CEO OR คาดราคาน้ำมันปี 2569 ไม่แตกต่างจากปี 2568 กางแผนธุรกิจตั้งเป้าดึงดูดคนเข้าใช้บริการ PTT Station แตะ 5 ล้านคน/วัน ภายในปี 2571 แล้วอยู่นานขึ้นและใช้จ่ายมากขึ้น เชื่อธุรกิจ EV ไม่ได้มาแทนธุรกิจน้ำมัน

เมื่อวันที่ 27 พ.ย. หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า OR จะเน้นการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากการลงทุนในประเทศ ทั้งลาว เมียนมา และกัมพูชา เนื่องจากมีความได้เปรียบด้านโครงสร้างพื้นฐานและสามารถต่อยอดธุรกิจได้ โดยเมียนมาน่าจะผ่านจุดเลวร้ายที่สุดไปแล้ว ส่วนในลาว OR มีสถานีบริการ PTT Station เกือบทุกจังหวัด ธุรกิจน่าจะไปได้ดี ขณะที่ในกัมพูชาเดิมมีสถานีบริการ PTT Station ประมาณ 200 แห่ง แยกเป็นดีลเลอร์ 90% อีก 10% เป็นของเราเอง แต่หลังเกิดสถานการณ์ความขัดแย้งประมาณ 30-40 แห่ง เปลี่ยนแบรนด์ ณ วันนี้ เหลือประมาณ 150 แห่ง เช่นเดียวกับร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอนที่มีในสถานีบริการ PTT Station ทุกแห่ง มีแผนรองรับอยู่แล้วไม่ว่าสถานการณ์จากนี้ จะดำเนินการต่อไปอย่างไร

ทั้งนี้ ยอมรับสถานการณ์ความขัดแย้งมีผลกระทบกับยอดขายในกัมพูชาลดลงประมาณ 50-60% แต่ยอดขายดังกล่าว คิดเป็นสัดส่วน 2-3% ของกำไรทั้งหมดของธุรกิจ OR อย่างไรก็ตาม การลงทุนของ OR ในกัมพูชานั้น อยู่ในแผนใหญ่ คาดว่า จะมีความชัดเจนเกี่ยวกับแผนการลงทุนและดำเนินธุรกิจในกัมพูชาภายในเดือน ม.ค.2569

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OR กล่าวต่อว่า คาดว่า ราคาน้ำมันในปี 2569 จะยังไม่แตกต่างจากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 60-70 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล หรือไม่เปลี่ยนแปลงจากจุดนี้ มากนัก ดูจากแนวโน้มแม้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) จะมา แต่การใช้น้ำมันจากราคาประมาณนี้ จะยังไม่จูงใจให้เปลี่ยนไปใช้ EV มากนัก ราคายังรับได้สำหรับประชาชนทั่วไป โดยราคาน้ำมันประมาณนี้ แรงกระทบกับบริษัทน้ำมันจะน้อยหน่อย

...

สำหรับกรณีการปิดสาขาร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอนในเวียดนามนั้น จะปิดสาขายุติการทำธุรกิจทั้งหมด ไม่สามารถนำความสำเร็จในไทยไปใช้ในเวียดนามได้ ความแข็งแกร่งของเจ้าถิ่นมีมากและการไปทำธุรกิจในเวียดนามมีต้นทุนแฝงมาก ถ้ามีจำนวนแค่ประมาณ 20-30 สาขา ไม่คุ้มทุน ขาดทุนมาตลอด อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีแผนจะปิดและเปิดธุรกิจกาแฟคาเฟ่ อเมซอนที่ไหนอีก


หม่อมหลวงปีกทอง กล่าวอีกว่า รายได้ 4% ของ OR มาจากกลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์ แต่คิดเป็นสัดส่วน 30-40% ของกำไรทั้งหมด และมีอัตราเพิ่มขึ้นทุกปี จึงอยากขยายสัดส่วนรายได้ในกลุ่มธุรกิจนี้ เพิ่ม มีการใช้ดาต้ามาขับเคลื่อน ทำให้รู้จักพฤติกรรมของลูกค้ามากขึ้น

ปัจจุบัน OR มีมาร์เก็ตแชร์ในธุรกิจประมาณ 36% โดยคู่แข่งลดลงทั้งหมด เป้าหมายต่อไป คือ เพิ่มยอดผู้เข้าใช้บริการสถานีบริการ PTT Station มากขึ้น โดยตั้งเป้าเพิ่มยอดผู้เข้าใช้สถานีบริการ PTT Station เป็น 5 ล้านคน/วัน ภายในปี 2571 จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 3.9 ล้านคน/วัน ปี 2569 ให้ได้ 4.3 ล้านคน/วัน โดยต้องการเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ยอดผู้เข้าใช้บริการ เพราะเป้าหมายหลัก คือ ไม่ใช่แค่การเติมน้ำมัน แต่การที่มีผู้เข้าใช้บริการมากขึ้น ใช้เวลากับเรามากขึ้น เพิ่มทราฟฟิก เพิ่มยอดขาย

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OR กล่าวถึงธุรกิจ EV ว่า OR มองธุรกิจ EV ไม่ได้มาแทนธุรกิจน้ำมัน แต่เป็นการต่อยอดโครงสร้างธุรกิจเดิมให้ตอบโจทย์พลังงานสะอาดและสร้างโอกาสใหม่ให้สถานีบริการ PTT Station เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกพลังงานสะอาดและใช้เวลาอยู่ในสถานีบริการมากขึ้น โดยจะมีการปรับปรุงสถานีบริการให้ตอบรับกับระยะเวลาการชาร์จ EV เพื่อให้ลูกค้าใช้เวลาภายในสถานีบริการเพิ่มมากขึ้น ดังนี้

1. Time Spent Expansion เพิ่มเวลาใช้บริการจาก 5 นาที เป็น 45 นาที ผ่านการพัฒนาพื้นที่ทั้งสถานีบริการ PTT Station และ OR SPACE รวมถึงบริการเสริมต่างๆ ในสถานีบริการ

2. Energy Transition to EV Charging โดย EV Charging เป็นฟังก์ชันหลักที่ดึงให้ลูกค้าเข้ามาใช้สถานีในระยะเวลานานขึ้น เชื่อมต่อสู่การขยาย Ecosystem ที่สมบูรณ์ภายในสถานี

3. Diverse F&B Ecosystem ขยายแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มทั้งของ OR และพันธมิตร ครอบคลุมร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน, เขียง, Pacamara, QSR (Quick Service Restaurant) ใหม่ และแบรนด์หน้าใหม่ รองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า

4. Lifestyle & Daily Services เพิ่มบริการด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์ เช่น คลินิกโอบอ้อม, found&found, Otteri รองรับบริการใช้ประจำวัน เพื่อเพิ่มเวลาใช้บริการภายในสถานี

5. Traffic Enhancement to OR Ecosystem OR SPACE ปรับโฉม Ecosystem ของ OR แบบใหม่ในอนาคต เพื่อรองรับ Energy Transition เพิ่มโอกาสสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ที่เชื่อมต่อกันภายในสถานีบริการ