พื้นที่ส่วนใหญ่ของเชียงรายมีหมอกหนาทั้งยอดดอยและพื้นราบ ทัศนวิสัยขับขี่มองเห็นไม่เกิน 20 เมตร ชี้เป็นหมอกจริงๆ ไม่ใช่ควันไฟป่า โดยสามารถควบคุมการเผาได้ทั้งจังหวัด ไม่มีฮอตสปอตปรากฏ...
เมื่อช่วงเวลา 06.00 น. เช้าวันที่ 19 มี.ค. 61 พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดเชียงราย มีหมอกหนาปกคลุมทั่วบริเวณทั้งยอดดอยและพื้นราบ ทัศนวิสัยขับขี่รถต้องเปิดไฟหน้ามองเห็นไม่เกิน 20 เมตร อุณหภูมิลดต่ำกว่า 20 องศาฯ ในพื้นราบ ยอดดอยเหลือ 12-13 องศาฯ หลังจากเมื่อค่ำวันที่ 18 มี.ค. 61 เกิดพายุฝนกระหน่ำพร้อมมีลูกเห็บตกในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตตัวเมืองเชียงราย และ อ.แม่จัน ส่งผลให้บ้านเรือนและสวนผักผลไม้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ส่งผลดีด้านหมอกควัน จุดความร้อน (Hot Spots) โดยปีนี้ไม่เกิดในพื้นที่เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา

นายคำรณ ศรีโพธิ์ นอภ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ได้สั่งการให้หน่วยงาน ปภ.กำนัน ผญบ.เตรียมความพร้อมรับมือในการออกช่วยเหลือ ปชช.หากเกิดลมพายุเกิดขึ้นในช่วงระยะนี้ โดยให้ทุกฝ่ายแจ้งข่าวสารให้กับ ปชช.มีความพร้อมในการรับมือ โดยเฉพาะสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ตัดแต่งกิ่งไม้ใกล้ที่พักอาศัยเพื่อป้องกันการหักทับให้เกิดความเสียหาย ไม่ออกไปในที่โล่งแจ้งขณะเกิดพายุฝน และไม่ขับรถขณะเกิดลมพายุ ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 20-23 มีนาคม 2561)" ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2561 ส่วนการเผาป่าทำให้เกิดหมอกควัน ก็ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเป็นอย่างดี เนื่องจากได้ร่วมรณรงค์งดเผาในช่วง 60 วันตามนโยบายของจังหวัดฯ
...

ในขณะที่พื้นที่อื่นๆ ในแถบภาคเหนือกำลังประสบปัญหาเรื่องหมอกควันไฟป่าอย่างหนัก แต่ที่ จ.เชียงราย กลับไม่ประสบปัญหาดังกล่าว โดยเฟซบุ๊กแฟนเพจ DustView ได้เผยแพร่ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า “ถ้าฝุ่นควันเกิดจากการเผา ขณะนี้หลายจังหวัดภาคเหนือจึงประกาศอยู่ในช่วงห้ามเผา ลองดูจุดความร้อน (Hot Spots) จากภาพถ่ายดาวเทียมสองระบบ ที่แสดงสะสมตั้งแต่ 1 มี.ค. ถึง 18 มี.ค. กลับไม่พบในพื้นที่ อยากเข้าไปถาม ผู้ว่าฯ จังหวัดเชียงราย ท่านทำได้อย่างไร ไม่ว่าระบบไหน ก็ตรวจไม่พบ แสดงว่าท่านห้ามเผาได้จริง…กราบ เชียงราย สู้ๆ ครับ”.