ถนนตรอกโรงยา หรือ เซ็กเกี๋ยวกั๊ง 1 ในย่านชุมชนเก่าแก่ที่เคยเป็นแหล่งสูบฝิ่นเมื่ออดีต ถูกปลุกชีวิตให้สะท้อนเรื่องราวของเมืองอุทัยธานี ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวถนนคนเดินที่รวมร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และของที่ระลึก รวมทั้งของเก่าๆ ที่เป็นข้าวของเครื่องใช้ในสมัยก่อน บ้านเรือนไม้ของเก่าควรค่าอนุรักษ์ให้คนรุ่นหลังดู
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ถนนตรอกโรงยา หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า เซ็กเกี๋ยวกั๊ง เป็นถนนที่เป็นตรอกหรือซอยเล็กๆ ที่ทิ้งตำนานเรื่องเล่าอยู่ในสถานที่แห่งนี้ไว้มากมาย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ของจังหวัดอุทัยธานี ที่สามารถสะท้อนเรื่องราวและบรรยากาศของความเป็นเมืองอุทัยธานีได้เป็นอย่างดี ถนนคนเดินเล็กๆ ที่กว่าจะเป็นตลาดโบราณสุดอันซีนเช่นนี้ หากย้อนไปหลายสิบปีก่อนนี้ สถานที่แห่งนี้เคยเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยของชาวจีนจำนวนมาก ทั้งเป็นแหล่งสูบฝิ่นที่เปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีผู้คนมาซื้อขายและสูบฝิ่นกันอย่างเสรี ทำให้ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเรียกตรอกนี้จนติดปากว่า “ตรอกโรงยา”
...
ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2500 รัฐบาลได้ประกาศให้ฝิ่นเป็นสิ่งเสพติดผิดกฎหมาย ทำให้ตรอกโรงยาแห่งนี้ซบเซาลงจนกลายเป็นบ้านเรือนธรรมดาๆ กระทั่งได้ถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง โดยการเคหะแห่งชาติได้ให้คณะอาจารย์สถาปัตย์มหาวิทยาลัยนเรศวรดำเนินการสำรวจสภาพเมืองอุทัยธานี ทางคณะอาจารย์ได้มีแนวคิดว่าน่าจะจัดทำถนนคนเดินขึ้นในจังหวัดอุทัยธานี พ.ศ.2553 ถนนคนเดินตรอกโรงยาเซ็กเกี๋ยวกั๊งจึงได้เริ่มก่อตั้งจากการรวมตัวของคณะกรรมการทั้ง 15 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานีลุ่มรักษ์อุทัย และพี่น้องชาวชุมชนตรอกโรงยา นำโดย นายปฏิญาณ วงศ์กาญจนา และได้รับการสนับสนุนจาก นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ในสมัยนั้นร่วมกันจัดขึ้น และเปิดตลาดครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 จนทำให้กลายเป็นถนนคนเดินกลางเมืองอุทัยธานีที่ยังคงทิ้งร่องรอยของความเจริญรุ่งเรืองในอดีตผ่านบ้านไม้เก่าแก่ ที่ได้ถูกปรับปรุงกลายเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมถึงร้านขายของที่ระลึกมาหมาย
ขณะนี้บรรดานักท่องเที่ยวนั้นยังคงมาเยือนกันตลอด เพราะใกล้กรุงเทพฯ เพียง 200 กว่ากิโลเมตร และสิ่งที่ต่องแวะมาก็คือ บ้านนกเขา ซึ่งเป็นห้องแถวเล็กๆ อยู่กกลางถนนคนเดิน แต่ที่นี่ไม่ธรรมดาเลย มีการรวบรวมรูปเก่าขาวดำหาดูยาก ซึ่งสามารถดูรูปย้อนยุคจังหวัดอุทัยธานีในสมัยเก่าได้ มีทั้งข้าวของเครื่องใช้ในสมัยก่อน และทีวีขาวดำ และกระป๋องสินค้าในสมัยก่อนที่หาดูไม่ได้แล้ว โปสเตอร์ภาพยนตร์ที่หาชมยากมาก เหมือนเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นที่มีของที่เคยใช้มาแล้วในอดีต
...
อีกสถานที่หนึ่งก็คือ โรงยาฟิ่นที่จำลอง โดยนำหุ่นปั้นและห้องแถวสมัยเก่ามาให้ดูตั้งแต่การนอนสูบฝิ่น และการซื้อขายฝิ่นในโรงยาฝิ่นแห่งนี้ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมได้ และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันได้เพื่ออวดในโซเชียลกัน และมีห้องหลังที่จำลองไว้ในสมัยนั้นอย่างสมจริงมาก โดยถนนคนเดินเล็กๆ ที่กว่าจะเป็นตลาดโบราณสุดอันซีนเช่นนี้ หากย้อนไปหลายสิบปีก่อนนี้สถานที่แห่งนี้เคยเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยของชาวจีนจำนวนมาก ทั้งเป็นแหล่งสูบฝิ่นที่เปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีผู้คนมาซื้อขายและสูบฝิ่นกันอย่างเสรี ทำให้ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเรียกตรอกนี้จนติดปากว่า “ตรอกโรงยา” ตรอกโรงยาแห่งนี้ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนยุคที่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่อพยพมาตั้งถิ่นฐานแห่งนี้จนกลายเป็นชุมชนใหญ่ทุกวันนี้ และกลายมาเป็นลูกหลานชาวจังหวัดอุทัยธานีในปัจจุบัน
...
ส่วนข้าวของต่างๆ ที่มาขายนั้นมากมายทั้งของกินและของพื้นเมือง เช่น ส้มโอ ส้มซ่า ปลาย่าง ปลากระชัง และอีกมากมายแล้วแต่ชาวจังหวัดอุทัยธานีนั้นจะรังสรรค์มาขาย รวมถึงขนมโบราณต่างๆ ที่หากินยาก แต่ตลาดแห่งนี้นั้นไม่ให้คนต่างจังหวัดมาขาย เช่น ตลาดนัดทั่วไปจะขายได้เฉพาะคนอุทัยธานีเท่านั้น เนื่องจากเป็นการกระจายรายได้ใช้กับชาวอุทัยธานี ซึ่งจะเปิดแค่วันเสาร์เพียงวันเดียว เริ่มตั้งแต่ช่วงเวลา 16.00-20.00 น.
...
นับว่าเป็นอีกที่หนี่งที่มาคนมาเยือน และพูดถึงกันซึ่งนับว่าเป็นอีกมนตร์เสน่ห์ที่นำเรื่องราวในอดีตมาสืบสานต่อเพื่อก่อให้เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีอายุมากว่า 13 ปี แล้วนักท่องเที่ยวก็ยังคงแห่ไปเที่ยวกันจนแน่น จนที่พักนั้นเต็มแทบทุกที่ในวันเสาร์ จนทำให้ตรอกโรงยาที่เคยเงียบเหงากลับมาคึกคักอีกครั้ง.