ปศุสัตว์ จ.สระแก้ว ลงพื้นที่ตรวจสอบคอกควาย - สอบสวนโรค หลังพบผู้ป่วยติดโรคแอนแทรกซ์รายแรกในจังหวัด พบประวัติก้อยดิบ เตรียมออกคำสั่งกักกันสัตว์ไว้เบื้องต้นเป็นเวลา 1 เดือน
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่พบผู้ติดเชื้อแอนแทรกซ์รายแรกในพื้นที่ จ.สระแก้ว เป็นเพศชาย อายุ 53 ปี โดยเพื่อนให้ข้อมูลว่า ผู้ป่วยได้รับจ้างตัดไม้ยูคาลิปตัส โดยมีฟาร์มวัวห่างไปประมาณ 200 เมตร เป็นการเลี้ยงแบบปล่อยในเฉพาะพื้นที่ มีเจ้าของวัวเฝ้าตลอด แต่ไม่ป่วย ซึ่งในช่วงวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา มีควายถูกยิงตาย และเจ้าของได้เนื้อมาชำแหละจำหน่าย โดยมีผู้ร่วมชำแหละ 7 คน มีการแบ่งซื้อมาทำก้อยดิบกิน ซึ่งผู้ป่วยก็ได้กินด้วย แต่คนอื่นๆ ไม่มีใครมีอาการป่วย
ต่อมา นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และ นพ.ธราพงษ์ กัปโก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมกับ ปศุสัตว์จังหวัด เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อบต.ท่าแยก และ รพ.สต.ในพื้นที่ เข้าสอบสวนโรคที่ห้องประชุม รพ.สต.บ้านคลองผักขม ม.8 ต.ท่าแยก อ.เมืองสระแก้ว พร้อมนำตัว นายวุฒิพงษ์ วงษ์ทา อายุ 38 ปี เจ้าของควายที่คาดว่าเป็นตัวที่แพร่เชื้อมาสอบสวนด้วย
โดยที่เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ จ.สระแก้ว ได้เข้าตรวจสอบคอกควายของ นายวุฒิพงษ์ วงษ์ทา พร้อมสั่งห้ามไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายควาย และสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ออกนอกพื้นที่โดยเด็ดขาด ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมออกคำสั่งกักกันสัตว์ไว้เบื้องต้นเป็นเวลา 1 เดือนก่อน แต่หลังจากนั้น ถ้าผลเพาะเชื้อไม่มีอะไร จะมีการนำวัคซีนและยามาฉีดยาให้กับสัตว์ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวทั้งหมด จึงขอความร่วมมือเจ้าของคอกควาย ให้หยุดกิจกรรมทั้งหมดไว้ก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางด่านกักสัตว์สระแก้ว จะเร่งเข้าเก็บตัวอย่างในพื้นที่พบการเกิดโรค และมีการตั้งด่านในพื้นที่ จ.สระแก้ว 3 จุดทั้งหมด เพื่อห้ามไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายสัตว์ในช่วงนี้ รวมทั้งประสานเพื่อนำรถฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเข้ามาในพื้นที่ บ้านคลองผักขม ม.8 ต.ท่าแยก อ.เมืองสระแก้ว
...
โดยจุดแรก ได้เข้าไปฉีดพ่นในพื้นที่บริเวณคอกควายตัวที่พบเชื้อ ส่วนฟางที่อยู่ในจุดที่มีการชำแหละเนื้อควาย ให้มีการนำไปเผาทิ้ง ส่วนกระดูก ทราบว่ามีการนำไปต้มเพื่อบริโภคแล้ว หลังจากนั้นได้เคลื่อนรถฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไปในจุดที่ควายตาย บริเวณป่ายูคาลิปตัส ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณบ้านและคอกควายมากนัก โดยเจ้าหน้าที่เข้าฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อให้ครบทุกจุด

นายวุฒิพงษ์ วงษ์ทา อายุ 38 ปี เจ้าของควาย กล่าวว่า คนป่วยบอกว่าก่อนป่วยได้กินเนื้อควายจากของตน ซึ่งตนได้ฆ่าควายตัวนี้เมื่อช่วงก่อนสงกรานต์ ประมาณวันที่ 9 เม.ย. ผ่านมาประมาณเดือนเศษ โดยเจ้าหน้าที่สอบสวนหาไทม์ไลน์ที่มาของควาย และช่วงเวลาที่มีการฆ่าและการนำไปขายในพื้นที่ใดบ้าง รวมทั้งให้ไปดูพื้นที่ที่ตนชำแหละว่า ต้องให้ยาหรือฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อหรือไม่ เพราะอยู่ในพื้นที่เขตเฝ้าระวัง ซึ่งควายตัวดังกล่าว ไม่มีอาการอะไร ปกติดี ซื้อมาจาก อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี สาเหตุที่ฆ่าเพราะมันรื้อลวด ออกจากลวดที่ล้อมและผยศหนีจากฝูง จึงใช้ปืนยิงตายกลางป่ายูคาลิปตัส ก่อนนำมาชำแหละขายในพื้นที่
นายวุฒิพงษ์ กล่าวอีกว่า ควายตัวนี้ หลังจากชำแหละแล้ว มีคนที่ซื้อไปกินและบริโภคไม่ถึง 50 ราย โดยเป็นคนในกลุ่มหมู่บ้านคลองผักขม และใกล้เคียง ประมาณ 20-30 กว่าคน แต่คนที่บริโภคหรือกิน แต่ละบ้านที่ซื้อไป อาจจะมีมากกว่า 1 คนต่อบ้าน โดยตนเองยินดีทำตามและให้ความร่วมมือกับทางสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดทุกอย่าง