ลูกเขยและผู้ดูแลกิจการโรงแรมสุดทนร้านข้าวต้มอยู่ติดกันส่งเสียงดังรบกวนลูกค้าโรงแรม รัวโหดเด็ดชีพผัวเมียเจ้าของร้าน กับลูกน้องดับสยอง 3 ศพ มือลั่นไกเผยผู้ตายกับเพื่อนตั้งวงกินเหล้าส่งเสียงดังยันเช้ามืด เข้าไปเตือนให้ลดเสียงลงแต่ไม่สำเร็จ เดินกลับโรงแรมชักปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อเตือนอีกครั้ง จนเกิดการโต้เถียงท้าทายกัน เดินออกมาหน้าโรงแรมหวังเคลียร์ปัญหา ฝ่ายผู้ตายวิ่งเข้าใส่หมายทำร้ายเลยชักปืน 9 มม. ยิงถล่มไม่ยั้งตายคาที่ 2 ศพ แล้วคว้าปืนลูกซองยาวบุกยิงเมียเจ้าของร้านอกพรุนเป็นศพที่สามคาร้านข้าวต้ม และยืนรอมอบตัว
ลูกเขยเจ้าของโรงแรมลั่นไกยิงผัวเมียเจ้าของร้านข้าวต้มกับลูกน้องดับสยอง 3 ศพ ปมโมโหกินเหล้าส่งเสียงดังรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 5 ม.ค. ร.ต.อ.รัชพล นุ้ยป้อม รอง สว. (สอบสวน) สภ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งจากนายกิตติ อภัยภักดี อายุ 30 ปี ลูกเขยเจ้าของโรงแรมเรือนแฝด 2 ถนนหลวงหมายเลข 1095 ปาย-เชียงใหม่ หมู่ 8 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ว่าได้ยิงเจ้าของร้านข้าวกับลูกน้องเสียชีวิตรวม 3 ศพ ที่หน้าโรงแรมเรือนแฝด 2 และร้านข้าวต้ม 25 น. เลขที่ 249 หมู่ 8 ที่อยู่ติดกัน พร้อมด้วย พ.ต.อ.วรพล พลมณี ผกก.สภ.ปาย แพทย์เวร รพ.ปาย นำกำลังและเจ้าหน้าที่กู้ภัยปาย รุดไปสอบสวน
ที่เกิดเหตุจุดแรกบริเวณริมถนนหน้าโรงแรมเรือนแฝด 2 พบเหยื่อกระสุนนอนหงายจมเลือดเคียงข้างกัน 2 ศพ ชื่อนายบัณฑิต จิระธรดล อายุ 46 ปี เจ้าของร้านข้าวต้ม 25 น. ถูกยิงด้วยปืน 9 มม. เข้าหน้าผาก 1 นัด และนายธนากร วิทยาบำรุง อายุ 45 ปี ลูกจ้างร้านข้าวต้มดังกล่าว ถูกยิงด้วยปืนชนิดเดียวกันเข้ากลางหน้าอก 2 นัด มีปลอกกระสุนตกเกลื่อนพื้น ศพที่ 3 อยู่ภายในร้านข้าวต้ม 25 น. ชื่อ น.ส.เยาวลักษณ์ มูลติรัตน์ อายุ 47 ปี ภรรยานายบัณฑิตถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าหน้าอกพรุนนอนตะแคงจมเลือดบนพื้น ส่วนนายกิตติ มือลั่นไก รอ มอบตัวอยู่ในโรงแรม พร้อมปืน 9 มม. 1 กระบอก และปืนลูกซองยาว 5 นัด มีกระสุนคารังเพลิง 2 นัด
...
สอบสวนนายกิตติ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนใช้ปืนยิงคนทั้ง 3 เสียชีวิต เพราะสุดจะทน ที่ร้านของผู้ตายส่งเสียงดังมาตลอด เพราะขายข้าวต้มตลอดทั้งคืนมีการคุยกันเสียงดังรบกวนลูกค้าของโรงแรม เคยออกไปขอร้องหลายครั้งก็ไม่เป็นผล บางครั้งลูกค้าทนไม่ไหว เช็กเอาต์กลางดึก ก่อนเกิดเหตุเจ้าของร้านข้าวต้มเหยื่อกระสุน กับเพื่อนๆ รวม 6 คน นั่งดื่มกินส่งเสียงดังตั้งแต่ประมาณตี 1 ถึงตี 4 ตนเข้าไปเตือนแต่ไม่มีใครสนใจ เลยยิงปืนขึ้นฟ้าเตือนไป สร้างความไม่พอใจให้กับนายบัณฑิต มีการท้าทายกันเรียกให้ออกมาเคลียร์ ตนเดินมาที่หน้าโรงแรม นายบัณฑิตกับนายธนากร วิ่งเข้ามาหาหมายจะทำร้าย เลยใช้ปืนยิงสวนไปจนหมดแม็ก แล้วกลับไปหยิบปืนลูกซองยาวบุกเข้าไปยิง น.ส.เยาวลักษณ์ เป็นศพที่สาม ส่วนคนที่นั่งร่วมวงกับผู้ตายแตกตื่นวิ่งหนีไปหมดแล้ว
จากการสอบสวนยังทราบอีกว่านายกิตติมือยิงกับนายบัณฑิต เจ้าของร้านข้าวต้ม มีปากเสียงทะเลาะกัน มานานนับปี สาเหตุมาจากเรื่องที่มีการส่งเสียงดังในร้านข้าวต้ม รบกวนลูกค้าที่พักในโรงแรม หลายรายต้องเช็กเอาต์ออกจากโรงแรมกลางดึก ทำให้โรงแรมขาดรายได้ นอกจากนี้ ลูกค้าร้านข้าวต้มบางรายยังนำรถเข้าไปจอดในโรงแรม ทำให้ผู้ที่จะเข้าพักโรงแรมไม่มีที่จอดรถ กลายเป็นความไม่พอใจสะสม กระทั่งนายกิตติไปขอให้ทางร้านข้าวต้มหยุดส่งเสียงดังจนเรื่องบานปลายกลายเป็นคดีสังหารโหดดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 กล่าวว่าได้รับรายงานแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นเรื่องทะเลาะวิวาทระหว่างร้านข้าวต้มกับโรงแรม โดยทางผู้ก่อเหตุเป็นญาติกับเจ้าของโรงแรมบอกว่าร้านข้าวต้มส่งเสียงดังเป็นประจำ ไปต่อว่าจนทะเลาะกันทางฝ่ายโรงแรมก็ใช้ปืนยิงฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิต 3 ราย แล้วรอมอบตัวกับตำรวจ