ชลบุรี ตำรวจ-ทหาร ติดอาวุธครบมือ ล้อมจับ "ครอบครัว" ไม่ปฏิบัติตามหมายบังคับคดี รุกที่ชาวบ้าน ปลูกเพิงพัก อ้างครอบครองปรปักษ์ หลังผู้ต้องหาพยามขี่ม้าหนี

เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 3 ก.พ. 68 พ.ต.อ.ธนพล กลิ่นเกสร ผกก.สภ.สัตหีบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ เรือนนวมดี รอง.ผกก.สัตหีบ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้เดินทางไปบริเวณเพิงพัก ไม่ทราบเลขที่ใน ม.8 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

หลังสืบทราบว่า นายเอ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี นางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 41 ปี และ นางสาวซี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ไม่ปฏิบัติตามหมายบังคับคดีของศาลจังหวัดพัทยา จึงนำกำลังเข้าไปแสดงตนก่อนจะเข้าจับกุม แต่ทั้งหมดไม่ยินยอม โดยยืนอยู่ภายในรั้วไม้ในเพิงพัก ก่อนจะด่าทอเจ้าหน้าที่

โดยก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมไปแล้ว ตามหมายจับ ซึ่งขณะนั้นเคยได้นำเลื่อยยนต์มาไล่ฟันเจ้าหน้าที่ ก่อนจะประกันตัวออกมา และยังฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามหมายบังคับคดีของศาลจังหวัดพัทยาอีก เข้าไปอาศัยในที่ดินของคนอื่น โดยอ้างครอบครองปรปักษ์

ซึ่งมีการเจรจานานเป็นชั่วโมง เนื่องจากเกรงว่าทั้ง 3 คน จะมีอาวุธที่เป็นอันตราย หากเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุม ประกอบกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีไม่เพียงพอ จึงขอกำลังไปยังฐานทัพเรือสัตหีบ โดยมี นาวาโทโสภณ โกวิทอิสริยะ ผู้บังคับกองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 ได้นำกำลังกว่า 15 นาย พร้อมอาวุธปืน โล่กระบอง เข้าปิดล้อม

...

แต่ขณะนั้น นายเอ ได้ขี่ม้าที่เลี้ยงไว้หลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งปิดล้อมกัน จนมีการเจรจาอีกครั้ง และยอมให้จับโดยดี ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งทำบันทึกจับกุม นำตัวฝากขัง ศาลจังหวัดพัทยาทันที

โดย นายเอ อายุ 42 ปี และ นางสาวบี อายุ 41 ปี แฟนสาว โดยมีนางสาวซี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นลูกติด ได้เข้ามาอ้างสิทธิครอบครองปรปักษ์ในที่ดินแห่งนี้ ก่อนจะปลูกเพิงพัก พร้อมห้องสุขาทำแปลงผักสวนครัว และสร้างคอกม้า โดยมีม้าเลี้ยงทั้งหมด 3 ตัว จนเจ้าที่ดินมาดูที่พบ จึงได้แจ้งความขับไล่ แต่ทั้ง 3 คนไม่ยอมออกจากที่ดิน จนศาลเคยอนุมัติหมายจับไปแล้ว แต่ทั้งหมดก็ได้ประกันตัวออกมา และกลับมายังที่ดินแห่งนี้อีก โดยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนมีหมายศาลจากจังหวัดพัทยา ในข้อหาไม่ปฏิบัติตามหมายบังคับคดี เป็นที่มาของการจับกุมในครั้งนี้.