ผู้ว่าฯ ชลบุรีตอบข้อสงสัย กรณี "เดอะนัชชา" วอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ เปิดบริการ ทั้งที่เกิดเพลิงไหม้และมีคำสั่งเมืองพัทยาสั่งปิดเพราะอาคารไม่ปลอดภัย เผยอยู่ระหว่างยื่นศาลขอคุ้มครองชั่วคราว และทางร้านขอความเห็นใจชี้ถ้าที่นี่ผิดที่อื่นก็ผิด ปิดก็ต้องปิดหมด เพราะอยู่นอกโซน 101 ถาม "ถ้าผมทำ ร้อยกว่าร้านเมืองพัทยาจะเกิดผลกระทบขนาดไหน"

ที่ว่าการอำเภอบางละมุง ชลบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มาแถลงข่าวกรณี สถานบริการ เดอะนัชชา คลับ ร้านอาหาร และผับ ถนนวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ เกิดเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2564 จนทำให้ทรัพย์สินภายในร้านถูกไฟเผาวอดเสียหายรวมกว่า 50 ล้านบาท หลังเกิดเหตุ นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา (ในขณะนั้น) ได้นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพอาคารพร้อมสั่งให้ทำการปิดกั้นพื้นที่โดยรอบของอาคารสูง 3 ชั้น กินเนื้อที่รวม 7 คูหา ก่อนลงนามคำสั่งห้ามใช้อาคารเนื่องจากเพลิงได้เผาไหม้จนเสียหายอย่างหนัก ซึ่งทางเจ้าของร้านได้ปรับปรุงและก่อสร้างใหม่ เพื่อกลับมาเปิดบริการใหม่หลังเกิดเพลิงไหม้ แม้มีคำสั่งนายกเมืองพัทยาในสมัยนั้นสั่งระงับการก่อสร้างไปแล้ว

ต่อมา ทางร้านได้เปิดบริการได้โดยไม่มีการอนุญาต และอาคารไม่ปลอดภัย ทำให้ถูกร้องเรียนอย่างหนักซึ่งเรื่องนี้ ผวจ.ชลบุรี กล่าวว่า “สื่อมวลชนทุกท่านครับคือปัญหาผับร้านนัชชาซึ่งมีประเด็น มีผู้ร้องเรียนมามากว่าเปิดโดยอาคารน่าจะไม่ปลอดภัย อีกทั้งหลายๆ ประเด็นแล้วก็มาหารือกันโดยมีทั้งนักกฎหมาย ท่านอัยการจังหวัด อีกทั้งผู้ออกใบอนุญาตควบคุมอาคารการก่อสร้าง และนายกเมืองพัทยาแล้วก็รองผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งดูแลเรื่องใบอนุญาตเข้ามาคุยกันว่าสรุปว่าร้านนี้มันเปิดถูกต้องไหม ผมนำเรียนว่าต้องแยกกัน 2 กรณีที่ 1 คือร้านมีใบอนุญาตหรือไม่ 2 เรื่องอาคารโดยเฉพาะในเรื่องใบอนุญาตเขาอยู่ในกระบวนการยื่นคำร้องในการต่อใบอนุญาต ซึ่งตรงนี้อยู่ในกระบวนการอยู่แต่เรายังไม่ได้พิจารณาอนุญาตเพราะต้องประกอบกับเรื่องอาคารด้วย เนื่องจากอาคารถูกไฟไหม้ซึ่งเขาก็มีการไปตรวจพิสูจน์หลักฐานกันทั่วไปว่าไหม้ขนาดไหนโดยเมืองพัทยา แล้วต่อมาเมืองพัทยาก็ให้ระงับการใช้อาคารแล้วก็รื้อถอน ซึ่งปัจจุบันเขาก็ร้องศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราวในการรื้อถอนแล้วก็เปิดดำเนินการอยู่ ซึ่งทางเราก็มองว่าอาคารมันจะปลอดภัยไหม เปิดมามันจะเป็นอันตรายไหมซึ่งก็ได้หารือกันแล้วได้สอบถามเจ้าของร้านแล้ว ผู้เกี่ยวข้องด้วยในเรื่องอาคาร อย่างที่เรียนไปว่าในเรื่องการออกใบอนุญาตจริงๆ แล้วใบอนุญาตมันเพียงแต่พูดว่ามีอาคารที่มั่นคงแข็งแรง ไม่ได้พูดถึงการตรวจสอบอะไรเลย ดังนั้น บางพื้นที่ก็แค่ส่งแบบแปลนมาดูว่ามันแข็งแรง 

...

แต่พัทยามีเรื่องพ.ร.บ.ควบคุมอาคารซึ่งนายกเมืองพัทยาดูแลอยู่ บางท่านก็มองว่าไฟไหม้แล้วก็ต้องใช้ไม่ได้ จริงๆ แล้วสร้างอะไรไม่ได้เลยสร้างมาก็ขออนุญาตไม่ได้ แต่เขาก็ไปร้องขอความคุ้มครองอยู่ข้อสรุปก็คือในวันนี้เรามีโจทย์ว่า 1 ใบอนุญาตออกให้ได้ไหมจริงๆ ใบอนุญาตสามารถออกได้แต่คุณมีเรื่องอาคารที่ไม่พร้อม ใบอนุญาตมาก็ทำอะไรไม่ได้แต่ต้องแยกนะ ใบอนุญาตออกได้นะครับเพราะฉะนั้นต้องสู้กันว่าอาคารเขามั่นคงแข็งแรงหรือไม่หรือสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งเขาเคยนำเรื่องการทดสอบอาคารยื่นมา แต่มันเป็นประเภทวิศวกรที่รับรองเป็นประเภทยังไม่ใช่ผู้ทรงคุณวุฒิทั่วไปที่จะไปให้สภาวิชาชีพเรื่องอาคารเข้ามาตรวจสอบเพื่อเขาจะได้ไปประกอบในการส่งที่ศาลปกครองให้ไม่มีการรื้อถอนชั่วคราว

ส่วนในเรื่องปัจจุบันการจะเปิดได้หรือไม่เรามีคำสั่งห้ามใช้อาคารถ้าเขาเปิดก็มีความผิด ต้องมีโทษปรับ และจำคุก ข้อสรุปก็คือในเรื่องของการเปิดได้ไม่ได้ซึ่งแน่นอนว่ามันเปิดไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าเปิดก็มีความผิดส่วนเรื่องอาคารให้วิศวกรมาพิสูจน์อีกครั้งเพื่อให้เขาได้ต่อสู้ ส่วนศาลปกครองก็จะดูว่าถ้าทำผิดซ้ำๆ ซากๆ ศาลจะลงโทษอย่างไร คืออาคารมันใช้ไม่ได้ถ้าเปิดแล้วมีผู้ตรวจการไปตรวจพบก็จับดำเนินคดีจนกว่าจะเอาเอกสารเรื่องของความมั่นคงแข็งแรงของอาคารมาแสดง"

ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ยังกล่าวอีกว่า เขาก็ลงทุนไปเยอะ ขอความเห็นใจ อ้างว่าถ้าที่นี่เปิดไม่ได้ที่อื่นก็เปิดไม่ได้ทั้งหมด อันนี้ก็ต้องเห็นใจ เพราะสรุปสุดท้ายทั้งโซนนั้นมันไม่สามารถเปิดได้ ซึ่งท้ายที่สุดก็ต้องตรวจสอบเพราะเราเคยขึ้นบัญชีไว้ว่ามีกี่ร้านซึ่งเป็นร้อยร้าน จริงๆ แล้วมันเป็นโซนที่เขาห้ามเพราะเป็นโซนติดน้ำเพราะฉะนั้นก็ต้องมาคุยกันอีกทีอาจจะต้องเรียกผู้ประกอบการทั้งหมดมาคุยว่าจะเอายังไง ถ้าเราไม่ดำเนินการเราก็จะละเว้น แต่เราก็พยายามแก้กันมาหลายปีแล้วเราก็ยังผ่อนผันกันมาอันนี้ก็ต้องเข้าใจแต่ที่พูดไม่ได้ว่าจะผ่อนผัน 

"ถ้าผมทำ (ดำเนินคดี) ร้อยกว่าร้าน คิดดูเอาเมืองพัทยาจะเดือดร้อนขนาดไหนซึ่งเราก็ต้องถามตรงๆ ว่าเราจะอยู่กันแบบไหน แบบทำมาหากินโดยดูความเป็นจริงความมั่นคงแข็งแรงของอาคารและเรื่องเด็กเรื่องเยาวชนหรือยาเสพติดมันจะดีกว่าที่เราจะมาจับผิดกันว่าร้านไหนไม่ปฏิบัติตามเพราะบางครั้งกฎหมายก็คือกฎหมาย ตี 2 ก็คือต้องตี 2 เราไปเจอตอนตี 3-4 เราก็ต้องจับ ร้านเราไม่ให้นำยาเสพติดเข้า เราเจอเราก็ต้องจับ ซึ่งเราก็ทำมาโดยตลอด” ผวจ.ชลบุรี กล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังการแถลงข่าว ได้มีคำถามตามมาว่า เรื่องนี้ "กฎหมายเลือกปฏิบัติหรือไม่" เนื่องจากหลายร้านหลายแห่งที่ถูกจับและถูกระงับไปก็ยังไม่สามารถเปิดดำเนินการได้