ศาลเจ้ากะทู้ภูเก็ต ฉลองครบรอบ 200 ปีของศาลเจ้า และประเพณีถือศีลกินผัก ด้วยการอัญเชิญผงธูปองค์พระเตี๋ยนฮู่หง่วนโส่ย จากศาลเจ้าเริงค่าวเก้งเตี๋ยนต้อหง่วนโส่ยจากประเทศจีนมาไทย
วันที่ 23 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา นายวรรณยุทธิ์ สุทธิกุล นายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยประชาชนในพื้นที่ได้เข้าร่วมพิธีอัญเชิญเหี้ยวโห้ย เหี้ยวเอี้ยน หรือ อัญเชิญผงธูปของพระเตี๋ยนฮู้หง่วนโส่ย หรือ พระเล่าเอี๋ย จากศาลเจ้าเริงค่าวเก้งเตี๋ยนต้อหง่วนโส่ย เมืองหล่าฮั่ว มณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีน มายังศาลเจ้ากะทู้ในงานครบรอบ 200 ปี ของอ๊ามหล่ายถู่ต่าวโบ๊เก๊ง หรือ ศาลเจ้ากะทู้
นอกจากนี้ ยังถือเป็นการฉลองครบรอบ 200 ปี ประเพณีถือศีลกินผัก จ.ภูเก็ต โดยเทศกาลกินเจปี 2568 จะตรงกับวันที่ 21 ต.ค. - 29 ต.ค. 2568
ทั้งนี้ ประชาชน รวมถึง พลเรือตรี ภุชงค์ รอดนิกร รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วยเหล่าซือใหญ่วิหาร 5 แม่ทัพสวรรค์ เข้าร่วมพิธีท่ามกลางพี่น้องประชาชนที่มีจิตศรัทธาตั้งโต๊ะหมู่บูชารับขบวนขอพรจากองค์พระ โดยมี เป้ย ปานวาด นักแสดงชื่อดัง เข้าร่วมงานครั้งนี้ด้วย
...
ทั้งนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานกระถางธูปประดับอักษรพระนามาภิไธย ส.ธ. ไปประดับที่ด้านหน้ากระถางโลหะทองเหลือง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 45 เซนติเมตร พร้อมจารึกข้อความและชื่อภาษาจีนของศาลเจ้ากะทู้ เพื่อเฉลิมฉลองการก่อตั้งศาลเจ้ากะทู้ครบรอบ 200 ปี โดยมูลนิธิได้ดำเนินการประดับเรียบร้อยแล้ว
สำหรับพิธีสมโภชกระถางธูป มีกำหนดจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2568 เวลา 09.00 น. ณ หอประชุมมหิศรภักดี ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต และจะเคลื่อนขบวนสมโภชไปยังศาลเจ้ากะทู้
ทางศาลเจ้าได้ขอเรียนเชิญนักท่องเที่ยว และประชาชนในจังหวัดภูเก็ตมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ กับงานนี้นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
"กินเจภูเก็ต" เริ่มต้นที่ศาลเจ้ากะทู้
สำหรับประเพณีถือศีลกินผัก หรือ เจี๊ยะฉ่ายได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมประจำจังหวัดภูเก็ต และเป็นมรดกชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2561 โดยต้นกำเนิดประเพณีถือศีลกินผัก ได้เริ่มต้นจากที่อ๊ามหล่ายถู่ต่าวโบ๊เก๊ง หรือ ศาลเจ้ากะทู้
ทั้งนี้ เมื่อย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2368 ถือเป็นยุครุ่งเรืองของอุตสาหกรรมแร่ดีบุกในภูเก็ต และมีผู้คนอพยพเข้ามาเป็นจำนวนมากในแถบกะทู้ แต่ภูมิประเทศเป็นป่าทึบ ทำให้เกิดโรคมาลาเรีย ทำให้ผู้คนล้มป่วยกันเป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกันคณะงิ้วเปะยี่หี่ ที่จากมณฑลฮกเกี้ยนได้มาทำการแสดงที่กะทู้ แต่ไม่นานคนจีน และคนในคณะงิ้วเกิดล้มป่วยขึ้นมา ทางหัวหน้าคณะงิ้วนึกขึ้นได้ว่าใกล้พิธีเจี๊ยะฉ่าย หรือพิธีกินผักที่เขาเคยปฏิบัติมาตลอดทุกปี เพื่อบูชาเทพเจ้าให้คุ้มครอง แต่ปีนี้กลับไปที่จีนไม่ทันแล้วจึงจัดพิธีง่ายๆ ในโรงงานงิ้ว
หลังจบงานเจี๊ยะฉ่าย โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ก็หายไป ตั้งแต่นั้นมาทุกคนในพื้นที่ก็ศรัทธาในพิธีนี้ ก่อนคณะงิ้วจะกลับบ้านก็ได้มอบกิมซิ้น หรือองค์พระศักดิ์สิทธิ์ได้แก่ พระเตี๋ยนฮู้หง่วนโส่ย และพระสามไท่จื้อไว้ให้ชาวบ้านได้บูชา ซึ่งประเพณีเจี๊ยะฉ่ายจึงได้สืบทอดมาถึงทุกวันนี้
...
...
