"กองกำลังบูรพา" เข้ม กำหนดแนวการดำเนินคดี "ชาวกัมพูชา" กรณีละเมิดมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ "บ้านหนองจาน" อ.โคกสูง จ.สระแก้ว หลังประกาศใช้กฎอัยการศึก

วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 10.00 น. กองทัพบก ได้เผยกรณีกองกำลังบูรพาได้ออกประกาศกำหนดพื้นที่รักษาความสงบเรียบร้อยในเขตบ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ภายหลังปรากฏเหตุประชาชนจากฝั่งกัมพูชาลักลอบเข้ามาก่อความไม่สงบในเขตแดนไทย อันเป็นภัยต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่

เพื่อคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนไทย และรักษาอธิปไตยของชาติ กองกำลังบูรพา จึงอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 กำหนดมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้

มาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย

1. กำหนดพื้นที่บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เป็นพื้นที่รักษาความสงบเรียบร้อย

2. กำหนดถนนศรีเพ็ญ ในพื้นที่บ้านหนองจาน เป็นแนวรักษาความสงบเรียบร้อย

3. กำหนดมาตรการควบคุมเพื่อความปลอดภัยใน พื้นที่รักษาความสงบเรียบร้อย ดังนี้

     3.1 ห้ามนำอาวุธหรือสิ่งเทียมอาวุธเข้ามาในพื้นที่

     3.2 ห้ามปิดกั้นเส้นทางที่กระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่

     3.3 ห้ามถ่ายภาพหรือบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับฐานปฏิบัติการทางทหาร

     3.4 ห้ามก่อเหตุทะเลาะวิวาท หรือดื่มสุราและของมึนเมาในพื้นที่

     3.5 ห้ามนำเครื่องขยายเสียงเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่

ซึ่งมาตรการดังกล่าวนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความปลอดภัยสูงสุด และยืนยันชัดเจนต่อฝ่ายกัมพูชาว่า เขตแดนไทยเป็นพื้นที่อธิปไตยที่ไม่อาจถูกล่วงละเมิดได้ 

...

ทั้งนี้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสถานการณ์ กองกำลังบูรพาได้กำหนดแนวทางดำเนินคดีในกรณีที่มีชาวกัมพูชาละเมิดต่อมาตรการดังกล่าว ดังนี้

1. กรณีบุกรุกข้ามเขตแดนเข้ามาฝั่งไทย จะถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

2. กรณีบุกรื้อลวดหนาม 

  • มีความผิดฐานทำลายทรัพย์สินราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 
  • หากมีการเอาทรัพย์ไปด้วย เช่น ขโมยลวดหนาม จะมีความผิดฐานลักทรัพย์ของทางราชการ ตามมาตรา 335 (10)
  • หากเข้าข่ายเป็นการกระทบต่อเอกราชของไทย อาจมีความผิดตามมาตรา 119 หรือเป็นผู้สนับสนุนตามมาตรา 119 ประกอบมาตรา 129 ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
  • เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 หรือเป็นผู้สนับสนุนตามมาตรา 119 ประกอบ มาตรา 129 ฐานกระทำการใดๆ ที่ทำให้เอกราชของไทยเสียไป ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือ จำคุกตลอดชีวิต

3. กรณีก่อเหตุทะเลาะวิวาทในพื้นที่ฝั่งไทย

  • หากมีการทำร้ายร่างกาย, ฆ่าหรือพยายามฆ่า จะถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา และจะต้องรับโทษตามบทบัญญัติของกฎหมายอาญาอย่างเคร่งครัด

กองกำลังบูรพาขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกท่านในการปฏิบัติตามข้อกำหนด เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัย ในพื้นที่อธิปไตยของไทย ซึ่งหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่กองกำลังบูรพา อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว.





ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ทีมโฆษกกองทัพบก