แจงดราม่า 1 จังหวัด 1 เมนูฯ หลังคนพังงาไม่รู้จัก "อาจาดหู" เมนูที่ได้รับเลือก ด้านร้านอาหารเจ้าของเมนูที่ส่งเข้าประกวดบอกเป็นเมนูพื้นถิ่นชุมชนกะไหล จุดเริ่มต้นจากเชลยที่ถูกกวาดต้อนจากไทรบุรีทำกิน เป็นปลากระบอกกินกับผักดอง 

เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ประกาศผลการคัดเลือกกิจกรรม "1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น ประจำปีงบประมาณ 2566" ก็ได้มีกระแสดราม่าถึงผลการคัดเลือกของแต่ละจังหวัด ที่เต็มไปด้วยคำถามและเสียงวิจารณ์จากประชาชนในพื้นที่ว่า ทำไมในบางเมนู ถึงได้รับการคัดเลือกขึ้นมา หรือบางเมนูคนในท้องถิ่นคนในจังหวัดหลายคนยังไม่รู้จัก และไม่เคยได้ยินด้วยซ้ำ

สำหรับของจังหวัดพังงา เมนูที่ได้รับเลือก คือ "อาจาดหู" ก็มีกระแสดราม่าไม่ต่างไปจากจังหวัดอื่นๆ โดยหลังจากมีการนำผลการคัดเลือกออกเผยแพร่ ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ตั้งข้อสงสัยในสื่อสังคมออนไลน์กันไปต่างๆ นานาว่า "อาจาดหู" คืออะไร บอกว่าตั้งแต่เกิดมาจนแก่ยังไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้จัก และทำไมถึงไม่เลือกเมนูอาหารประจำถิ่นที่ขึ้นชื่อและรู้จักกันอย่างแพร่หลายในพื้นที่

...

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่ ร้านเจ๊น้อง J’Nong Recipe อยู่ที่ ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ซึ่งเป็นเจ้าของเมนู "อาจาดหู" ที่ส่งเข้าประกวดและได้รับคัดเลือก โดย นางวารุณี สงวนนาม หรือ เจ๊น้อง เจ้าของร้าน ได้ให้ข้อมูลพร้อมกับโชว์วิธีการทำเมนูอาจาดหู ให้ผู้สื่อข่าวได้เห็นและได้ลิ้มรส โดยวัตถุดิบหลักของเมนูนี้ ประกอบด้วย ปลากระบอก กระเทียม ขิง ขมิ้นชัน พริกชี้ฟ้า งาขาวน้ำส้มสายชู เกลือ และน้ำตาล

วิธีทำเริ่มจากนำปลาคลุกขมิ้นลงทอดในน้ำมันให้สุกแบบกรอบนอกนุ่มใน พักค้างไว้ในจาน จากนั้นนำสมุนไพร กระเทียม ขิงซอย ขิงสลักดอก ขมิ้นชัน พริกชี้ฟ้า ผัดน้ำมันในกระทะ ผสมน้ำเปล่า น้ำส้มสายชู เกลือ น้ำตาล ตามรสชาติที่ชอบ ใช้ไฟกลางแล้วไฟอ่อนเคี่ยวให้เริ่มข้น จนเป็นน้ำอาจาดสมุนไพร จากนั้นมาราดกับปลาที่ทอดสุก พร้อมเสิร์ฟให้ได้ลองลิ้มชิมรส ซึ่งเป็นเมนูที่แปลกดี คล้ายๆ เมนูปลาเจี๋ยน แต่อุดมไปด้วยสมุนไพร รสชาติจัดจ้าน เปรี้ยวหวานมันเค็มเข้ากันอย่างลงตัว

นางวารุณี เปิดเผยว่า หลังได้รับการติดต่อจากสภาวัฒนธรรมจังหวัดพังงา ให้จัดทำเมนูอาหารส่งเข้าประกวด โดยมีโจทย์ว่า อาหารที่หาทานยากแล้วก็หายไป และรสชาติที่หายไป ทางร้านจึงได้เลือกเมนู "อาจาดหู" ที่เป็นอาหารที่ชุมชนกะไหลทำกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ แล้วก็ถ่ายทอดสืบต่อกันมาให้ลูกหลาน ว่ากันว่ามีที่มาจากเจ้าเมืองพังงาไปตีหัวเมืองไทรบุรีแล้วก็กวาดต้อนเชลยมา ทีนี้เชลยเหล่านั้นก็ทำอาหารทานกัน เราก็เลยได้รับวัฒนธรรมตรงนั้นมาด้วย คำว่าอาจาดก็คือผักดอง ส่วนคำว่าหูหรือหื้อคือปลา เป็นวัตถุดิบที่สำคัญ นอกจากปลากระบอกจากทะเลอ่าวพังงาแล้ว ยังใช้สมุนไพรขมิ้นชันและขิง จากบ้านเขาตำหนอน อ.ทับปุด

...

"สำหรับกระแสดรามานั้น พร้อมยอมรับคำวิจารณ์ต่างๆ เนื่องจากเมนูอาหารไม่รู้จักคุ้นเคยของคนทั่วไป แต่ก็รู้สึกดีใจที่ได้นำอาหารจานที่คนบอกว่าไม่เคยรู้จัก ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยเห็นมา เพื่อที่จะให้ทุกคนได้รู้ ได้เห็น ได้สัมผัส ได้ชิมกัน ร้านเจ๊น้อง กะไหล เป็นร้านอาหารพื้นเมืองพังงาและก็ยังมีอาหารอีกหลากหลายชนิดที่เริ่มหายไป เจ๊น้องจะตามกลับมา แล้วก็เอามาเชิดชูเป็นอาหารถิ่นของพังงาต่อไป" เจ้าของร้านอาหารที่ทำเมนูจนได้รับเลือก กล่าว

...

ขณะที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพังงา ได้ชี้แจงว่า กิจกรรม "1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น" ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) "รสชาติ...ที่หายไป The Lost Taste" ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ของอาหารไทย อาหารท้องถิ่น ที่มีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตคนไทย รวมถึงการรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศ รวมทั้งเสนอสาระความรู้เกี่ยวกับอาหารไทยและอาหารถิ่น ต่อยอดสมุนไพรไทย สรรพคุณทางเลือกและส่งต่อภูมิปัญญาที่มีการสืบทอดรุ่นสู่รุ่น อีกทั้งเป็นการส่งเสริมศักยภาพทางเครือข่ายวัฒนธรรม ในการบริหารจัดการงานวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานมรดกภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยหลักเกณฑ์เมนูอาหารที่ได้รับคัดเลือกจะต้องเป็นเมนูอาหารไทย อาหารท้องถิ่น หรืออาหารพื้นบ้าน ที่ใกล้สูญหายหรือสูญแล้ว ต้องเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ มีสรรพคุณทางเลือก และส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น สามารถนำไปพัฒนาต่อยอด เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์.