มะยงชิดพันธ์ุโบราณหนึ่งเดียวของโลก หลงเหลือเพียง 4 ต้น เกษตรกรชั้นเซียนเก็บงำเป็นความลับกว่า 20 ปี ตั้งใจเก็บไว้เป็นสมบัติของตระกูล แต่สุดท้ายกลัวจะตายไปด้วยกัน ยอมขยายพันธุ์
วันที่ 23 มี.ค. นายวิจิตร ไกรสรสวัสดิ์ อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 363/1 ถ.เทศา 2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร อดีตนักเรียนแพทย์ปี 3 อดีตพนักงานไฟฟ้าอาวุโสของโรงงานใหญ่ญี่ปุ่น ผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรปลูกมะปรางและมะยงชิด 15 ไร่ ปลูกมะปราง มะยงชิดจำนวน 500 ต้น มีจำนวน 65 สายพันธ์ุ แต่ปัจจุบันที่มีชื่อเสียง 10 สายพันธ์ุ แต่ละสายพันธ์ุผ่านการเก็บดีเอ็นเอ ยืนยันสายพันธ์ุ เป็นรายแรกของโลก
นายวิจิตร เปิดเผยถึงสาเหตุที่มาปลูกมะปราง มะยงชิดว่า ช่วงที่ตนเรียนแพทย์ได้ไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่บางขุนนนท์ บ้านเพื่อนมีต้นมะยงและมะปราง เพื่อนเด็ดมาให้ชิมรู้สึกอร่อยมากติดใจมาตั้งแต่นั้น หลังจากเรียนแพทย์ถึงปี 3 ต้องมีการผ่าศพ ทำให้ตนรู้สึกไม่ชอบมากๆ จึงหนีไปเรียนด้านไฟฟ้าที่ประเทศญี่ปุ่น จนจบไฟฟ้ามาถึง 3 สาขา
หลังเรียนจบ โรงงานใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นในประเทศไทยรับเข้าทำงาน ตนต้องเดินทางไปดูแลเรื่องไฟฟ้าให้กับโรงงานต่างๆ ทั่วประเทศ มีโอกาสวันเสาร์ อาทิตย์ก็จะเข้าไปเที่ยวตามสวนที่ปลูกมะปราง มะยงชิด แทบทุกสวนในประเทศ พร้อมเก็บข้อมูลต่างๆ ไว้เพราะคิดว่าเมื่ออายุมากขึ้นตนจะมาทำสวนปลูกมะปราง มะยงชิด
...
จนเมื่อปี 2533 จึงมาซื้อที่ทำสวนที่บ้านท่าข้าม หมู่ 7 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร พร้อมทั้งคัดพันธ์ุมะปรางและมะยงชิดที่ดีที่สุดมาปลูก ทำการปรับปรุงบำรุงพันธ์ุจนได้สายพันธ์ุที่ดีที่สุดจำนวน 10สายพันธ์ุ เมื่อส่งเข้าประกวด ใน 6 ปี คว้ารางวัลชนะเลิศมาถึง 12 รางวัล แต่ช่วงหลังไม่ได้ส่งประกวดอีกเพราะถูกขอร้อง เนื่องจากถ้าตนส่งผลมะปราง มะยงชิดเข้าประกวด เป็นการตัดโอกาสของผู้ประกวดรายอื่น ปัจจุบันตนจึงได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานชมรมผู้ปลูกมะปราง มะยงชิดภาคเหนือ
นายวิจิตร เปิดเผยว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ตนเก็บความลับโดยไม่ยอมเปิดเผยให้ใครรู้มาก่อน นั่นคือต้นมะยงชิดที่ยังไม่มีชื่อ เป็นมะยงชิดพันธ์โบราณที่ปัจจุบันไม่เคยพบเห็นที่ไหนในประเทศไทยและในโลกนี้ โดยมะยงชิดโบราณทั้ง 4 ต้นนี้ซื้อมาจากการออกร้านในงานประเพณีของ จ.กำแพงเพชร เนื่องจากเห็นว่าสวยแปลกๆ ซึ่งเซียนมะปรางและมะยงชิดจะรู้ทันที จึงเหมามาหมดทั้ง 4 ต้น
จากการสอบถามทราบว่าต้นแม่พันธ์ุมีขนาด 2 คนโอบ ปลูกอยู่ที่ป่ามะปราง ซึ่งปัจจุบันเป็นชุมชนป่ามะปรางในเขตเทศบาลเมืองกำแพงเพชร เมื่อตามไปดูก็พบว่าต้นมะยงชิดต้นดังกล่าวถูกตัดทิ้งไปแล้ว พื้นที่ป่ามะปรางถูกสร้างเป็นตึกหมดแล้ว รู้สึกเสียดายมาก
หลังจากที่ปลูกไปได้ประมาณ 2 ปีเศษ มะยงชิดต้นนี้ก็ออกลูก ผลมีลักษณะคล้ายหยดน้ำ ส่วนบนที่ติดขั้วงอนเล็กน้อยเรียวลงมาแล้วมาป่องที่ปลายผล เป็นผลยาวไม่กลม ผลใหญ่เท่าไข่เป็ด สีสวย รสชาติอร่อย เนื้อเยอะ เม็ดลีบ จนถึงปัจจุบันตนไม่เคยขายผล มีแต่นำไปแจกจ่ายให้ญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่สนิทกันเท่านั้น และไม่เคยบอกใครว่าเป็นมะยงชิดพันธ์ุโบราณ เกรงคนรู้จะนำไปเพาะขยายพันธ์ุ เพราะหวงมาก ตั้งใจไว้ว่าจะเก็บเป็นสมบัติของตระกูล
“ในตอนแรกไม่เคยคิดเปิดเผยจะให้เป็นความลับตลอดไปจนตาย แต่มาตอนหลังอายุมากขึ้นเรื่อยๆ มาคิดว่าถ้าเราตายแล้วไม่มีใครรู้มะยงชิดพันธ์ุโบราณต้นนี้ก็คงสาบสูญไปด้วย จึงมีแนวคิดอนุรักษ์ไว้ให้อยู่คู่กับ จ.กำแพงเพชร โดยตั้งชื่อเป็นสัญลักษณ์ของ จ.กำแพงเพชร ใช้ชื่อว่าเพชรชากังราว ซึ่งชากังราวเป็นชื่อเก่าของ จ.กำแพงเพชรนั่นเอง และจากการออกตระเวนดูมาทั่วประเทศแล้วไม่เคยพบมะยงชิดพันธ์ุนี้เลยแม้แต่ต้นเดียว”
...
ดังนั้นต่อไปนี้ตนจะทำการขยายพันธ์ุโดยการทำกิ่งพันธ์ุขาย เป็นการรักษาไว้ซึ่งมะยงชิดพันธ์ุโบราณที่มีเหลือแค่ 4 ต้นในประเทศไทยและในโลกนี้ โดยตั้งราคาไว้กิ่งละ 1,000 บาท เพราะถ้าเป็นเซียนมะปรางหรือมะยงชิดจะรู้เลยราคาไม่แพงเลย แต่ต้องบอกว่าใครอยากได้ต้องสั่งจองเท่านั้น เชื่อว่าทำออกมาต้องฮือฮาและมีเท่าไรก็ไม่พอขายแน่นอน