ชาวบ้านที่ ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ จัดงานบุญบั้งไฟล้าน เพื่อบูชาพญาแถนแบบยิ่งใหญ่ โดยนอกจากจุดบั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน และบั้งไฟล้าน จำนวน 11 บั้ง ยังโปรยฝนเทียมทำทะเลโคลน ให้เด็กและผู้ใหญ่เล่นกันคลายความร้อน หวังเป็นซอฟต์พาวเวอร์หนึ่งเดียวในอีสาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศบาลตำบลคำเหมือดแก้ว อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่แห่งนี้เป็นเขตนอกพื้นที่ชลประทาน ประสบภัยแล้งซ้ำซาก ชาวบ้านร่วมกับฝ่ายปกครอง สถานศึกษา และทุกภาคส่วนในพื้นที่ จึงได้มีการจัดงานเล็กๆ แบบพอเพียง ขบวนแห่บั้งไฟ แต่ยิ่งใหญ่ระดับภาคอีสาน สุดอลังการหนึ่งเดียวในโลก กับการจุดบั้งไฟล้าน ทะยานขึ้นฟ้าบูชาพญาแถน โดยวันนี้เริ่มมีเมฆฝนก่อตัวอย่างหนาแน่น และเริ่มมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้ นางสาวลำพรรณ คำแหงพล นายกเทศมนตรีตำบล (ทต.) คำเหมือดแก้ว ได้ร่วมกับ สมาชิกสภา ทต.คำเหมือดแก้ว ผู้นำชุมชน ผู้บริหารสถานศึกษา และภาคเอกชน ร่วมกันจัดงานสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2567 โดยตั้งขบวนที่ลานอเนกประสงค์ ทต.คำเหมือดแก้ว และบริเวณตั้งฐานจุดบั้งไฟ ที่ริมอ่างเก็บน้ำห้วยวังลิ้นฟ้า ทั้งนี้มี นายชุมพล หลักคำ เลขานุการนายก อบจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดงาน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักสนุกสนาน ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด จึงเป็นการสร้างซอฟต์พาวเวอร์แห่งการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ โดยการจัดงานบุญบั้งไฟที่เล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่อลังการอีกแห่งหนึ่งในภาคอีสาน
...
นางสาวลำพรรณ คำแหงพล นายก ทต.คำเหมือดแก้ว กล่าวว่า พื้นที่อยู่นอกเขตชลประทาน หลายปีที่ผ่านมาประสบภัยแล้งซ้ำซาก แหล่งเก็บน้ำธรรมชาติหมดไป โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำห้วยวังลิ้นฟ้าที่เปรียบเสมือนเป็นเส้นโลหิตหล่อเลี้ยงชาว ต.คำเหมือดแก้ว 9 หมู่บ้าน และแหล่งเก็บน้ำบนดินอีกหลายแห่งที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภค บริโภค การเกษตร และเลี้ยงสัตว์ แห้งขอด เนื่องจากฝนทิ้งช่วง หลายปีที่ผ่านมาในช่วงเดือน 6 ก่อนเข้าสู่ฤดูทำนา ทต.คำเหมือดแก้ว ได้ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟต่อเนื่องทุกปี
นายก ทต.คำเหมือดแก้ว กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามในปี 2562-2566 ได้ว่างเว้นไป 4 ปี เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 พอปีนี้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ จึงได้ร่วมกับทุกภาคส่วนในพื้นที่จัดงานบุญบั้งไฟประจำปี 2567 ขึ้นเพื่ออนุรักษ์ สืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ปลุกจิตสำนึกเด็ก เยาวชน มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ สืบสานภูมิปัญญา เกิดความรัก สามัคคีในชุมชนและในหมู่คณะ รวมทั้งส่งเสริมและสืบสานศิลปะการฟ้อนรำแบบเซิ้งบั้งไฟ การตกแต่งบั้งไฟและขบวนรถแห่บั้งไฟแบบประยุกต์ ในรูปแบบของความแบบพอเพียงตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง และรำบูชาพญาแถน สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งฝนตามความเชื่อ เพื่อดลบันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล
...
ด้านนายสนิท ราชสีโสม อายุ 65 ปี ชาวบ้านคำเหมือดแก้ว หมู่ 1 ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า งานประเพณีบุญบั้งไฟ ถือเป็นงานประจำปีที่สำคัญของชาวอีสาน เพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งฝนคือพญาแถนตามความเชื่อ และเป็นงานบุญตามฮีต 12 คอง 14 นิยมจัดระหว่างเดือน 6-7 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูฝน ซึ่งชาวอีสานมีความผูกพันกับธรรมชาติ และการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ทำไร่ โดยอาศัยน้ำจากฟ้า หรือน้ำฝน เป็นปัจจัยหลักในการหล่อเลี้ยงพืชผล สัตว์เลี้ยง และการอุปโภค บริโภค ของชาวบ้าน
"การจุดบั้งไฟขึ้นฟ้า ซึ่งบั้งไฟประดิษฐ์จากภูมิปัญญาชาวบ้าน มีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ถือเป็นการการส่งสัญญาณถึงเทวดา หรือพญาแถน ว่าถึงฤดูกาลทำนาแล้ว เพื่อที่ท่านจะได้ดลบันดาลให้มีฝนตกลงมาตามฤดูกาล ให้สรรพสัตว์ และพืชพรรณธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ ผลผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วย สำหรับปีนี้ตั้งแต่เริ่มต้นเตรียมการจัดงานบุญประเพณี พบว่ามีฝนตกลงมาในพื้นที่ สร้างความชุ่มฉ่ำให้กับสรรพชีวิตในพื้นที่ ต.คำเหมือดแก้ว ที่เคยประสบภัยแล้ง ให้มีความสุข มีชีวิตชีวากว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก หลังจากฝนทิ้งช่วงมานานกว่า 6 เดือน" นายสนิท กล่าว
...
ขณะที่ นายพิบูรณ์ คำแหงพล อดีตนายก ทต.คำเหมือดแก้ว กล่าวว่า เพื่อการมีส่วนร่วมของเด็ก เยาวชน ผู้ปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้มีความคึกคักในการจัดงานบุญบั้งไฟ ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด ยังได้มีการจัดกิจกรรมประกอบในงานที่หลากหลาย เช่น ตกแต่งบั้งไฟประยุกต์และสร้างสรรค์ ในรูปแบบความพอเพียง การประกวดขบวนแห่บั้งไฟ การประกวดผาแดง-นางไอ่ รำบวงสรวงพญาแถน โดยเฉพาะที่สร้างสีสันเป็นอย่างมากคือ การจุดบั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน บั้งไฟล้าน จำนวน 11 บั้ง ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังมีการโปรยฝนเทียม โดยใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำกระจายทั่วบริเวณจัดงาน ให้ผู้ร่วมงานได้เล่นน้ำอย่างชุ่มฉ่ำ และเล่นทะเลโคลนอย่างสนุกสนาน.
...