ลุงเลือดร้อนขับฟอร์จูนเนอร์ฉุนขาด จอดรถลงมาใช้ไม้เท้าเหล็กกระหน่ำฟาดกระจกรถเก๋งวีออสแตกกระจาย หลังโดนบีบแตรเตือนเพราะขับเบียดเข้าช่องทางออกหน้าห้างดังเมืองเชียงใหม่ ฝ่ายคนขับเก๋งเป็นอาจารย์ ม.พายัพ ที่พาเมียท้องแก่กับลูกเล็กจะไปเที่ยว รีบตะโกนบอกในรถมีเด็กและเอ่ยปากขอโทษ แต่ลุงคลั่งไม่สนทุบตีจนหนำใจ โชคดีมีกล้องหน้ารถบันทึกคลิปเป็นหลักฐาน พอคดีถึงโรงพักลุงขี้โมโหอ้างเคยเป็นโรคหลอดเลือดสมองแตก ส่งผลอารมณ์แปรปรวน ยอมรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนัก วอนผู้ใช้รถใช้ถนนใจเย็นๆและรู้จักให้อภัยกัน
...
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกโซเชียลขึ้นมาทันที กรณีคลิปวีดิโอชายสูงวัยคนหนึ่ง ขับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ซิกม่าโฟร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 4 กม 3191 กรุงเทพมหานคร ปาดจะเข้าช่องทางออก บริเวณหน้าห้างพรอมเมนาดา มอลล์ ถนนดอนจั่น-สันกำแพง ต.ท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้รถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฌย 2735 กรุงเทพมหานคร ที่ขับมาในเส้นทางถูกต้องบีบแตรเตือนเพราะเกรงจะชนกัน คนขับฟอร์จูนเนอร์กลับไม่พอใจจอดรถลงมาด่าทอ ก่อนขึ้นรถขับไปเพียงเล็กน้อยแล้วจอดขวางทางไว้ คนขับลงมาอีกครั้งพร้อมใช้ไม้เท้าเหล็กฟาดใส่รถเก๋งจนกระจกประตูฝั่งคนขับแตกกระจาย ท่ามกลางเสียงหวีดร้องด้วยความตกใจกลัวของเด็กและผู้หญิงในรถเก๋ง โดยคนขับรถเก๋งเป็นชายหนุ่มพยายามบอกว่าในรถมีเด็กและรีบขอโทษ แต่ชายสูงอายุไม่สนใจกระหน่ำฟาดรถต่อไป หลังคลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไปกว่า 1 ล้านวิว ชาวเน็ตต่างตำหนิถึงการกระทำของชายสูงวัยดังกล่าว
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 ธ.ค. ร.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ทิวรรณา รอง สว. (สอบสวน) สภ.แม่ปิง อ.เมืองเชียงใหม่ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้นัดให้คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมาพบเพื่อเจรจาตกลงกัน ฝ่ายรถเก๋งคือ นายสันติภาพ วิริโยทัย อายุ 31 ปี อาจารย์สอนดนตรี มหาวิทยาลัยพายัพ จ.เชียงใหม่ เดินทางมาพร้อมภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ ฝ่ายรถฟอร์จูนเนอร์ที่ก่อเหตุคือ นายพรพรหม โทณวนิก อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/35 หมู่ 6 ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ อยู่ในสภาพเดินกะโผลกกะเผลกต้องใช้ไม้เท้าพยุงกาย การเจรจามี พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ ศิริเดชอนันต์ ผกก.สภ. แม่ปิง ร่วมรับฟังด้วย
นายพรพรหมให้การอ้างว่า สาเหตุที่กระทำลงไปเพราะขาดสติ เนื่องจากเคยรักษาอาการเส้นเลือดสมองแตกจนเป็นคนพิการ ต้องใช้ไม้เท้าค้ำยันเวลาเดิน หลังหายป่วยมักมีอารมณ์แปรปรวน ยิ่งในช่วงโกรธหรือโมโหจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจ และพร้อมจะรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้คู่กรณี เบื้องต้นตำรวจได้ดำเนินคดี 3 ข้อหาคือ ผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่นฯ เสนอนายทะเบียนยึดใบอนุญาตขับขี่รถยนต์เป็นเวลา 1 ปี, ข้อหาทำให้เสียทรัพย์ของผู้อื่น และข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนจะมีบทลงโทษมากน้อยเพียงใด ต้องรอผลการตรวจร่างกายของผู้เสียหายจากแพทย์มายืนยันอีกครั้ง
นายสันติภาพกล่าวว่า วันเกิดเหตุขับรถพาภรรยาที่กำลังท้อง 9 เดือนเศษ และลูกชายวัย 1 ขวบ 9 เดือน จะไปเที่ยวกันในครอบครัว ระหว่างนั้นได้เกิดเหตุการณ์ตามที่ปรากฏในคลิป เนื่องจากคู่กรณีที่ขับรถอยู่ในเลนซ้ายพยายามเบียดเข้าช่องทางออก ตนได้บีบแตรเตือนไป 2 ครั้ง เพราะกลัวรถจะชนกัน แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายลงมาตีกระจก จึงพยายามใช้สติและขอโทษ เนื่องจากเกรงเหตุการณ์บานปลายหากคู่กรณีมีอาวุธ แต่นายพรพรหมไม่ฟังและยังใช้ไม้เท้าทุบกระจกรถตน 10 กว่าครั้ง ทำให้กระจกแตกและเศษกระจกกระเด็นมาเข้าตาตนและลูกชายด้วย ขณะนี้แพทย์ได้นำเศษกระจกออกมาได้แล้ว เรื่องนี้อยากให้เป็นอุทาหรณ์คนใช้รถใช้ถนนไม่อยากให้เกิดขึ้นมาอีก จึงโพสต์คลิปลงในเฟซบุ๊กและมีผู้แชร์คลิปออกไปต้องขอบคุณคนไทยทั้งประเทศที่ส่งข้อความมาให้กำลังใจ
พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า นายพรพรหม ผู้ต้องหารายนี้เคย เป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ และป่วยเส้นเลือดในสมองแตก ขอเออร์ลี่ออกมาก่อน ผู้ต้องหาอ้างว่าทำอะไรลงไปโดยไม่รู้ตัว ขณะเกิดเหตุเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. นอกจากผู้ต้องหาจะใช้ไม้เท้าทุบกระจกรถเก๋งคู่กรณีแตกแล้ว ยังทุบตีคนขับรถเก๋งที่ข้อพับแขนขวาได้รับบาดเจ็บด้วย ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเพิ่มเติม ขอฝากไปยังประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนว่าการขับรถยนต์ทุกครั้งต้องมีสติ มีวินัย ไม่ประมาท ร่างกายต้องพร้อมในการขับรถ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจาก จ.เชียงใหม่ มีนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดเข้ามาเที่ยวจำนวนมาก หากมีอะไรเกินเลยไปบ้าง เช่น ขับรถปาดหน้ากัน ขอให้อภัยกัน จะได้ไม่เกิดความบาดหมางขึ้น
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยถึงกรณีชายสูงวัยที่ จ.เชียงใหม่ ใช้ไม้เท้าฟาดกระจกรถคันอื่นได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากกระจกบาดนั้น ขนส่งจังหวัดสามารถเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ได้ แต่โทษที่น่าจะหนักกว่าการถอนใบอนุญาต คงเป็นเรื่องคดีความทางอาญาที่ชายคนดังกล่าวจะได้รับมากกว่า
...