สองสามีภรรยาลาออกไปทำงานเก็บเงินเมืองจิงโจ้ พร้อมกับศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับกาแฟ และอาหารอิตาเลียนได้ 5 ปี กลับมาไทย คิดทำร้านกาแฟเคลื่อนที่บนรถตู้ จอดขายตามเทศกาล งานแฟร์ในภาคอีสาน โดยพ่วงเมนูอาหารอิตาเลียนฟิวชัน "พาสต้าแกงขี้เหล็กหน้าจบก"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานต้นไม้ใหญ่ ด้านหน้ามหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ พบ 2 สามีภรรยาได้จอดรถตู้คันเก่าที่ตกแต่งภายในสำหรับขายจำพวกเครื่องดื่มและกาแฟสด ทั้งยังมีอาหารให้รับประทานอีกด้วย โดยมีชื่อร้านว่า 'ข้อยเป็น ข้อยไป' ซึ่งกาแฟสดนั้นจะเป็นเครื่องดื่มแนว สโลว์ บาร์  ตามคอนเซปต์ “ชงช้าๆ แต่มีเสน่ห์” มีเมนูให้เลือกมากมาย ในราคาเริ่มต้นเพียง 40 บาท โดยส่วนใหญ่แล้ววัตถุดิบที่นำมาใช้นั้นจะลงมือทำเอง

ในส่วนของอาหารที่ขาย จะเป็นอาหารอิตาเลียนฟิวชัน จำพวกเส้นพาสต้าที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน โดยได้ดัดแปลงมาจากอาหารอิตาเลียนให้มีความเป็นอีสาน ที่นำเอาใบขี้เหล็ก และบักบก หรือจบก มาเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งจะมีรสชาติของแกงขี้เหล็กที่ไม่ขมมากนัก รวมอยู่กับความมันของชีสที่โรยหน้า พร้อมสัมผัสถึงรสชาติถั่วอัลมอนด์อีสาน หรือ จบก ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ให้ลองชิมถึงความแปลกใหม่ในการประยุกต์รวมกันระหว่างอีตาเลียนกับอีสาน หากท่านใดสนใจอยากติดตามความเคลื่อนไหว หรืออยากลองแวะชิม สามารถติดต่อ หรือติดตามได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Khoipen Khoipai ข้อยเป็น ข้อยไป

...

นางสาวคนารักษ์ ชัยช่วย อายุ 37 ปี เป็นชาวอำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า แฟนหนุ่มเมื่ออดีตทำงานเป็นสายกราฟิก ผลิตแมกกาซีนในบริษัทแห่งหนึ่ง หลังจากที่สื่อออนไลน์รุกหนักขึ้น บรรดานิตยสารต่างๆ ก็เริ่มปิดตัวลงไป ส่วนตนเองนั้นทำงานเป็นครีเอทีฟ รายการตลกชื่อดัง จึงได้ชักชวนกันไปทำงานเก็บเงินอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย โดยที่ตนเองได้ไปทำงานที่ร้านกาแฟ ส่วนแฟนตน ทำงานเป็นเชฟที่ร้านอาหารอิตาเลียนได้ 5 ปีกว่า จึงได้พากันกลับมาอยู่เมืองไทยที่บ้านเกิดแฟน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี มาอยู่ใกล้และดูแลครอบครัว

ภรรยาเจ้าของร้าน กล่าวต่อว่า จากนั้นได้ใช้เงินเก็บที่มีหาซื้อซากรถ และช่วยกันออกแบบตกแต่งภายใน ลงทุนไปร่วมกว่าครึ่งล้านบาท โดยมีความฝันว่า อยากขับรถไปท่องเที่ยวและขายของไปด้วย โดยที่ตนเองนั้นมักจะเดินทางไปขายของตามงานเทศกาลต่างๆ หรือ มิวสิกเฟสติวัลต่างๆ ทั่วประเทศ และหากไปทำธุระที่ไหนก็จะขับรถคันนี้ไปเปิดขายตามเส้นทางด้วย หากไม่มีเทศกาล หรือไม่ได้ไปไหน ตนเองก็จะจอดขายริมทางในตัวอำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี เส้นทางเชื่อมระหว่างถนนแจ้งสนิทไปจังหวัดศรีสะเกษ จุดสังเกตจะมีต้นไม้ใหญ่ๆ

...

นางสาวคนารักษ์ กล่าวอีกว่า รายได้ในแต่ละวันก็พออยู่ได้ หากได้ออกงานจะขายดีหน่อย สูงสุดราว 100 แก้ว ในราคาเริ่มต้นที่ 40-80 บาท ส่วนเมนูก็ไม่ได้แตกต่างไปจากคนอื่นมาก ก็มีบ้างที่ตนทำวัตถุดิบเองกับมือ เพราะตนเองรู้สึกว่ากลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด หรือตามชนบท เขาอาจจะยังไม่เคยได้กิน คราฟโคล่า พาสต้าเส้นสด ที่มีขายเฉพาะในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ๆ ตนจึงอยากจะนำมาเสิร์ฟให้ถึงที่ในราคาที่สมเหตุสมผล พออยู่ได้ กำไรไม่มาก ซึ่งตนเห็นได้เห็นแววตาคนกินแล้วรู้สุขใจแทน ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ แต่อาจจะเป็นสิ่งแปลกใหม่ของคนในชนบท

...

"สำหรับความหมายของชื่อร้านว่า 'ข้อยเป็น ข้อยไป' อยากให้คนฟังหรือเห็น รับรู้ถึงทั้ง 2 ความหมาย คนทั่วไปจะนึกถึง ค่อยเป็น ค่อยไป หมายความว่า ร้านนี้จะเดินเนินไปแบบค่อยๆ ทำนะ แล้วเราก็เป็นเครื่องดื่มแนว สโลว์ บาร์ ตามคอนเซปต์ “ชงช้าๆ แต่มีเสน่ห์” ส่วนอาหารก็เป็นแนวโฮมเมด ทำเส้นสดเอง มันก็ช้าอยู่แล้ว โดยรวมคือการค่อยๆ ทำ ส่วนความหมายของ (ข) ข้อย ก็คือตัวเราเอง คือพวกเราเป็นแบบนี้ ค่อยเป็นค่อยไป ทำไปเรื่อยๆ เท่าที่มีกำลัง" ภรรยาเจ้าของร้านกล่าว

...

ด้าน นายจำรัส เอี่ยมสุธนกุล อายุ 42 ปี เจ้าของร้านและเชฟอาหารอิตาเลียน กล่าวว่า ตนเองอยากจะนำเสนออะไรที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวอีสาน fusion (ฟิวชัน) กับอิตาเลียน ที่เป็นการหลอมระหว่างอาหารอิตาเลียนกับอาหารอีสานเข้าด้วยกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองเป็นเชฟอยู่ร้านอาหารอิตาเลียนที่ประเทศออสเตรเลียได้ 5 ปี จึงได้นำทักษะที่ได้มาประยุกต์ใช้กับบ้านเรา ซึ่งบ้านเราก็จะมีพาสต้าจำพวก ผัดขี้เมา ซึ่งของอิตาเลียนเลยก็จะมี คาโบนาร่า หรืออะไรประมาณนี้ โดยเมนูเหล่านี้คนอื่นเขาทำมาหมดแล้ว

เจ้าของร้านและเชฟอาหารอิตาเลียน กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวจึงอยากจะหาอะไรใหม่ๆ มานำเสนอบ้าง จึงได้ไปเลือกวัตถุดิบส่วนผสมมาจากตลาดชาวบ้าน คือถ้าเดินไปเจออะไรก็คิดตาม ว่ามันจะใช้กับอาหารฝรั่งได้ไหม แล้วค่อยเอามาประยุกต์ใช้ ลองผิดลองถูกมาจนได้มาเป็นสูตรนี้ คือ พาสต้าแกงขี้เหล็ก บักบก(จบก) ที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจมาก โดยจบกก็ดัดแปลงมาจากอัลมอนด์นั่นเอง แต่ราคาก็น่าจะใกล้เคียงกับอัลมอนด์เช่นกัน ซึ่งมันดูมีเสน่มากกว่า.