แม่ค้ากาแฟโบราณตลาดที่อุทัยธานีบ่นอุบ น้ำตาล นมข้น ขึ้นราคากระทบต้นทุนสูง แต่หากขึ้นราคาก็ลูกค้าหนีแน่ เลยจำทนแบกภาระไว้ขายราคาเดิม แม่กำไรน้อยก็ยังเอาใจขาประจำไว้ ฝากรัฐบาลเร่งแก้ของแพงกระทบปากท้องประชาชนด้วย
เวลา 10.00 น. วันที่ 11 กันยายน 2566 หลังจากที่น้ำตาลและนมข้นนั้นขึ้นราคาแล้วมีบรรดาแม่ค้าบ่นผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจที่บริเวณ 4 แยกวงเวียนน้ำพุ ทางเข้าตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี ซึ่งเป็นร้านกาแฟข้างทาง
นางสาวสันทณี บุญกมุติ์ เจ้าของร้านกาแฟโบราณ กล่าวว่า มาขายอยู่บริเวณดังกล่าวมากว่า 6-7 ปีแล้ว ตั้งแต่เช้ามืดจนถึงสาย จะมีคนแวะเวียนมานั่งดื่มกาแฟกันจนเป็นสภากาแฟเลยก็ว่าได้ โดยมีลูกค้าประจำ รวมถึงขาจรที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาดเสร็จแล้วก็มานั่งคุยพบปะกัน โดยขณะนี้ น้ำตาลทรายนั้นขึ้นราคากิโลกรัมละ 25.50 บาทแล้ว ส่วนนมข้นแพ็กละ 48 กระป๋อง เคยซื้ออยู่ที่ 1,000 ต้นๆ ก็กระโดดขึ้นมาถึง 16,000 บาท เลยทีเดียว ส่วนกาแฟที่ซื้อมาชงนั้น ราคายังขยับขึ้นอีกด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่เท่าไร แต่อนาคตอันใกล้นี้ขึ้นอย่างแน่นอน
...
เจ้าของร้านกาแฟโบราณ กล่าวอีกว่า ราคาของที่ขึ้นนั้นส่งผลกระทบอย่างมาก ในการเพิ่มต้นทุนซื้อของมาขายและหากจะขึ้นราคา ก็คงไม่มีใครมานั่งดื่มกาแฟอย่างแน่นอน ตั้งแต่ขายกาแฟมา กาแฟร้อนขายแก้วละ 12 บาท ส่วนกาแฟเย็นก็เพียง 20 บาท และราคาขายก็ยังไม่เคยขึ้นเลย เนื่องจากลูกค้าที่มานั่งกินส่วนใหญ่เป็นขาประจำกันแล้ว และคุ้นเคยกันหากขึ้นราคาก็เกรงใจกัน จึงจำทนแบกรับต้นทุนดังกล่าวไว้
นางสาวสันทณี กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ก็อยากให้ทางรัฐบาลหันมาแก้ไขปัญหาของแพงในขณะนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่ราคานมข้นและน้ำตาลที่ขึ้น ซึ่งเวลาออกมาจากบ้านก็ต้องเติมน้ำมันบรรทุกของมาตั้งร้าน แต่น้ำมันตอนนี้ก็ขยับขึ้นแทบจะรายวันเลย ทางรัฐบาลน่าจะแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เพื่อปากท้องของประชาชนและบรรดาแม่ค้า