รองผู้ว่าฯ กาญจนบุรี สั่งปิดโรงงานเถื่อน ลักลอบเปิดกิจการแปรรูป "ขยะพลาสติก" เป็นน้ำมัน หลังเกิดเหตุไฟไหม้กองขยะ ส่งกลิ่นเหม็น-ควันพวยพุ่ง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเก่า รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้กองขยะขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงงานไม่มีชื่อ ในพื้นที่หมู่ 1 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยเพลิงลุกไหม้กองขยะพลาสติกขนาดใหญ่ที่อยู่ในลานด้านในโรงงาน และกำลังลุกลามไปยังกองขยะที่อยู่ข้างเคียงอีกจำนวนมาก จึงได้มีการประสานขอความร่วมมือ ไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว องค์การบริหารส่วนตำบลจรเข้เผือก และองค์การบริหารส่วนตำบลลาดหญ้า นำรถดับเพลิง รวมเกือบ 10 คัน เข้าฉีดน้ำควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างหนัก 

ต่อมาเวลา 10.20 น. วันเดียวกัน นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มอบหมายให้ นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี สั่งการให้ว่าที่ร้อยตรีธนายุทธ พินิจมนตรี ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองกาญจนบุรี ที่ 2 นายอิสระ ราศีกุล หัวหน้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี นายประสาน สงวนพันธ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเก่า ลงพื้นที่ตรวจสอบ

...

เนื่องจากกองขยะพลาสติกดังกล่าว ไฟกำลังไหม้ลุกลาม และก่อให้เกิดกลุ่มควันสีดำขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ามองเห็นแต่ไกล จึงได้เร่งระดมรถดับเพลิงฉีดน้ำเข้าควบคุมเพลิงอย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากกองขยะพลาสติกดังกล่าว มีขยะพลาสติกคละผสมกันอยู่เป็นจำนวนมาก และยังติดไฟได้ง่าย การควบคุมเพลิงจึงต้องใช้ระยะเวลานาน รวมถึงได้มีการประสานนำรถแบคโฮ เข้ามาตักเกลี่ยกองขยะพลาสติกดังกล่าวออกเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมเพลิง แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ทั้งหมด

ขณะเดียวกัน ที่ด้านหน้าโรงงานดังกล่าว มีกลุ่มชาวบ้านซึ่งอยู่ใกล้เคียงโรงงานเดินทางมารวมตัวกันหลายสิบคน พร้อมให้ข้อมูล กับรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีว่า โรงงานดังกล่าวได้ลักลอบประกอบกิจการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมัน มาเป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว ซึ่งการลักลอบประกอบกิจการดังกล่าวสร้างมลพิษ ให้กับชาวบ้านที่อยู่รอบโรงงานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 1 ที่มีมากกว่า 40 ครัวเรือนรอบๆ โรงงานดังกล่าว

เนื่องจากในระหว่างที่ทางโรงงานมีการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันนั้น จะเกิดกลุ่มควัน ลอยออกมาด้านนอกและมีกลิ่นเหม็นไหม้อย่างรุนแรง ทำให้ชาวบ้านแสบตา หายใจไม่สะดวก เด็กๆถึงกับมีเลือดกำเดาไหลออกจากจมูก ผู้ใหญ่บางคนเจ็บคอ อย่างหนัก จนถึงขั้นเสียงหาย แม้ชาวบ้านจะร้องเรียนไปยังหน่วยงานในท้องที่ ทางโรงงานก็จะหยุดกิจการไปเพียงชั่วคราว ก่อนจะลักลอบประกอบกิจการขึ้นอีกครั้ง กระทั่งมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในวันนี้ ชาวบ้านจึงอยากวอนขอไปยังรัฐบาล ให้ช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ที่ประสบความเดือดร้อนจากการลักลอบเปิดกิจการของโรงงานดังกล่าวให้ด้วย

ทางด้าน นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ในช่วงเช้า ได้รับการรายงานว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้กองขยะในพื้นที่ตำบลบ้านเก่า จึงได้รีบเดินทางมาตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาญจนบุรี จากการตรวจสอบพบว่าโรงงานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้นี้ แต่เดิมเป็นโรงงานประกอบกิจการตัดหินอ่อน ซึ่งได้เลิกกิจการไปแล้ว ก่อนจะมีคนมาซื้อกิจการ และได้ลักลอบประกอบกิจการแปรรูปขยะพลาสติกให้เป็นน้ำมัน โดยไม่ได้ขออนุญาตจากหน่วยงานราชการให้เรียบร้อย

จากการเข้าไปตรวจสอบพบว่า บริเวณกองขยะพลาสติกที่เกิดเพลิงไหม้นั้น มีขยะพลาสติก กองทับถมกันอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้การดับไฟทำได้ยาก ต้องประสานรถแบคโฮเข้ามาช่วยเกลี่ยกองขยะออก เพื่อสามารถควบคุมเพลิงได้ง่ายขึ้น คาดว่าจะสามารถควบคุมเพลิงทั้งหมดได้

...

ในส่วนของการลักลอบประกอบกิจการแปรรูปขยะพลาสติก เป็นน้ำมันของทางโรงงานแห่งนี้นั้น เบื้องต้น ได้ให้ทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี ออกคำสั่งปิดโรงงานดังกล่าวทันที เพื่อไม่ให้ประกอบกิจการที่สร้างมลพิษต่อชุมชนโดยรอบอีกต่อไป ส่วนในอนาคตหากมีการขออนุญาตจะได้รับการอนุญาตให้ประกอบกิจการหรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ในส่วนของโรงงานดังกล่าว มีเนื้อที่ประมาณ 99 ไร่เศษ และมีการลักลอบนำเอาขยะพลาสติกจำนวนมาก เข้ามากองทับถมกันไว้อยู่เกือบเต็มพื้นที่ ซึ่งหากในวันนี้ ไม่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ในวงจำกัดได้ทันอาจจะก่อให้เกิดเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ สร้างปัญหาฝุ่น PM 2.5 ให้กับจังหวัดกาญจนบุรีมากกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน