"เชน ธนา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ลงพื้นที่วังน้อย ครั้งที่ 2 ผลักดันกระแสซอฟต์พาวเวอร์ยั่งยืน ผ่านสินค้าภูมิปัญญาชาวบ้าน-วิสาหกิจชุมชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันที่ 2 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หรือ "เชน ธนา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัดและคณะ ลงพื้นที่ ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับผู้บริหาร อบต. รวมทั้งผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่

เชน ธนา กล่าวว่า เมื่อสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เดินทางมาที่วิสาหกิจชุมชน ต.พยอม เพื่อนำเสนอฝีมือแรงงานเครื่องจักสาน จากภูมิปัญญาชาวบ้านในรูปแบบต่างๆ และคราวนี้ได้เดินทางมาที่ ต.พยอม อีกครั้ง หลังจากที่ตนได้นำผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชนภูมิปัญญาชาวบ้าน เครื่องจักสาน 1,000 ชุด ของวิสาหกิจชุมชน ต.พยอม อ.วังน้อย ไปโปรโมตผ่านรายการต่างๆ และรายการ Show by เชน ธนา ที่ตนรับผิดชอบ เพื่อนำเสนอ "ซอฟต์พาวเวอร์ By วังน้อย" ออกสู่สายตาประชาชนทั่วทุกภูมิภาคเเละทั่วโลก

การเสนอผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่ตนช่วยประชาสัมพันธ์และสร้างกระแสซอฟต์พาวเวอร์ในพื้นที่นั้น ทำให้เกิดความต้องการในสินค้าภูมิปัญญาชาวบ้านเพิ่มขึ้น จึงต้องลงพื้นที่ อ.วังน้อย อีกครั้ง เพื่อสอบถามถึงกำลังการผลิต และตรวจดูคุณภาพของสินค้าดังกล่าว โดยพบว่า เครื่องจักสานหนึ่งชิ้นใช้เวลาผลิตราวหนึ่งสัปดาห์ โดยเลือกใช้วัสดุธรรมชาติที่ทนทาน ประกอบด้วยความประณีตในการผลิตด้วยมือ จากฝีมือของกลุ่มแม่บ้านและวิสาหกิจชุมชน รวมทั้งสืบสานวิธีการจักสาน ที่บรรพบุรุษถ่ายทอดเอาไว้ทุกขั้นตอน

...

ตรงนี้คือหัวใจที่สร้างคุณค่า ซอฟต์พาวเวอร์ By วังน้อยคือ "สินค้าแฮนด์เมด" ขณะเดียวกันตนได้เยี่ยมชมการผลิตไข่เค็มที่มีรสชาติกลมกล่อมหอมอร่อย เพราะไข่เค็มที่นี่ใช้ไข่เป็ดธรรมชาติ หรือ ไข่ไร่ทุ่ง มาผลิต และเพื่อให้คนไทยทั้งประเทศได้ลิ้มลองของดีมีคุณภาพจาก ต.พยอม อ.วังน้อย ก็เป็นอีกหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ที่ควรสนับสนุนเช่นกัน 

เชน ธนา กล่าวอีกว่า จะเห็นได้ชัดว่าพื้นที่ อ.วังน้อย ตอนนี้ เริ่มมีการจ้างแรงงาน และการขยายตัวของการผลิตในภาคเอกชนเพิ่มขึ้น ตนอยากเห็นคนไทยทั่วทุกภูมิภาคมีอาชีพทำกิน มีรายได้จากการประกอบสินค้าภูมิปัญญาชาวบ้าน ซึ่งตนพร้อมจะนำส่งสินค้าให้กระจายออกสู่สายตาคนไทย และชาวโลกผ่านรายการต่างๆ ที่ตนร่วมรับผิดชอบ

เร็วๆ นี้ ตนกับทีมงานจะลงพื้นที่ จ.นครปฐม ซึ่งเป็นบ้านเกิด รวมทั้ง จ.ราชบุรี และ จ.กาญจนบุรี เพื่อดูว่าซอฟต์พาวเวอร์ของสามจังหวัดจะมีอะไรดีๆ ให้ตนช่วยประชาสัมพันธ์อีกบ้าง เพราะการลงพื้นที่หกจังหวัด ซึ่งตนกับพันธมิตรได้ขับเคลื่อนปลุกกระแสซอฟต์พาวเวอร์ และสินค้าโอท็อปของจังหวัดเหล่านั้น พบว่ามีการตอบรับสินค้าภูมิปัญญาชาวบ้านดีขึ้นมาก ดังนั้นต้องช่วยกันให้กระแสนี้อย่าตก และเสื่อมความนิยมในช่วงเวลาสั้นๆ ต้องทำให้ยั่งยืนผ่านการประชาสัมพันธ์ และการตลาดหลากรูปแบบโดยเฉพาะระบบออนไลน์.