พบศพเศรษฐินี และลูกสาว เสียชีวิตอยู่ด้วยกันในบ้านพักตากอากาศริมหาดนาเกลือ บางละมุง มีกระปุกยาที่ออกฤทธิ์คล้ายไซยาไนด์ ถูกใช้ไปแล้วบางส่วน โดยแม่ป่วยเป็นมะเร็ง ลูกสาวป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง ตำรวจส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชฯ


เวลา 12.00 น. วันที่ 19 ก.ค. 67 พ.ต.ท.ญัฐติพงษ์ เจียมพวก สว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย ภายในบ้านหลังหนึ่งใน ซ.พัฒนาการ 2 ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และพร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก. ตำรวจฝ่ายสืบสวน ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รีบรุดไปทำการตรวจสอบ


ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะบ้านพักตากอากาศหรู มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางวา บริเวณโรงจอดรถหน้าบ้าน มีรถเบนซ์ สีบรอนซ์-เทา จอดอยู่ 1 คัน ภายในห้องนอน พบศพ นางรัตนาพรรณ อายุ 68 ปี และ น.ส.ปรางนลิน อายุ 36 ปี ซึ่งทั้งคู่เป็นแม่ลูกกัน เป็นภรรยาและลูกสาวของเจ้าของธุรกิจเคมีภัณฑ์อุตสาหกรรมกระดาษทรายและวัสดุก่อสร้าง นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน โดยร่างของผู้เป็นแม่ นอนอยู่ฝั่งด้านซ้าย ส่วนศพลูกสาวนอนอยู่ทางฝั่งด้านขวา ทั้งคู่มีผ้าห่มคลุมร่าง สวมใส่ชุดดำ สภาพศพมีริมฝีปากคล้ำ หน้าเขียว ปลายเล็บดำ เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง 


จากการตรวจสอบ ภายในบ้านและภายในห้องนอน ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือค้นทรัพย์สิน แต่พบจดหมาย 2 ฉบับ โดยฉบับแรก เขียนขึ้นโดย นางรัตนาพรรณ ส่วนฉบับที่ 2 ถูกเขียนขึ้นโดย นางสาวปรางนลิน วางอยู่ในห้องโถง นอกจากนี้ ใกล้กับศพผู้ตายพบแก้วน้ำ 2 ใบ รวมถึงกระปุกยาโซเดียมไนไตรท์ 1 กระปุก ถูกใช้ไปแล้วเกือบครึ่งกระปุก ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

...


ส่วนจดหมายที่พบอยู่ในที่เกิดเหตุ 2 ฉบับ ฉบับแรก ถูกเขียนด้วยลายมือเต็มหน้ากระดาษ เอ 4 จับใจความได้ว่า "ดิฉันป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย และลุกลามไปทั่วร่างกาย ต้องอยู่แบบทุกข์ทรมาน และสงสารลูกที่ต้องคอยมาดูแล และการกระทำในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างลูกสาว โดยไม่มีใครบังคับขู่เข็ญ ลงชื่อ นางรัตนาพรรณ.." 

ส่วนฉบับที่ 2 เป็นของลูกสาวระบุข้อความว่า "เมื่อแม่ตัดสินใจว่าจะไป ปรางจึงตัดสินใจว่าจะไปด้วย..ลงชื่อ ปราง (ปรางนลิน)" ซึ่งทราบว่าลูกสาวป่วยเป็นโรคพุ่มพวง หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง

จากการสอบสวน นายเพ็ชร อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นพ่อและสามีของผู้ตายทั้ง 2 ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไม่สามารถติดต่อภรรยากับลูกสาวได้ตั้งแต่ในช่วงเมื่อวาน (18 ก.ค.) เพราะทั้งคู่ได้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาพักรักษาตัวที่บ้านหลังนี้ แต่ภายหลังติดต่อไม่ได้จึงขับรถจากกรุงเทพฯ เพื่อมาดูลูกกับภรรยา เมื่อเปิดประตูเข้าไปในบ้านก็ถึงกับช็อก เมื่อพบศพทั้งคู่นอนเสียชีวิตอยู่คู่กันบนเตียงนอน พร้อมกับจดหมาย จึงรีบขับรถไปแจ้งตำรวจที่โรงพัก สภ.หนองปรือ 

ชาวบ้านในละแวกจุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เห็นสองแม่ลูกมาพักได้ประมาณ 4-5 วัน ตอนที่เห็นทั้งคู่ก็มีอาการปกติ ไม่มีอะไรน่าสงสัย แต่ที่น่าแปลกใจพบว่า 2 แม่ลูก จะสวมใส่ชุดดำตลอดเวลา จนกระทั่งไม่เห็นสองแม่ลูกมาประมาณ 2 วัน พอมาทราบข่าวว่าเสียชีวิตแล้วทั้งคู่ ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก


พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติของผู้ตายพบว่า เป็นภรรยาและลูกสาว ของเจ้าของธุรกิจ เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรมกระดาษทรายและวัสดุก่อสร้าง ส่วนลูกสาวมีดีกรีเป็นนักเรียนนอก เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการกระทำด้วยตัวเอง ไม่มีผู้อื่นทำให้ตาย อย่างไรก็ตามตำรวจจะส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสรุปสาเหตุของการเสียชีวิตต่อไป


สำหรับ ยาโซเดียมไนไตรท์ ถือเป็นยาออกฤทธิ์และมีผลข้างเคียงคล้ายกับ ไซยาไนด์ โดยจะทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ เกิดสภาวะความดันต่ำ และอาจทำให้เลือดไม่ไปเลี้ยงสมอง จนเกิดสภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน