สุดเศร้า.. แม่เฒ่าวัย 76 เลี้ยงลูกสาวพิการวัย 43 ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อาศัยรายได้จากเบี้ยคนพิการ-คนชรา เดือนละ 1,600 บาท รวมทั้งทำข้าวต้มมัดขาย แต่ไม่ได้ทำทุกวันเพราะมีหลายโรค บางครั้งต้องนำเกลือละลายน้ำผสมข้าวกิน

วันที่ 10 ส.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 3/3 ถนนกะโลทัย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เป็นที่อยู่อาศัยของ นางสำเภา นาคำ อายุ 76 ปี โดยอยู่กับลูกสาว น.ส.ยุพารัตน์ โพธิ์ม่วง อายุ 43 ปี โดยลูกสาวพิการมีร่างกายเล็กตัวเท่าเด็กอายุ 5 ขวบ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ส่วนนางสำเภาก็แก่เฒ่ามีโรคหลายโรค ข้อหัวเข่าเสื่อม และความดันโลหิตสูง



โดย นางสำเภา ต้องทำข้าวต้มมัดออกขาย ซึ่งขี่รถจักรยานคันเก่าๆ เบรกไม่มี ถึงที่ลำบากต้องเดินจูง อย่างถนนทางเข้าบ้านซึ่งเป็นทางดินมีหญ้าขึ้น นางสำเภาต้องเดินจูงเพราะถ้าขี่จะล้ม เมื่อถึงหน้าบ้านก็ต้องขนตะกร้าที่ใส่ของลงจากท้ายรถเดินเข้าบ้าน ทันทีที่วางของก็จะรีบเข้าไปหาลูกสาว เข้าไปพูดคุย หยอกล้อ สอบถามเหมือนลูกสาวยังเป็นเด็กน้อย ซึ่งลูกสาวก็จะยิ้มอย่างดีใจที่เห็นแม่กลับเข้าบ้านมาอยู่ด้วย หลังจากนั้นนางสำเภาก็เตรียมอาหารป้อนลูกสาว โดยวันนี้มีแค่ไข่เจียวใบเดียวกับขนมจีน นางสำเภาจะป้อนลูกสาวคำนึง ตัวเองคำนึง สลับกันแบบนี้จนหมด

...

จากนั้นก็เก็บภาชนะต่างๆ ไปล้างทำความสะอาด แล้วนำข้าวต้มมัดที่ห่อแล้วลงซึ้งเตรียมนึ่งไว้ส่งขายในตอนเช้ามืดอีกรอบ การทำทุกอย่างต้องใช้ความมานะอดทน เพราะสภาพร่างกายที่ทรุดโทรม และเรี่ยวแรงที่เหลือน้อย แถมอ่อนล้าเพราะภารกิจทั้งวัน กว่าที่ขนมข้าวต้มมัดนี้จะนึ่งสุก ก็กินเวลาถึง 4 ทุ่ม เช้าตี 4 ต้องตื่นนำขนมไปส่งขายที่ตลาดแล้ว เมื่อถึงเวลาเข้านอน ต้องให้ลูกขับถ่ายให้เรียบร้อย จากนั้นก็จะอุ้มลูกสาวเข้ามุ้ง โดยนางสำเภาจะขึ้นไปนอนกอดจนลูกสาวหลับ จึงจะออกมาดูขนมที่นึ่งไว้ แล้วจัดการเก็บกวาดบ้านจึงจะได้เข้านอน



นางสำเภา เปิดเผยว่า ลูกสาวเกิดมาเป็นปกติเหมือนเด็กทั่วๆ ไป แต่ต่อมามีอาการชักเมื่อตอนอายุได้ 5 เดือน ตอนนั้นก็ไม่ได้พามาหาหมอเนื่องจากอยู่ไกลโรงพยาบาลมาก ประกอบกับฐานะยากจนเป็นลูกจ้างดายหญ้า มีรายได้วันละ 5-10 บาท จึงให้หมอทางไสยศาสตร์ปัดเป่า ลูกสาวจึงกลายเป็นคนพิการในที่สุด แต่ก็รักและสงสารลูกสาวคนนี้มาก ทุกวันนี้มีรายได้จากเบี้ยคนพิการของลูกสาวกับเบี้ยคนชราของตน รวมกันได้เดือนละ 1,600 บาท
 


“ส่วนข้าวต้มมัด 3-4 วันทำครั้ง เพราะปวดหัวเข่าและหน้ามืดจากโรคความดัน รายได้จึงมีไม่มาก บางครั้งไม่มีจริงๆ ต้องกินข้าวกับเกลือ โดยใช้เกลือละลายน้ำให้เค็มแล้วราดข้าวกิน แต่ด้วยความรักของแม่ที่มีต่อลูกสาวคนนี้ ก็จะดูแลกันไปจนกว่าใครจะตายไปก่อนกัน สำหรับวันแม่ปีนี้ก็เหมือนกับทุกปี แม่ไม่มีอะไรจะให้นอกจากความรักของแม่ที่มอบให้กับลูกสาวจนหมดหัวใจเท่านั้น”



อย่างไรก็ตาม ผู้ใจบุญที่ประสงค์อยากช่วยเหลือ แม่เฒ่าและลูกสาวพิการ สามารถบริจาคได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ ชื่อบัญชี นางสำเภา นาคำ หมายเลขบัญชี 309-4-65707-3 สาขากำแพงเพชร บัญชีประเภทออมทรัพย์.