จุดเรือไฟโชว์ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ยืนยันความพร้อมเรือไฟจาก 12 อำเภอ ก่อนเตรียมไหลประกวดมหกรรมเรือไฟโลก 2568 ปีแรกนครพนม ในคืนวันออกพรรษา
วันที่ 6 ต.ค. 68 มีรายงานว่า วานนี้ (5 ต.ค.) ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม นางมนพร เจริญศรี อดีต รมช.คมนาคม สส.เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ทีมเรือไฟมหาวิทยาลัยนครพนม ประกอบพิธีบวงสรวงตามประเพณีความเชื่อ ก่อนจุดเรือไฟโบราณ พร้อมเรือไฟโชว์ขนาดใหญ่ ความยาวมากกว่า 50 เมตร ความสูงประมาณ 20 เมตร ประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟ แบบภูมิปัญญาชาวบ้าน จากเศษกระป๋องกาแฟ รวมเกือบ 20,000 ดวง ออกแบบลวดลายสื่อถึง สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของนครพนม
ถือเป็นเรือไฟโชว์ เชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยว ก่อนที่จะมีการประกวดเรือไฟ มากถึง 12 ลำ จากศิลปินเรือไฟทั้ง 12 อำเภอ มีความยาวถึง 80 เมตร มูลค่าก่อสร้างนับล้านบาท และจะมีการไหลประกวดในคืนวันออกพรรษา 15 ค่ำ เดือน 11 ตรงกับคืนวันที่ 7 ต.ค. 68
โดยการจุดเรือไฟโชว์ ถือเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนวันไฮไลต์ ที่จะมีการประกวดไหลเรือไฟ คืนวันออกพรรษา 15 ค่ำ เดือน 11 ยืนยันความพร้อมของทีมศิลปินเรือไฟ ทั้ง 12 ลำ รวม 12 อำเภอ สะท้อนถึงความเชื่อ ความศรัทธา รวมถึงความรักสามัคคี ในการร่วมแรงร่วมใจกัน ในการต่อเติมสร้างเรือไฟ สร้างความสวยงาม ตื่นตาอวดสายตาประชาชน นักท่องเที่ยว
...
ทั้งนี้ นอกจากความสวยงาม สำคัญที่สุดคือ การต่อเติมสร้างเรือไฟ จะเน้นความร่วมแรงร่วมใจจากพลังศรัทธา บรรดาศิลปินเรือไฟ อาสาเข้ามาทำงานช่วยกันต่อเติมเรือไฟ โดยไม่มีค่าจ้างหรือรางวัล ทุกขั้นตอนจะต้องทำจากแรงงานชาวบ้าน ตั้งแต่การออกแบบ ต่อเติมโครงสร้างเรือไฟ ออกแบบลวดลาย ติดตะเกียงไฟ จะต้องเกิดความชำนาญจากภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีต
นางมนพร เจริญศรี อดีต รมช.คมนาคม สส.เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า มหกรรมไหลเรือไฟโลก ปีนี้จัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี สืบเนื่องจากการจัดคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่นครพนม ในรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย เป็นที่มาของการอนุมัติงบประมาณ ผ่านกระทรวงวัฒนธรรมเกือบ 30 ล้านบาท สนับสนุนยกระดับการจัดงานประเพณีไหลเรือไฟ เป็นการกระตุ้น เศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว มีการทำเรือไฟขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว หลากหลายมากขึ้น เชื่อมั่นจะเป็นงานประเพณีสำคัญ ที่ยกระดับนครพนม จากเมืองรอง เป็นเมืองหลัก
นอกจากนี้ สำคัญที่สุดคือเรือไฟเป็นการสะท้อน การสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของนครพนม รวมถึงการร่วมแรงร่วมใจกันต่อเติม สร้างสรรค์เรือไฟขึ้น จากพลังศรัทธา ความรัก ความสามัคคี ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว ฝากเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยว มาชื่นชมความสวยงามของมหกรรมไหลเรือไฟโลก ในคืนวันออกพรรษา 15 ค่ำ เดือน 11 ตรงกับคืนวันที่ 7 ต.ค. 68 ถือว่าจัดยิ่งใหญ่ที่สุดเป็นปีแรก.