แนะนำเมนูเด็ด "หางหมูอบโอ่ง" เจ้าแรกของตรัง ดูสูตรจากยูทูบจนประสบความสำเร็จ

หนุ่มคนย่างหมูเมืองตรัง แตกไลน์ขาย “หางหมูอบโอ่ง” เสริม จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ด กรอบ หอมกลิ่นโอ่งดินเผา รายแรกของ จ.ตรัง เผยขายมา 8 เดือน รายได้เฉลี่ยเกิน 2 หมื่นบาทต่อเดือน เผยศึกษาสูตรทำจากยูทูบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรนันท์ ทองใย หรือ ขวัญ อายุ 35 ปี หนุ่มที่ยึดอาชีพย่างหมูย่างเมืองตรัง ด้วยความที่คุ้นชินและคุ้นเคยอยู่กับหมูมาเป็นระยะเวลาหลายปี ได้ผันตัวเองมาทำอาชีพเสริมด้วยการขาย “หางหมูอบโอ่ง” เป็นรายแรกของ จ.ตรัง โดยการศึกษาข้อมูลจากในยูทูบ ก่อนจะตัดสินใจมาคิดสูตร “หางหมูอบโอ่ง” เป็นของตัวเอง จนประสบความสำเร็จและเป็นที่ถูกใจของลูกค้า ทั้งขาประจำและขาจร

ด้วยจุดเด่นของหางหมูอบโอ่ง มีความเอร็ดอร่อยจากการหมักหางหมูด้วยสูตรเฉพาะข้ามคืน และอบภายในโอ่งดินเผา โดยการใช้ความร้อนจากถ่านไม้ที่ตั้งบนเตาอั้งโล่ และการควบคุมไฟที่พอดี ทำให้หนังของหางหมูกรอบ สามารถเก็บไว้ทั้งวันก็ยังคงความกรอบอยู่ รวมทั้งตัวหางหมูยังคงมีความหอมของโอ่งดินเผา และถ่านไม้อีกด้วย ซึ่งนายสุรนันท์ ได้เปิดขายมาเพียงแค่ระยะเวลา 8 เดือนกลับประสบความสำเร็จจากสิ่งที่ลองผิดลองถูก จนทำให้มีรายได้เสริมไว้เลี้ยงดูครอบครัวกว่า 2 หมื่นบาทต่อเดือน แทบจะกลายเป็นรายได้หลักกว่าการย่างหมูย่างเมืองตรังไปแล้วเสียด้วยซ้ำ 

นายสุรนันท์ กล่าวว่า เนื่องจากใน จ.ตรัง ยังไม่มีใครทำเมนูหางหมูอบโอ่งก็เลยลองค้นหาสูตร รวมทั้งวิธีการในการทำอบโอ่งจากทางยูทูบ ก่อนที่จะรวบรวมข้อมูลและความรู้ทุกอย่าง ก่อนจะมาคิดสูตรในการหมัก และสูตรน้ำจิ้มขึ้นเป็นสูตรของตนเอง ซึ่งหางหมูอบโอ่งนี้ตนก็เริ่มขายมาได้ประมาณ 8 เดือน โดยจุดเด่นของ หางหมูอบโอ่ง ของตนนั้นคือหนังจะกรอบอยู่ได้ทั้งวัน มีรสชาติที่เข้มข้น กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด จากที่ได้สอบถามลูกค้าประมาณ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ก็บอกกลับมาว่าอร่อย และจุดเด่นอีกอย่างคือการใช้โอ่ง ในการอบสามารถได้กลิ่นของโอ่งดินเผาเข้าไปซึมอยู่ในตัวหางหมู ซึ่งจะทำให้หอม และการใช้ถ่านไม้ ก็จะทำให้มีกลิ่นหอมของถ่านเข้าไปด้วย ทำให้หางหมูกรอบและอร่อยกว่าการอบหรือย่างจากเตาอื่นๆ ซึ่งระยะเวลาในการอบก็ขึ้นอยู่กับขนาดของหางหมู หากหางใหญ่ก็ใช้เวลาประมาณ 40 นาที หากหางเล็กก็ประมาณ 30 นาที

เจ้าของร้านหางหมูอบโอ่ง กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ส่วนผสมในการหมักก็ไม่มีอะไรมาก ใช้เพียงซอส และเครื่องปรุงรสต่างๆ แต่ที่สำคัญคือจะต้องหมักข้ามคืนถึงจะอร่อย ผลตอบรับหลักจากเปิดขายมา 8 เดือน เป็นที่พอใจ โดยปกติตนจะเปิดร้านขายอยู่ในพื้นที่บ้านป่ายาง อ.นาโยง จ.ตรัง โดยจะเริ่มขายตั้งแต่เวลา 10.30 น. หยุดทุกวันอังคาร ประกอบกับการออกบูธจำหน่ายในงานต่างๆ ซึ่งหากมาจัดบูธขาย หางหมูอบโอ่งของตนก็ถือเป็นสินค้าแปลกใหม่ ทำให้มีลูกค้ามาซื้อกันไม่ขาดสาย

นายสุรนันท์ กล่าวอีกว่า สำหรับยอดขายต่อวันในตอนนี้ ก็ขายอยู่ประมาณ 80 กิโลกรัม หรือประมาณ 100 กว่าหาง แต่ก็ขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศและสถานที่ที่เราไปขาย หากฝนแล้งก็จะขายดี เพราะลูกค้าจะมาเดินกันเยอะ ส่วนใหญ่ก็จะขายดีในช่วงเย็นๆ ลูกค้ากลับจากทำงานก็แวะซื้อไปกินกับข้าว หรือนำไปกินเป็นกับแกล้ม รายได้หลังหักต้นทุนแล้วก็ตกอยู่ที่เดือนละประมาณกว่า 2 หมื่นบาท กำไรก็ไม่ได้มากนักเพราะหางหมูที่รับมาก็ตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท ซึ่งได้เพียงแค่ 3 หางเท่านั้น ก็ถือว่าราคาสูงพอสมควร เพราะหมู 1 ตัว มีแค่หาง 1 ชิ้นเท่านั้น แต่ก็พอที่จะสามารถเลี้ยงครอบครัวได้ ประกอบกับยังคงประกอบอาชีพย่างหมูย่างเมืองตรังคู่กันไปด้วย 

เจ้าของร้านหางหมูอบโอ่ง กล่าวด้วยว่า สำหรับราคาที่ขายอยู่ก็เริ่มต้นตั้งแต่ 70 บาท ไปจนถึง 160 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของหางแต่ละอัน ขณะนี้ก็กำลังวางแผนที่จะส่งขายในต่างจังหวัด ในชนิดซีลสุญญากาศ ซึ่งอยู่ในระหว่างการทดลองว่าจะมีปัญหาอะไรบ้างในระยะเวลาระหว่างการส่ง หากใครสนใจก็สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 06-1215-7629 หรือเฟซบุ๊ก Suranan Tongyai.