สลดใจ หญิงวัย 57 ปี ผูกคอจบชีวิตข้างหน้าต่าง มีแมวที่เลี้ยงไว้นั่งเฝ้าศพอยู่ไม่ห่าง ด้านสามีเผย ผู้ตายป่วยโรคประจำตัวจนมีแผลที่เท้า คาดน้อยใจ-ไม่อยากเป็นภาระผู้อื่น

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ตำรวจ สภ.เมืองจันทบุรี และกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ร่วมกันเข้าตรวจสอบเหตุผู้เสียชีวิตผูกคอ บริเวณห้องแถวพื้นที่ ม.3 ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี

เมื่อเดินทางไปถึง พบเป็นห้องเช่าชั้นเดียว ตรวจสอบที่หน้าต่างด้านนอกห้อง พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง อยู่ในลักษณะนั่งพับเพียบ หลังพิงผนังห้อง สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายสก็อต นุ่งผ้าถุง โดยที่บริเวณลำคอใช้เชือกไนลอนผูกติดกับลูกกรงหน้าต่างเสียชีวิต โดยที่มีเจ้าแมวเหมียว ชื่อ เฮงเฮง คลอเคลียอยู่ข้างศพ พร้อมมองหน้า และส่งเสียงร้องเรียกเจ้าของอยู่ไม่ห่าง เหมือนลักษณะเรียกบอกว่า ตอนนี้มีคนมาหา เป็นที่น่าเวทนาใจยิ่งนัก

จากการสอบสวนของ ร.ต.ท.ภูวเดช จงใจรักษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ น.ส.วิไลวรรณ อู่เงิน อายุ 57 ปี ชาว อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบภายในห้องยังพบซองยาเบาหวาน ความดัน และซองยาอื่นๆ ที่ผู้ตายกินเพื่อรักษาตัว วางอยู่บนโต๊ะจำนวนมาก

สอบถาม นายอธิสันต์ ชัยประภาเจริญรัตน์ อายุ 60 ปี สามี น.ส.วิไลวรรณ ผู้ตาย เผยว่า ตนเองกับผู้ตายอยู่กินกันสองคนมานานแล้ว ระยะหลังช่วงที่ผู้ตายเจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัว จนมีบาดแผลที่เท้า ด้วยภาวะเบาหวานทำให้เกิดติดเชื้อรุกราม จนต้องพันแผลไว้ ต้องไปหาหมอที่ รพ. และไปล้างแผลที่อนามัยบ่อยครั้ง ทำให้เดินเหินลำบากต้องใช้วอล์คเกอร์ช่วยเดิน หรือต้องนั่งรถเข็น จนต้องมีบัตรประจำตัวผู้พิการประเภท 3 แม้ว่าผู้ตายจะไม่เคยบอกหรือมีท่าทีน้อยใจให้เห็นก็ตาม แต่ก็ดูแลกันไปตามสภาพ จนกระทั่งเมื่อเช้า ตนออกจากบ้านประมาณ 7 โมง เพื่อไปทำงานรับจ้างตามปกติ และกลับมาบ้านช่วง 11 โมงเศษ ก็พบว่า น.ส.วิไลวรรณ ผูกคอเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

...

ส่วนแมว 2 ตัว ที่เลี้ยงไว้ คือ เจ้าเฮงเฮง แมวไทยเพศเมีย สีขาว อายุประมาณ 2 ปี และเจ้าหลงหลง หรือ กาหลง สีลายน้ำตาล ที่เป็นแมวจรพลัดหลงมา ด้วยความเอ็นดู ผู้ตายจึงเลี้ยงไว้ ให้หายคิดถึงลูกที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด จึงเกิดเป็นความผูกพัน ทุกวันในช่วงกลางวันผู้ตายจะมานอนอยู่ที่เตียงหน้าห้อง ก็จะมีเจ้าเฮงเฮง และเจ้าหลงหลง มานอนคลอเคลียด้วยทุกครั้งไป

ส่วนสาเหตุที่ น.ส.วิไลวรรณ คิดสั้นครั้งนี้ ตนคาดว่า น่าจะเกิดจากความน้อยใจในความทุพพลภาพ จากภาวะเจ็บป่วยที่เป็นอยู่ จึงไม่อยากให้เป็นภาระของผู้อื่น ซึ่งตนเองและทางญาติ ไม่ได้ติดใจสาเหตุการตาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมอบศพให้ไปดำเนินการตามศาสนาต่อไป