เจ้าหน้าที่กู้ภัย งัดเปิดฝาท่อ ช่วย "2 เด็กพิเศษ" ติดอยู่ในท่อระบายน้ำเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง หลังพากันมุดเข้าไปแล้วหาทางออกไม่ได้

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 30 เม.ย. 68 ศูนย์วิทยุหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.พลูตาหลวง ได้รับแจ้งเหตุมีเด็กพิเศษ 2 ราย อยู่ในความดูแลของมูลนิธิบ้านครูบุญชู ติดคาอยู่ภายในท่อระบายน้ำนานหลายชั่วโมง บริเวณริมถนนภายในซอยพลูตาหลวง 39 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมาก กำลังมุงดูเหตุการณ์ และส่งเสียงร้องเรียกเด็กทั้ง 2 คน ทราบชื่อคือ ด.ญ.ป๊อปปี้ อายุ 7 ปี และนายฟร้อง อายุ 27 ปี เพื่อให้ทั้งคู่ยังมีสติรอการช่วยเหลือ โดยมีสภาพอยู่ในอาการอ่อนแรง และกำลังร้องไห้หวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นั่งอยู่ในท่อระบายน้ำ ใต้ฝาท่อตะแกรงเหล็ก ที่มีขนาดความกว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตร น้ำหนักหลายสิบกิโลกรัม

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องเจียเหล็ก ทำการตัดสลักที่ยึดอยู่ระหว่างแผ่นเหล็กฝาตะแกรงปิดท่อกับฐานยึดปากท่อระบายน้ำ ต้องใช้เวลานานเกือบ 30 นาที จึงสามารถใช้ชะแลงงัดเปิดฝาออกมาได้สำเร็จ ก่อนจะนำบันไดลงไปด้านล่าง เพื่อให้เด็กทั้งสองเดินไต่ขึ้นมาอย่างปลอดภัย นับเป็นความโชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้

...

ด้าน นายอนุชา เกษร พนักงานเครื่องจักรกลขนาดเบา อบต.พลูตาหลวง หลังเกิดเหตุ ได้นำไปชี้จุดทางเข้า บริเวณปากท่อระบายน้ำ ซึ่งอยู่ใกล้กับหน้ามูลนิธิบ้านครูบุญชู ห่างจุดเกิดเหตุออกไปราว 1 กิโลเมตร ซึ่งไม่มีฝาปิด เป็นท่อระบายน้ำทิ้ง ไหลลงสู่หนองน้ำธรรมชาติ เบื้องต้นจะมีการประสานไปทาง อบต. เพื่อนำตะแกรงเหล็กมาปิดฝาท่อ ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นอีก

โดยครูบุญชู ม่วงไหมทอง ผู้ก่อตั้งมูลนิธิบ้านครูบุญชูเพื่อเด็กพิเศษ เล่าว่า สาเหตุที่เด็กทั้งสองคนไปติดอยู่ในท่อระบายน้ำนั้น สืบเนื่องจากช่วงเวลา 16.00 น. ได้รับโทรศัพท์จากน้องฟร้อง โทรมาขอความช่วยเหลือว่าขณะนี้ได้ติดอยู่ภายในท่อระบายน้ำไม่สามารถออกมาได้ และกำลังจะหมดแรง จึงรีบแจ้งหน่วยงานมาให้การช่วยเหลือ

ส่วนสาเหตุ ช่วงก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ได้วิ่งเล่นกันอยู่ในมูลนิธิฯ จากนั้นน้องป๊อปปี้ได้วิ่งตรงไปที่บริเวณท่อระบายน้ำ น้องฟร้องจึงได้วิ่งติดตามไป แต่ไม่ทันที่จะห้ามปราม น้องป๊อปปี้ก็วิ่งมุดหายเข้าไปในท่อระบายน้ำแล้ว ด้วยความเป็นห่วง น้องฟร้องจึงวิ่งติดตามไป จนทั้งคู่หมดแรงลง ประกอบกับในท่อไม่มีแสงสว่าง จึงยากต่อการที่จะหาทางกลับได้ โชคดีที่น้องฟร้องมีโทรศัพท์ติดตัวไป และยังมีสติโทรกลับมาแจ้ง ทำให้ทั้งคู่ได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย