การแข่งขันฟอร์มูล่าม้ง หรือ ล้อเลื่อนไม้วิ่งลงภูเขาลาดชัน 400 เมตร ผลปรากฏว่า หนุ่มม้งจากบ้านแม้วดอยปุยวัย 30 ปี เฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น คว้าถ้วยแชมป์ไปครอง และเงินสดอีก 30,000 บาท ขณะที่บนดอยม่อนแจ่มคนแห่เที่ยวเงินสะพัดวันละกว่า 1 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการแข่งขันฟอร์มูล่าม้ง หรือล้อเลื่อนไม้ ประจำปี 2567 บนดอยม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งปีนี้มีนักแข่ง จากหมู่บ้านต่างๆ เข้าแข่งขันมากถึง 24 ทีม โดยแข่งขันกันขับขี่ ล้อเลื่อนไม้ หรือฟอร์มูล่าม้ง ลงภูเขาทางลาดชัน ระยะทางยาว 400 เมตร โดยแพ้คัดออก ซึ่งมีการแข่งขันกันถึง 3 วัน และวันสุดท้าย ในการชิงชนะเลิศ ระหว่างนักแข่ง จากบ้านม้งดอยปุย อำเภอเมืองเชียงใหม่ และนักแข่งจากบ้านหนองหอยเก่า อำเภอแม่ริม เจ้าถิ่น ต้องมีการแข่งขันให้ชนะ 2 ใน 3 ถึงจะชนะได้แชมป์ หลังผลัดเปลี่ยนกันชนะ จนต้องตัดสินรอบที่ 3 เพื่อหาแชมป์เพียงคนเดียว ท่ามกลางกองเชียร์ของหมู่บ้าน ที่มาร่วมลุ้นและร่วมเชียร์ ส่งเสียงดังสนั่นลั่น ดอยม่อนแจ่ม และยังมีนักท่องเที่ยว มารอลุ้นและชมจำนวนมาก

...

รอบชิงชนะเลิศ แข่งขันรอบที่ 3 เมื่อปล่อยจากจุดสตาร์ต นายนพกร พงศ์ไพรพัฒนา จากบ้านม้งดอยปุย อำเภอเมืองเชียงใหม่ นำมาแบบม้วนเดียวจบ โดยมี นายสมพงศ์นักแข่งจาก บ้านหนองหอยเก่าเจ้าถิ่น ตามมาแบบติดๆ แบบไม่ต้องมีเบรก สุดท้ายตามไม่ทัน นายนพกร เข้าเส้นชัยก่อน จนนายนพกรต้องพุ่งตัวไปข้างหน้า เพื่อลดการกระแทก เนื่องจากลงมาด้วยความเร็ว ใช้เวลาที่วิ่งลงมา ระยะทาง 400 เมตร ไม่ถึง 1 นาที คว้าแชมป์ฟอร์มูล่าม้ง ประจำปี 2567 ไปครองพร้อมถ้วยรางวัล และเงินสดอีก 30,000 บาท ส่วนอันดับ 2 นายสมพงศ์ เตชะเลิศพนา เจ้าถิ่นบ้านหนองหอยเก่า อำเภอแม่ริม ได้รับเงิน 20,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล และอันดับ 3 นายศุภชัย ชัยรัตนวารี จากหมู่บ้านแม่ขิ อำเภอแม่ริม ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล และรางวัลชมเชย ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท

นายวิชิต เมธาอนันต์กุล นายกเทศมนตรีตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ บอกว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเผยแพร่อัตลักษณ์ วิถีชีวิตของพี่น้องชาติพันธุ์ม้ง เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ ได้มาเที่ยวทั้งปี ซึ่งก็จะมีล้อเลื่อนให้นักท่องเที่ยวได้นั่งอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะที่มีการจัดการแข่งขัน รวมทั้งขายวัฒนธรรม วิถีชีวิตของชาติพันธุ์ม้ง ภาษา การแต่งกาย ให้มีมูลค่า เพื่อให้ลูกหลานได้ดูว่า วัฒนธรรมเหล่านี้ ยังมีชีวิต ไม่ใช่อยู่แต่ในพิพิธภัณฑ์ ตามโลกที่เปลี่ยนไป โดยช่วงวันหยุดที่ผ่านมามีเงินสะพัดบนดอยม่อนแจ่ม ไม่ต่ำวันละ 1 ล้านบาท.

...