เริ่มแล้วอย่างยิ่งใหญ่ งานเทศกาลไก่เบตง ปี 2566 ปีนี้ กิจกรรมมากมายทั้งแข่งกินผัดหมี่เบตง แข่งกินวิบากจของดีเมืองเบตง คาดจะมีนักท่องเที่ยวมาเลเซียจำนวนมากเข้ามาเที่ยว มีเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการจัดงานเทศกาลงานไก่เบตง ประจำปี 2566 ที่เริ่มมาตั้งแต่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นไปอย่างคึกคักโดยมีการเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ ถือเป็นงานสำคัญของทาง อ.เบตง จ.ยะลา จัดที่บริเวณลานวัฒนธรรมสัมพันธ์เทศบาลเมืองเบตง เพื่อเป็นการอนุรักษ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการเลี้ยงไก่เบตง มุ่งเน้นการนำเสนออาหาร อัตลักษณ์เบตง การปลูกทุเรียน และของดีเมืองเบตง ต่อยอดเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์บนพื้นฐาน สังคมพหุวัฒนธรรมของเมืองเบตง และเปิดโอกาสให้เด็ก เยาวชน ประชาชน ได้แสดงความสามารถ และสร้างการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ดึงดูดนักท่องเที่ยว และสร้างสีสัน ความหลากหลายในกิจกรรมการท่องเที่ยว
...
นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง กล่าวว่า อำเภอเบตงต้นทุนทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ คือ “ดินดี น้ำดี อากาศดี” ส่งผลให้วัตถุดิบต้นทุนทางธรรมชาติมีความโดดเด่นกว่าพื้นที่อื่น การทำการเกษตรจึงได้ผลผลิตดี โดยเฉพาะการปลูกผลไม้ มีทั้ง เงาะ มังคุด ลองกอง และที่นิยมที่สุดคือ ทุเรียนสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีความโดดเด่นด้านรสชาติ ซึ่งในการจัดงานไก่เบตงในครั้งนี้ เทศบาลเมืองเบตงได้นำเอาทุเรียนมาเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและส่งเสริมอาชีพ สร้างเป็นเอกลักษณ์ใหม่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว และสร้างสีสัน ความหลากหลายในกิจกรรมการท่องเที่ยว ภายใต้คอนเซปต์ “เช็กอิน ชิม ช้อป ของดีเมืองเบตง”
นายนรินทร์ เรืองวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอำเภอเบตง เปิดเผยว่า ปกติช่วงวันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวอำเภอเบตงจำนวนมากอยู่แล้ว เฉลี่ยแล้วต่อเดือนก็ประมาณ 30,000-40,000 คน ช่วงที่ทางเทศบาลจัดงานเทศกาลไก่เบตงเป็นช่วงวันชาติของประเทศมาเลเซีย คือวันที่ 31 สิงหาคม จึงคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินมาเข้ามาท่องเที่ยวในอำเภอเบตงไม่ต่ำกว่า 20,000 คน ที่พักโรงแรมถูกจองเต็มหมดและไม่เพียงพอต่อนักท่องเที่ยว และคาดว่าจะมีเงินสะพัดในช่วงจัดงานเทศกาลไก่เบตงกว่า 100 ล้านบาท
สำหรับกิจกรรมภายในงาน พบกับสินค้าของดีเมืองเบตง การแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง โดย วันที่ 1 กันยายน 2566 พบกับวงพัทลุง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการประกวดพันธุ์ไก่เบตง ประกวดธิดาไก่เบตง การประกวด Miss Tourism การประกวดดนตรีเยาวชน การประกวดทุเรียนพันธุ์หมอนทอง การแข่งขันกินไก่เบตง การแข่งขันกินหมี่เหลืองเบตง การแข่งขันกินวิบาก และนิทรรศการไก่เบตงพร้อมกิจกรรมพิเศษ คือ การสาธิตวิธีการตอนไก่ และบริการตอนไก่ฟรีแก่ผู้ร่วมกิจกรรม
...
หนึ่งในไฮไลต์ของงาน คือ การแข่งขันกินผัดหมี่เบตง แบ่งเป็นประเภทชายและประเภทหญิง มีผู้เข้าร่วมแข่งขันประเภทละ 12 คน ทางคณะกรรมการจะเตรียมหมี่เหลืองผัด 2 กิโลกรัม พริกน้ำส้ม 1 ถ้วย น้ำดื่ม 1 ขวด ผู้ร่วมแข่งขันจะต้องกินให้เร็วที่สุด และกินให้ได้มากที่สุดภายในระยะเวลา 10 นาที ซึ่งต้องใช้ตะเกียบที่คณะกรรมการเตรียมไว้ให้เท่านั้น ห้ามใช้มือ หรือใช้ช้อนส้อม กรรมการจะนำส่วนที่เหลือมาชั่งน้ำหนัก หมี่ของผู้ร่วมแข่งขันที่มีน้ำหนักเหลือน้อยที่สุดเป็นผู้ชนะ และรับเงินรางวัลจำนวน 1,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 รับเงินรางวัล 500 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 รับเงินรางวัล 300 บาท ส่วนหมี่ที่เหลือจากการแข่งขัน ทางคณะกรรมการให้ผู้ร่วมแข่งขันนำกลับไปบ้าน
...
โดยผลการแข่งขัน ผู้ชนะเลิศฝ่ายชาย กินหมี่ผัดไปได้ถึง 1.308 กิโลกรัมหมดก่อนเวลา 10 นาที ส่วนผู้ชนะเลิศฝ่ายหญิงก็ไม่น้อยหน้า กินหมี่ผัดไปได้ถึง 1.178 กิโลกรัม สร้างความตกตะลึง มึนงง และสงสัยให้กับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เข้ามาชมเป็นอย่างมาก ว่ากินไปได้อย่างไร ที่กินได้เพราะเส้นหมี่เหลืองเบตงอร่อย หรือคนผัดหมี่ทำอร่อย หรือผู้แข่งขันอยากได้เงินรางวัลกันแน่
...
ขณะที่การแข่งขันกินวิบากของดีเมืองเบตง ทั้งชายและหญิง มีผู้เข้าแข่งจำนวน 12 คน ซึ่งทางคณะกรรมการได้เตรียมอาหาร ออกเป็น 3 ชุด โดยชุดแรกประกอบด้วย โรตีกรอบเบตง ขนมโก๋เบตง อย่างละ 4 ชิ้น กล้วยน้ำว้าเบตง 4 ลูก ชุด 2 เฉาก๊วยเบตง ปริมาณครึ่งกิโลกรัม และชุด 3 เนื้อทุเรียนหมอนทองเบตง ปริมาณ 6 ขีด โดยผู้เข้าแข่งขันต้องกินให้หมดภายในเวลา 10 นาที จึงจะเป็นผู้ชนะ โดยผู้ชนะ อันดับ 1 ได้แก่ นายสิทธิชัย แซ่เล่า ได้รับเงินรางวัล 1,000 บาท อันดับ 2 ได้แก่ นายเรวัต คมขำ ได้รับเงินรางวัล 500 บาท และ อันดับ 3 ได้แก่ น.ส.คุณภัทร แก้วชนากานต์ ได้รับเงินรางวัล 300 บาท ซึ่งทั้ง 2 คน กินหมดก่อนเวลาที่คณะกรรมการตั้งไว้อีกด้วย.