พาไปสัมผัสบรรยากาศร้านกาแฟของเฮียโล้ หนึ่งในร้านกาแฟโบราณผ่านยุคสมัยมากว่า 70 ปี ขายหน้าสถานีรถไฟสวรรคโลก มีลูกค้าแวะเวียนมากินตั้งแต่รุ่นหนุ่มยันแก่ พร้อมสูตรเด็ดกินกาแฟร้อนคู่ปาท่องโก๋แบบสวรรคโลก
ในอดีตสิ่งที่อยู่คู่กับสถานีรถไฟตามเมืองต่างๆ ก็คือ ร้านกาแฟโบราณ เช่นเดียวกับที่สถานีรถไฟสวรรคโลกจะมีร้านกาแฟโบราณที่อยู่คู่กับสถานีรถไฟอายุกว่า 70 ปี เปิดขายผ่านกาลเวลามาแล้วกว่า 3 รุ่น ทำให้มีลูกค้าที่กินมาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ จนปัจจุบันอายุอานามกว่า 70 ปี คือ ร้านกาแฟของเฮียโล้ หรือ นายสุภัทร พงษ์พาณิช อายุ 54 ปี ผู้สานต่อร้านกาแฟมาจากรุ่นพ่อ คือ ลุงชาญ เจ้าของร้านรุ่น 2


...
เฮียโล้ กล่าวว่า เดิมที่ร้านกาแฟแห่งนี้ได้มีอาแปะในตลาดสวรรคโลกมาเปิดขายก่อนลุงชาญพ่อของตน ส่วนพ่อของตนได้มาขายต่อประมาณปี 2515 จนกระทั่งปี 2560 ได้หยุดขาย จากนั้นตนเองได้มาสานต่อร้านกาแฟ ส่วนสูตรกาแฟยังคงรักษาแบบโบราณ โดยจะใช้เตาถ่านต้มน้ำร้อน ไม่ใช้เตาแก๊ส และรสชาติยังคงเดิมทั้งกาแฟ ชา และไข่ลวก ส่วนราคาได้ปรับขึ้นตามยุคสมัย ซึ่งแต่ก่อนพ่อของตนเคยขายโอเลี้ยงแก้วละ 50 สตางค์ กาแฟร้อนแก้วละ 1 บาท แต่ด้วยปัจจุบันลุงก็ได้ปรับราคาขึ้นตามยุคสมัย โดยโอเลี้ยงอยู่ที่แก้วละ 12 บาท ขณะที่กาแฟร้อน ชาร้อน ขายแก้วละ 15 บาท ส่วนไข่ลวกจะขายแก้วละ 15 บาท ทางร้านจะให้ไข่ลวก 2 ฟอง ซึ่งก็จะมีลูกค้าขาประจำแวะเวียนมาดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวันตั้งแต่สมัยที่พ่อตนขาย


ด้านลุงแจ้ หรือ นายจำลอง คัมภีรพจน์ อายุ 73 ปี เล่าให้ฟังว่า ตัวเองได้กินกาแฟที่ร้านของลุงชาญตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มที่ทำงานอยู่โรงรับจำนำสวรรคโลก โดยทุกเช้าก่อนไปทำงานจะมาแวะกินกาแฟร้อน ไข่ลวก และปาท่องโก๋ จนถึงทุกวันนี้ลุงแจ้เล่าให้ฟังว่า คนสวรรคโลกเวลากินกาแฟร้อนกับปาท่องโก๋ จะฉีกปาท่องโก๋ออกจากกันจากนั้นจะฉีกเป็นชิ้นพอคำ ก่อนที่จะนำไปใส่ในกาแฟร้อน จากนั้นก็จะกินกาแฟร้อนพร้อมปาท่องโก๋ที่อยู่ในแก้วกาแฟ


...
สำหรับปาท่องโก๋ที่กินคู่กับกาแฟก็จะต้องเป็นเจ้าดั้งเดิม คือเจ้าของเฮียตี๋น้อย ซึ่งปัจจุบันโกป๋องเป็นผู้ที่สานต่อ ซึ่งปัจจุบันขายอยู่ในตลาดสวรรคโลก สำหรับปาท่องโก๋สูตรของเฮียตี๋น้อยนั้นจะไม่เหมือนใคร คือ แป้งหนา ตัวใหญ่ เวลากินกับกาแฟร้อนก็จะเข้ากันพอดี ซึ่งทุกวันนี้ตนก็ยังคงตามมากกินแฟร้อน ไข่ลวก และปาท่องโก๋ เป็นประจำทุกวัน.