว ปรากฏว่า พบไม้ประดู่แปรรูปขนาดใหญ่ ความยาว 2.50 เมตร หนา 4- 6 นิ้ว หน้ากว้าง 12-18 นิ้ว จำนวน 111 แผ่น ถูกกองทิ้งไว้ในหน่วยป้องกันรักษาป่าดังกล่าวนั้น ต่อมานายวัชระ ศักดิ์เจริญ เจ้าพนักงานป่าไม้ ชำนาญงาน ในฐานะหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ ชร.4 (หาดไคร้) พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจสอบไม้ประดู่แปรรูป 111 แผ่น และไม้ของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมพร้อมรถ 10 ล้อ 2 คันพบเป็นไม้หวงห้ามที่ถูกลักลอบตัด โดยนายวัชระ อ้างว่า เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมามีกลุ่มบุคคลไม่ทราบชื่อและที่อยู่นำไม้แปรรูปจำนวนดังกล่าวใส่รถบรรทุกมาไว้ในหน่วย ซึ่งเวลานั้นเป็นเวลากลางคืนและกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้แจ้งว่าเป็นไม้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมนำเอาเอกสารหลักฐานจำนวนมากมาส่งมอบให้เจ้าหน้าที่
นายวัชระกล่าวอีกว่า กลุ่มคนดังกล่าวยังบอกด้วยว่า ช่วงเช้าจะมีคนมาติดต่ออีกครั้งก่อนเดินทางกลับไป แต่เนื่องจากเวลานั้นเป็นช่วงกลางดึกและมีกำลังพลในการตรวจสอบน้อย ไม่สะดวกในการปฏิบัติงาน จึงมาตรวจกองไม้ในช่วงเช้าพบว่าเป็นไม้ไม่ตรงตามเอกสารที่ส่งมอบ เพราะไม้ดังกล่าว เป็นไม้แปรรูปใหม่สด ตรวจหัวท้ายไม้แปรรูปไม่มีรูปรอยดวงตราของรัฐบาลตีประทับแต่อย่างใด ส่วนเอกสารที่มอบไว้กับเจ้าหน้าที่แสดงเป็นไม้ท่อนจำนวน 128 ท่อน เมื่อติดต่อไปยังบุคคลที่นำมาฝากและมีชื่อที่ปรากฏในเอกสารไม่สามารถติดต่อได้ และได้รอจนถึงเวลา 10.35 น. ยังไม่มีผู้ใดมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
ต่อมาวันที่ 27 มี.ค. ร.ต.อ.ประสงค์ สมพรเสริฐ พนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน ได้เรียกตัวนายดวงแจ้ม แก้วรากมุข อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 506 หมู่ 3 ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เจ้าของรถบรรทุก 10 ล้อทั้งสองคันมาสอบสวน เบื้องต้นนายดวงแจ้มให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากเจ้าของไม้ลักษณะเป็นชาวจีนให้นำรถไปบรรทุกไม้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ ชร.4 (หาดไคร้) พร้อมทั้งว่าจ้างรถเครนของตนไปยกไม้ขึ้นรถด้วย โดยให้นำไม้ไปส่งที่บ้านงิ้วเฒ่า ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน ซึ่งตนเข้าใจว่าไม้ดังกล่าวเป็นไม้ที่ถูกต้องเพราะอยู่ในหน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ อีกทั้งไม่มีเจ้าหน้าที่ในหน่วยมาสอบถามแต่อย่างใดจึงขนไม้ใส่รถ แต่พอมาถึงสามแยกคุ้มขนาบโขงก็ถูกตำรวจจับ
ด้านนายพินิจ แก้วจิตคงทอง นอภ.เชียงแสน กล่าวว่า หลังได้รับรายงานว่า มีการจับกุมไม้ประดู่จำนวน 2 คันรถสิบล้อและยังพบไม้ประดู่อีก 111 แผ่นภายในหน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ ชร.4 (หาดไคร้) จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกับหน่วยความมั่นคงเชียงแสน พบกองไม้ประดู่แปรรูป 111 แผ่น และไม้ท่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้ 19 ท่อนและเป็นไม้เถื่อนโดยเจ้าของรถบรรทุกอ้างว่าได้รับว่าจ้างให้มาบรรทุกไม้ ซึ่งเป็นไม้ที่พ้นการอายัดแล้วแต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในที่สุด ในเบื้องต้นต้องอายัดไว้เพื่อตรวจสอบที่มาของไม้ทั้งหมดและสอบสวนผู้เกี่ยวข้องว่าไม้ประดู่ 111 แผ่นมากองไว้ในหน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ ชร.4 (หาดไคร้) ได้อย่างไรทั้งที่เป็นไม้ผิดกฎหมาย
รายงานจากชุดสืบสวนระบุว่า ปัจจุบันแก๊งค้าไม้เถื่อนข้ามชาติมักจะใช้สถานที่ราชการเป็นจุดพักไม้เถื่อนที่ลักลอบตัดไว้แล้วเพื่อรอขนลงเรือที่แม่น้ำโขงก่อนส่งไปขายประเทศจีน สาเหตุที่นำมาพักไว้ในสถานที่แห่งนี้เพื่อป้องกันการถูกตรวจค้นจากหน่วยอื่น เช่นเดียวกับไม้ลอตนี้ขบวนการค้าไม้นำมาพักที่หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ ชร.4 (หาดไคร้) เพื่อรอขนลงเรือ จังหวะที่ขนไม้ไปกับรถบรรทุก 10 ล้อ ปรากฏว่า ตำรวจ สภ.เชียงแสน ได้รับรายงานจากสายว่ามีการลักลอบขนไม้เถื่อน จึงสกัดจับจนทราบว่าไม้ทั้งหมดถูกขนมาจากหน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ ชร.4 (หาดไคร้) ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย