“จิต” ที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย...ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก เป็นทุกข์...จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรค...ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิต เป็นนิโรธ
“คิดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ต้องหยุดคิด...ให้ได้จึงรู้ แต่ก็ต้องอาศัยความคิดนั่นแหละจึงรู้...คนในโลกนี้ต้องมีสิ่งที่มี เพื่ออาศัยสิ่งนั้นเป็นผู้ปฏิบัติธรรม ต้องปฏิบัติถึงสิ่งที่ไม่มีและอยู่กับสิ่งที่ไม่มี”
จงรักษาใจ...ให้เหมือน “นาฬิกา” เพราะหน้าที่ของนาฬิกาคือ...การอยู่กับปัจจุบันขณะ ด้วยสัจจะและความเที่ยงตรง ปากอย่าไว...ใจอย่าเบา เรื่องเก่าอย่าไปรื้อฟื้น เรื่องอื่นอย่าไปคิด ทำกิจที่ชอบในปัจจุบัน...ให้รีบทำ
ทั้งหมดข้างต้นนี้คือคำสอนของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
“วัดเวียงหวาย” ต.แม่กรณ์ อ.เมือง จ.เชียงราย แม้จะตั้งอยู่ในละแวกพื้นที่แหล่งการท่องเที่ยวสำคัญ คราคร่ำไปด้วยผู้คนจากทุกสารทิศ แต่ก็สงบร่มรื่น ไม่ค่อยมีใครแวะเวียนเข้ามาเท่าใดนัก
เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันเล่าให้ฟังว่า วัดแห่งนี้สร้างมาตั้งแต่ราวๆ พ.ศ.2400 แล้วก็บูรณะกันเรื่อยมา จากพลังศรัทธาญาติโยมละแวกใกล้เคียง ถือเป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันมีศรัทธาใกล้เคียงประมาณ 80 หลังคาเรือน
...
มีพระภิกษุจำพรรษา 5 รูป พระปรีชา ปัญญาวชิโร เจ้าอาวาส มาอยู่บูรณะวัดแห่งนี้ได้ 3 ปีแล้ว สร้างศาลา หอระฆัง โรงครัว ห้องน้ำ
ถามว่าน้อยหรือเปล่า แน่นอนก็ย่อมต้องน้อยเป็นธรรมดา เรียกว่าน้อยมาก ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ทำนาปลูกข้าว ทำสวน แต่...ที่น่าศรัทธาก็คือ องค์พระพุทธรูปในอุโบสถ ดูราวกับว่ามีพลังบางอย่าง ทำให้สงบเย็นเปี่ยมล้นไปด้วยความเชื่อมั่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ
สัมผัสแบบนี้เป็นอะไรที่ไม่สามารถที่จะอธิบายได้เป็นตัวอักษร...ตัวคุณเองเท่านั้นที่จะต้องไปพิสูจน์พลังศรัทธา กระแสพลังที่ว่านี้ด้วยตัวคุณเอง
“ศรัทธา” นำมาซึ่ง “ปาฏิหาริย์” เชื่อไม่เชื่ออย่างไรก็โปรดอย่าได้ลบหลู่
เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันเล่าต่อไปอีกว่า องค์พระที่เห็นเป็นพระเก่าแก่ ชาวบ้านขุดขึ้นได้ในพื้นดินในพื้นที่แห่งนี้นี่เอง ไม่รู้เหมือนกันว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยใดกันแน่ “ตัวองค์พระมีรูปแบบโบราณมาก...แล้วองค์ข้างหน้า ชาวบ้านก็ขุดได้ระหว่างทำสวนปลูกพริก แล้วขุดไปๆก็เจอพระก็นำเอามาไว้ที่วัด”
นอกจากนี้ยังมีพระเก่าแก่อีก แต่ให้กรรมการวัดเฝ้าเอาไว้ด้วยเพราะเป็นพระขนาดเล็กๆ แตกต่างกันออกไปอีกหลายองค์ เป็นพระเก่าแก่แน่แท้ สิงห์หนึ่ง...สิงห์สอง
คำบอกเล่าจากคนเฒ่าคนแก่ สถานที่แห่งนี้เดิมทีแล้วเป็นบริเวณที่กว้างมากๆ ไม่รู้ว่าเป็นเมืองเก่าเมืองหนึ่งเมืองใดหรือเปล่าก็ไม่มีใครทราบได้
หากแต่ถ้าถามถึงเรื่องอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ความเชื่อ...ชาวบ้านเล่าต่อๆกันมาว่ามีคนเคยเห็นแสงสว่างคล้ายๆกับดวงแก้วเฉพาะในวันพระ จะลอยขึ้นมาอยู่ข้างนอกพระอุโบสถแล้วก็ลอยกลับเข้าไปด้านใน ปรากฏการณ์น่าอัศจรรย์ใจนี้...ว่ากันว่าจะเกิดขึ้นในช่วง 15 ค่ำ
ทุกวันพระ...ญาติโยมจะมาสวดมนต์ไหว้พระ ชาวบ้านในพื้นที่จริงๆถ้าจะขอพรกับพระพุทธรูปเก่าแก่ ก็มักจะขอไม่ไกลเกินฝัน ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข อย่าเจ็บอย่าจน ถ้าป่วยก็ขอให้หายวันหายคืน
...ไม่ได้ขอเลข ขอหวย ขอโชคขอลาภชาวบ้านที่นี่ดำรงตนอยู่ในศีลในธรรม ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
แต่กระนั้นสำหรับผู้มาเยือนไม่น้อยที่ตั้งหวังโชคลาภก้อนโต อำนาจ ทรัพย์สินเงินทอง บารมี...หากขอแล้วสมดังหวังตั้งใจ ก็อย่าลืมมาทำบุญ พัฒนาวัดให้ร่มรื่น ทำนุบำรุงพระศาสนาให้สืบทอดต่อไปตราบนานเท่านาน
และให้รู้เอาไว้ด้วยว่า พระพุทธรูปเก่าแก่ในโบสถ์สององค์นี้ ชาวบ้านตั้งชื่อให้ว่า “พระเจ้าทันอกทันใจ”...ชื่ออย่างนี้แสดงว่าต้องมีที่มาที่ไป ก็อาจจะหมายถึงสมหวังตั้งใจ สั่งได้ตามประสงค์แบบทันอกทันใจหรือเปล่า...ก็ไม่แน่ ท่านคงจะช่วยได้ ช่วยใครเอาไว้ไม่มากก็น้อย จึงเกิดเป็นแรงส่งกระแสศรัทธาดังอย่างที่เป็นอยู่นี้ “ศรัทธา” ...เป็นสิ่งสำคัญ คนเราทุกคนควรจะต้องมีศรัทธาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
...
ใครใคร่อยากสมหวังทันอกทันใจ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็เชิญพิสูจน์ศรัทธาได้ที่วัดเวียงหวาย เข้าไปกราบสักการะขอพร “หลวงพ่อทันอกทันใจ” กันสักครั้งหนึ่ง
อะไรที่ทำแล้วสบายใจก็ควรทำ...อะไรที่ทำแล้วมีความหวังก็ควรทำ คาดหวังได้แต่ก็ต้องเผื่อใจเอาไว้บ้าง “ศรัทธา”...นำมาซึ่ง “ปาฏิหาริย์” เชื่อไม่เชื่อกันอย่างไรโปรดอย่าได้ลบหลู่.
รัก-ยม