นายอำเภอบางละมุง ตรวจตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา พบเสียหายประมาณ 20% จากเหตุเพลิงไหม้ใหญ่เมื่อคืนวันที่ 7 ก.ย. คิดเป็นมูลค่า 50-60 ล้านบาท เผยเคยได้รับการโหวตเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของชาวจีน ในอดีตเคยมีเหตุเพลิงไหม้มาแล้ว แต่ไม่รุนแรงเท่าครั้งนี้
วันที่ 8 ก.ย. 66 จากเหตุการณ์ไฟไหม้อย่างรุนแรง ภายในสถานที่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชื่อดังระดับแนวหน้าของประเทศไทย “ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา” ถนนสุขุมวิท ขาเข้า อ.สัตหีบ หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ช่วงคืนที่ผ่านมา
ต่อมาเวลา 10.30 น. วันที่ 8 ก.ย. 66 นายพิสิษฐ สิริสวัสดินุกูล นายอำเภอบางละมุง พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ได้ลงพื้นที่สำรวจอีกครั้งหลังไฟดับช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยพบว่าเพลิงลุกไหม้ได้เผาพื้นที่ของโซนภาคเหนือของตลาด มีร้านค้าเสียหายกว่า 70 ราย กินพื้นที่ไปกว่า 1 ไร่ หรือประมาณ 10-20% ของพื้นที่โดยรวม โดยทางผู้ประกอบการได้เปิดรับลงทะเบียนผู้เดือดร้อนในส่วนของผู้เสียหาย เพื่อหาทางช่วยเหลือหรือจัดสรรพื้นที่ขายให้ใหม่
...
ส่วนสาเหตุ ต้องรอผลการตรวจสอบ จากกองพิสูจน์หลักฐานของตำรวจภูธรภาค 2 เข้ามาตรวจหารายละเอียด รวมทั้งสอบปากคำผู้เสียหาย พร้อมกับประกันภัยที่จะลงมาดูพื้นที่ด้วย ส่วนกรณีที่เกิดภัยพิบัติครั้งนี้จะได้รับความช่วยเหลือจากทางการหรือไม่ เพราะพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ของเอกชนนั้น เรื่องนี้คงต้องกลับไปดูข้อกฎหมายอีกครั้ง
"ความเสียหายเบื้องต้นจากการประเมินร่วมกับผู้ประกอบการคาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 50-60 ล้านบาท ส่วนตลาดจะสามารถมาเปิดให้บริการได้หรือไม่ หรือเร็วแค่ไหนนั้น ทราบว่าจะมีการย้ายในส่วนของร้านค้าที่เสียหายไปอยู่ในพื้นที่โซนอื่นเป็นการชั่วคราว รอการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน เขต 2 จ.ชลบุรี และประกันภัย เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริง"
ในส่วนของเจ้าของ ยังไม่มีการออกมาเปิดเผยข้อมูลใดๆ แต่มีการวางแผนบริหารจัดการ และช่วยเหลือกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ไฟไหม้โดยมีตัวแทนกลุ่มบริษัทประกันภัยต่างๆ มาตั้งโต๊ะรับลงทะเบียน อยู่บริเวณด้านหน้าสำนักงาน ซึ่งทางตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยาได้ทำประกันอัคคีภัยไว้ แต่ยังไม่มีการยืนยันตัวเลขวงเงินเบี้ยประกันภัยที่แน่ชัด
สำหรับ ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา เป็นแหล่งท่องเที่ยวของเอกชน ในเขตการท่องเที่ยวเมืองพัทยา มีเนื้อทั้งหมด 19 ไร่ ริมถนนสุขุมวิท (สายบางนา-ตราด) โดยมี นายมนัส มีพงษ์ เป็นเจ้าของกิจการ สร้างเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางศิลปวัฒนธรรมไทย โดยมีการจำลองวิถีชีวิตคนริมน้ำ ทั้ง 4 ภาค ของประเทศไทย ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2551 และถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน เคยร่วมกันโหวตว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอันดับ 1 อีกทั้งเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อหลายปีก่อน แต่ครั้งนั้นไม่รุนแรงและสามารถควบคุมเพลิงได้ จนมาเกิดเหตุไฟไหม้รุนแรงในครั้งนี้