มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นำเสนอนวัตกรรมนำ "รังไหม" ผสมใยกล้วยและใยต้นหม่อน ออกมาเป็น "ผ้าไหมใยกล้วย" ได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มรายได้และลดรายจ่ายให้เกษตรกร


วันที่ 24 กันยายน 2568 มีรายงานว่า ที่ภาควิชาเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้นำเสนองานวิจัยใหม่ "ผ้าไหมใยกล้วย" เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าของสิ่งที่เหลือใช้อย่างรังไหม ใยกล้วยและต้นหม่อน ที่เกษตรกรเลี้ยงเพื่อเอาไหม มาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ราคาจับต้องได้ มีความนุ่มใส่สบาย ใส่แล้วไม่ร้อน เหมาะกับอากาศภาคอีสาน

ผศ.ดร.ทนงศักดิ์ มูลตรี หัวหน้าโครงการ 'น้ำมั่นคงไม่ท่วมไม่แล้ง' ของสถาบันวิจัยแห่งชาติ ซึ่งจะดูแลเกษตรกรของ 2 จังหวัดมหาสารคามและขอนแก่น เปิดเผยว่า ทางโครงการของเราได้ลงพื้นที่แล้วก็ได้คิดงานวิจัยใหม่ 'ผ้าไหมใยกล้วย' ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับเกษตรกรที่รวมกลุ่มเลี้ยงไหมอีลี่ บ้านหนองหญ้าปล้อง อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ที่ใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงเพียง 45 วัน จะได้เส้นใยไหม น้ำหนัก 1 กิโลกรัม จะได้ไหมเพียง 1 ขีด ที่เหลือจะเป็นรังไหมและตัวดักแด้

...

ทางทีมงานวิจัยจึงได้คิดค้นนำเอารังไหมมาผสมกับใยกล้วยและใยต้นหม่อน ออกมาเป็น “ผ้าไหมใยกล้วย” เพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายให้กับเกษตรกรอีกด้วย

สำหรับขั้นตอนนั้น จะให้เกษตรกรนำรังไหมมาปั่นรวมกับใยกล้วยที่ขูดเนื้อกาบกล้วยออกด้วยชุดลูกกลิ้งและใบมีด แล้วนำเส้นใยที่ได้ไปทำความสะอาด ล้างเส้นใยให้สะอาดเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและสิ่งปนเปื้อนออก แล้วจึงผสมรังไหมกับใยกล้วย นำเส้นใยที่ผ่านการทำความสะอาดแล้วไปตากแห้ง แล้วนำไปปั่นเป็นเส้นด้าย และนำไปทอเป็นผ้า ซึ่งจะให้ความอ่อนนุ่ม ความแข็งแรง และลวดลายที่หลากหลาย 

การนำใยกล้วยผสมกับรังไหม ทำให้ได้ผ้าที่มีเทกซ์เจอร์ที่แตกต่างออกไป และสามารถนำไปสร้างสรรค์เป็นชุดสวยงาม หรือสินค้าโอทอปต่างๆ ได้ การผสมใยกล้วยที่มีลักษณะพิเศษกับเส้นไหม ทำให้ได้เนื้อผ้าที่มีลวดลายและความรู้สึกในการสัมผัสที่แปลกใหม่ ใยกล้วยเป็นเส้นใยธรรมชาติที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน เป็นทางเลือกที่ดีในการผลิตสิ่งทอที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม