แจ้งข้อหา อินฟลูฯ เจ้าของสิงโตหลุด ทำร้ายเด็กวัย 11 ขวบ - ชาวบ้านที่ จ.กาญจนบุรี เจ้าตัวยืนยันไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น ขอโทษครอบครัวผู้บาดเจ็บ พร้อมรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด

ความคืบหน้ากรณีสิงโตเลี้ยงหลุดออกจากบ้าน ก่อเหตุทำร้ายเด็กชายวัย 11 ขวบ และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี โดยวันที่ 5 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 08.30 – 14.00 น. ภายใต้การมอบหมายของนายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นำโดยนายมานะ เพิ่มพูล ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า เจ้าหน้าที่สายตรวจป้องกันและปราบปรามด้านสัตว์ป่าสายที่ 2 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ร่วมกับ สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอบ่อพลอย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีภาพข่าวจากสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีสิงโตทำร้ายเด็ก และประชาชน ในพื้นที่บ้านรางขาม หมู่ที่ 8 ตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี

พบเจ้าของสิงโตคือ นายปริญญา ภาคภูมิ อายุ 32 ปี ผู้ครอบครองสิงโต ได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ 3 วัน ได้นำสิงโตออกมาจากกรงเลี้ยง เพื่อจะซ่อมแซมกรง นำโซ่คล้องที่บริเวณลำคอของสิงโตแล้วผูกไว้ที่เสาเหล็กข้างบ้าน ในวันเกิดเหตุ วันที่ 4 ตุลาคม 2568 เวลา 20.00 น. มีชาวบ้านในพื้นที่ตะโกนเรียกว่า มีสิงโตหลุดมากัดคน ในขณะนั้นนายปริญญา อยู่ในบ้านได้ออกมาพบสิงโตอยู่หน้าบ้าน บริเวณถนน พบผู้บาดเจ็บ 2 คน คนที่ 1 คือ เด็กชายอายุ 11 ปี ได้รับบาดเจ็บเป็นรอยเล็บบริเวณหน้าอก และโดนกัดเป็นแผลที่สะโพก คนที่ 2 คือ นายสราวุธ อายุ 43 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาซ้าย นำตัวส่งโรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ และส่งต่อโรงพยาบาลสินแพทย์เพื่อทำการรักษา 

...

นายปริญญาได้เห็นสิงโตของตนเองยังอยู่บริเวณหน้าบ้าน จึงได้นำสิงโตกลับเข้าไปขังไว้ในบ้านของตนเอง ผลการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและรายละเอียดเอกสารการครอบครองสิงโต ปรากฏว่า 

1. การตรวจสอบชนิดและจำนวนสัตว์ป่าควบคุม ประเภท ก. ชนิดสิงโต เพศเมีย 1 ตัว อายุประมาณ 1 ปี 2 เดือน หมายเลขไมโครชิป 900115004392995 ซึ่งฝังไว้บริเวณคอ และมีข้อมูลตรงกับใบรับแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าควบคุม เลขที่รับแจ้ง 781 ลงวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2567 ครอบครองโดยนายปริญญา ภาคภูมิ สถานที่ครอบครองคือพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี

2. จากการตรวจสอบความเหมาะสมของสถานที่ครอบครองสัตว์ป่าควบคุม ประเภท ก ชนิดสิงโต จากบันทึกการตรวจสอบ เมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2568 โดยเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี ได้เข้ามาตรวจสอบสถานที่ครอบครองแล้ว ปรากฏว่ายังไม่มีความแข็งแรงเพียงพอ จึงได้สั่งการให้นายปริญญา ภาคภูมิ ดำเนินการปรับปรุงกรงเลี้ยงสิงโต ให้แข็งแรงและได้มาตรฐานมีความปลอดภัยเพียงพอภายในระยะเวลา 30 วันนับจากวันที่ตรวจสอบ และได้มีหนังสือสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ที่ ทส 0913.7/12110 ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2568 แจ้งให้นายปริญญา ภาคภูมิ ทราบและดำเนินการแล้ว

3. คณะเจ้าหน้าที่ฯ พิจารณาเห็นว่า เพื่อความปลอดภัยแก่ประชาชนในพื้นที่ ในขณะที่สถานที่ครอบครองสิงโตยังไม่มีความแข็งแรง มีความจำเป็นที่จะต้องเคลื่อนย้ายสิงโตตัวดังกล่าวไปดูแลที่ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นหน่วยงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยนายปริญญา ภาคภูมิ ให้ความยินยอมเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายสิงโตไปไว้ในสถานที่ดังกล่าว และยินยอมจ่ายค่าเลี้ยงดู และค่าขนส่ง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้กับทางราชการ และยินยอมที่จะปฏิบัติตามระเบียบทางราชการทุกกรณี โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ

4. จากเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ร่วมกันพิจารณาแล้ว เห็นว่า กรณีนายปริญญา ภาคภูมิ ปล่อยให้สิงโตหลุดออกมาทำร้ายเด็กและประชาชนในพื้นที่จนได้รับบาดเจ็บ เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 15 ห้ามมิให้ผู้ใดทิ้งหรือปล่อยเป็นอิสระซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือสัตว์ป่าควบคุม หรือกระทำการใดๆ ให้สัตว์ป่านั้นพ้นจากการดูแลของตน มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 91 และผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 377 ผู้ใดควบคุมสัตว์ดุสัตว์ร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นเที่ยวไปโดยลำพังในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์

จึงได้มอบหมายให้ นายประวุธ เปรมปรีดิ์ เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ทำหน้าที่หัวหน้าสายตรวจป้องกันและปราบปรามด้านสัตว์ป่าสายที่ 2 เป็นผู้นำบันทึกฉบับนี้มาแจ้งความดำเนินคดีกับ นายปริญญา ภาคภูมิ และดำเนินการอายัดสิงโตดังกล่าว นำไปดูแลที่ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จังหวัดสุพรรณบุรี

การตรวจสอบครั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่ฯ ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ มิได้บังคับขู่เข็ญผู้ใด มิได้ทำให้ทรัพย์สินเงินทองของผู้ใดสูญหายหรือเสียหายแต่อย่างใด และมิได้เรียกร้องเอาทรัพย์สินเงินทอง หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ใดแต่ประการใด อ่านให้นายปริญญา ภาคภูมิ ผู้นำตรวจ และผู้เกี่ยวข้องทุกคนฟัง และให้อ่านเองแล้วรับว่าถูกต้องเป็นจริงทุกประการ จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน

...

จากนั้นได้นำสิงโตและนายปริญญามาที่ สภ.บ่อพลอย เพื่อลงบันทึกประจำวันและแจ้งความกับพันตำรวจโทชิตภณ ชาตวิทยา สว.สอบสวน สภ.บ่อพลอย ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนของผู้เสียหายก็ต้องรอให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำอีกครั้งหนึ่ง

ทางด้าน นายสมพล อายุ 51 ปี พ่อของ ด.ช. วัย 11 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ก็เดินไปบ้านนู้น แล้วทางนู้นเขานั่งกินเบียร์กันอยู่แล้วเขาก็ไล่สิงโตกลับมา แต่ลูกตนอยู่ร้านค้า แล้วลูกตนก็จะกลับมาพอดี วิ่งแล้วมาสวนกับสิงโต เขาก็เดินมาเฉยๆ จะกลับบ้านสิงโตมันก็กัดเลย สำหรับอาการตอนนี้ ลูกชายก็ปลอดภัยดี ทั้งยังเผยอีกว่า มันกรงมันไม่ดี มันหลุดบ่อย ถ้ามันไม่หลุด ก็คงไม่มีใครไปยุ่งกับเขา แต่ทีนี้มันหลุดบ่อย หลายครั้งหลุดประจำ หลุดบ่อยเลย ยังไม่ได้คุยอะไรละเอียด เขาก็ได้แต่บอกว่าพี่ขอโทษมันไม่อยากให้เกิด

ต่อมา ผู้สื่อข่าวพบกับ น.ส.ขวัญนา เกตุหนู คนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า สามทุ่มหน่อยๆ เด็กๆ กำลังวิ่งเล่นกันหน้าบ้านเพื่อจะกลับบ้าน เหมือนได้เวลากลับบ้านกัน แต่ทีนี้น้องก็วิ่งกลับบ้านไปสวนกับสิงโต เพราะสิงโตหลุดอยู่ก่อนแล้ว แต่น้องไม่เห็น ซึ่งตนเองไม่เห็นเหตุการณ์ แต่เด็กๆ มาตามเพราะตนอยู่แถบบ้านกำลังจะเก็บร้าน ลักษณะสิงโตมันหลุดออกมาอยู่แล้ว จังหวะเจอกันพอดี สิงโตมันเข้าชาร์จเลยเด็กๆ มาเรียก ตนวิ่งไปดูเห็นสิงโตกำลังตะครุบน้องอยู่จะกัดกินเลย พอน้องเรียกว่าช่วยด้วยๆ สิงโตก็ไปเข้าใส่เลย

...

ด้าน นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ก็ได้มาตรวจสอบกันตั้งแต่เช้าในเรื่องของสิงโตที่ทำร้ายคน ตอนนี้ก็ได้คุยกับทางเจ้าของผู้ครอบครองว่า เราจะขออนุญาตที่จะนำสัตว์เนี่ย อายัดไปไว้ที่บึงฉวากก่อน ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติของสัตว์ป่ามาตรา 15 อยู่แล้ว ที่ว่าหากผู้ครอบครองปล่อยปละละเลย หรือว่าปล่อยให้สัตว์หลุดออกมา ซึ่งมีทั้งโทษปรับแล้วก็โทษจำคุกไม่เกินหกเดือน

ซึ่งเรื่องนี้ ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ท่านสุชาติ ชมกลิ่น อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตลอดจนถึงท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ก็โทรมากำชับว่าขอให้ดำเนินการด้วยความตรงไปตรงมา แล้วให้ดำเนินการนำข้อกฎหมายให้ถูกต้อง ซึ่งเราก็ได้ชี้แจงกับเจ้าของที่เลี้ยงครอบครองว่าท่านมีความผิดฐานใด แล้วก็มีการพูดคุยกันจนสามารถที่จะนำสัตว์สิงโตไปที่บึงฉวาก โดยในบันทึกที่เราจะบันทึกกับเจ้าของมีเรื่องของค่าเลี้ยงดูและค่าขนส่งด้วยที่ชดใช้ให้กับทางราชการ

ทั้งนี้อยากให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ข้างเคียงได้สบายใจว่า ทางหน่วยราชการไม่ได้ปล่อยปละละเลยเราก็จะดำเนินการว่าให้ไปเป็นไปอย่างด้วยความยุติธรรม ในส่วนเรื่องของการอนุญาตครอบครองอันนี้จะต้องตรวจสอบให้เป็นไปตามระเบียบ เพราะมันมีระเบียบอยู่แล้วว่า ถ้าผู้ครอบครองได้ขอยื่นครอบครองแล้ว จะต้องปฏิบัติอย่างไรในเรื่องของกรง เรื่องของการเลี้ยง เรื่องของอะไรต่างๆ ซึ่งตอนนี้มีคนส่งข้อมูลมาให้มากไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคลิปอะไรต่างๆ เราคงจะนำมารวมกันแล้วก็พิจารณาในการปฏิบัติ แต่ในเรื่องของกฎหมายอันนี้เราก็จะส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอน

...


ขณะที่ทางด้านนายปริญญา ภาคภูมิ อายุ 32 ปี เจ้าของสิงโต เปิดใจว่า ขณะเกิดเหตุกรงของสิงโตอยู่ระหว่างการปรับปรุง ยังทำไม่เสร็จ จึงนำสิงโตมาผูกโซ่ไว้นอกกรง แต่เกิดพลาดจนหลุดออกมา ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์นี้ และขอโทษครอบครัวผู้บาดเจ็บ พร้อมรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด 

โดยระบุว่า ปกติมเหสีไม่ดุร้าย คิดว่าน่าจะเป็นสัญชาตญาณสัตว์ตามธรรมชาติ ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้าย แต่แรงของมันเยอะ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เตรียมนำตัวสิงโตไปดูแลชั่วคราวที่กรมอุทยาน เพื่อประเมินความเหมาะสมในการเลี้ยงต่อไป.