พายุกระหน่ำหลายพื้นที่ใน จ.สุโขทัย ยาย 81 หมอบใต้แคร่ โผล่มาอีกทีแทบช็อก หลังคาบ้านถูกลมพัดหายไปทั้งหลัง ด้านสาวใหญ่ วัย 59 ที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน บอกยังไม่รู้คืนนี้จะนอนที่ไหน ...

จากการที่กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนว่า ในช่วงวันที่ 2-5 ตุลาคม จะมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่และมีลมกระโชกแรง โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมพายุ อันเนื่องมาจากร่องมรสุมพัดผ่าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 3 ตุลาคม ได้เกิดลมพายุกระหน่ำและฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลากว่า 3 ชม. ในหลายพื้นที่ของ จ.สุโขทัย โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.วังทอง อ.ศรีสำโรง ทำให้บ้านเรือนราษฎรของ ม.1 และ ม.8 ต.วังทอง ได้รับความเสียหายหนัก เนื่องจากหลังคาบ้านถูกลมพายุพัดกระหน่ำจนปลิวว่อนหายไปกว่า 30 หลังคาเรือน

นางสมบัติ โห้พันธ์ อายุ 81 ปี ชาว ต.วังทอง อ.ศรีสำโรง ซึ่งยังคงอยู่ในอาการช็อกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกว่า ขณะนั่งอยู่ใต้ถุนบ้าน มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ก่อนจะมีลมพายุพัดเข้ามาซ้ำ ตนได้ยินเสียงดังมาจากบนบ้าน ด้วยความตกใจจึงรีบลงไปหมอบอยู่ใต้แคร่ทันที

"ตั้งแต่เกิดมาจนอายุปูนนี้แล้ว เพิ่งเคยเจอลมพายุรุนแรงขนาดนี้ จนเพื่อนบ้านมาบอกว่า หลังคาบ้านถูกลมหอบหายไปทั้งหลังแล้ว" นางสมบัติ กล่าว 

...

เช่นเดียวกับ นางบัวลอย ตาลป๊อก อายุ 59 ปี ชาว ต.วังทอง อ.ศรีสำโรง ซึ่งลมพายุพัดหลังคาบ้านปลิวหายไปทั้งหลังเช่นกัน กล่าวว่า ได้ยินเสียงดังของลมพายุมาจากทางทิศเหนือ เพียงครู่เดียวก็หอบหลังคาบ้านปลิวหายไปเกือบทั้งหลังแล้ว ตนและครอบครัวต้องรีบวิ่งหนีตายฝ่าสายฝนลงมาอยู่ที่ชั้นล่าง คืนนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะนอนกันยังไง

หลังได้รับรายงาน นายธนพงษ์ บุญเรือง นายอำเภอศรีสำโรง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมประสานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทำการตัดกระแสไฟฟ้าในจุดที่เสี่ยงอันตราย นอกจากนี้ ร.ท.มีศักดิ์ โพธิ์น้อย หน.ชป.กกล.รส.ประจำ อ.ศรีสำโรง ได้นำกำลังทหารเข้าให้ความช่วยเหลือ ตลอดจนเคลื่อนย้ายทรัพย์สินมีค่า สิ่งของที่จำเป็น ไปไว้ในที่ปลอดภัยแล้ว.