"ผบ.ทร." เป็นประธานรับมอบ "เรือหลวงตาชัย" เข้าประจำการทดแทน บรรจุ ณ กองเรือยกพลขึ้นบก เป็นเรือลากจูงขนาดกลาง สนับสนุนเรือขนาดใหญ่ และเรือดำน้ำ ซึ่งต่อเรือภายในประเทศ มีขีดความสามารถขจัดคราบน้ำมันในทะเล ดับเพลิงไหม้ในเรือ และบรรเทาสาธารณภัย
เมื่อเวลา 14.29 น. วันที่ 21 ส.ค. 66 พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีรับมอบเรือหลวงตาชัย ณ ท่าเรือแหลมเทียน การท่าเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ, พล.ร.ต.อาภา ชพานนท์ ผู้บัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบก และยุทธบริการ กองเรือยุทธการ, นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมให้การต้อนรับ
ตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือ พ.ศ.2558-2567 โครงสร้างกำลังรบได้กำหนดให้มีเรือลากจูงสำหรับใช้ปฏิบัติราชการในพื้นที่ต่างๆ จำนวน 8 ลำ ซึ่งในปัจจุบันกองทัพเรือมีเรือลากจูงปฏิบัติราชการแล้วจำนวน 6 ลำ และมีแผนปลดระวางประจำการ 1 ลำ ทำให้เหลือเรือลากจูงใช้ในราชการเพียง 5 ลำ กองทัพเรือ จึงมีความจำเป็นในการจัดหาเรือลากจูงขนาดกลางเพื่อมาทดแทน ซึ่งการต่อเรือหลวงตาชัย เรือลากจูงขนาดกลางลำนี้ จะทำให้มีเรือลากจูงที่เพียงพอต่อการสนับสนุนเรือขนาดใหญ่ และเรือดำน้ำที่กองทัพเรือจะได้รับมอบมาใช้ปฏิบัติราชการในปี 2567 ทั้งนี้ เรือหลวงตาชัยจะเข้าประจำการที่กองเรือยกพลขึ้นบก และยุทธบริการ กองเรือยุทธการ
...
นอกจากนี้การต่อเรือหลวงตาชัย กองทัพเรือได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยใช้วิธีคัดเลือกจากบริษัทอู่ต่อเรือภายในประเทศ คือ บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเรือภายในประเทศให้มีความเข้มแข็งทั้งด้านองค์บุคคล องค์ความรู้ และช่วยลดการพึ่งพาจากต่างประเทศ อันจะนำไปสู่การพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
คุณลักษณะที่สำคัญของ เรือหลวงตาชัย คือ สามารถเข้าดึงและดันเรือขนาดใหญ่ของกองทัพเรือ และรวมไปถึงเรือดำน้ำของกองทัพเรือได้อย่างคล่องตัวปลอดภัย และสามารถเคลื่อนที่ไปทางข้างได้ โดยมีขีดความสามารถทางการลากจูง และเรือมีกำลังดึงไม่น้อยกว่า 55 เมตริกตัน โดยเรือหลวงตาชัยเป็นไปตามแบบเรือ Ramparts 3200 SD มีความยาวตลอดลำ 31.50 เมตร ความกว้าง 12.60 เมตร กินน้ำลึกสูงสุด 4.50 เมตร สามารถออกปฏิบัติการในระยะปฏิบัติการได้ไม่น้อยกว่า 2,500 ไมล์ทะเล ด้วยความเร็ว 8 นอต ที่ระวางขับน้ำเต็มที่และสามารถทำความเร็วสูงสุดต่อเนื่องที่ระวางขับน้ำเต็มที่ไม่น้อยกว่า 12.1 น็อต มีการจัดแบ่งห้องพักอาศัยของกำลังพลจำนวน 20 นาย มีสถานที่จัดเก็บเสบียงอาหาร และระบบน้ำจืดเพียงพอต่อการปฏิบัติงานในทะเลได้ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 3 วัน โดยไม่ต้องรับการส่งกำลังบำรุง
สามารถปฏิบัติงานในท่าเรือ และชายฝั่งได้ทั้งกลางวันและกลางคืน มีความคงทนทะเลได้ถึงสภาวะทะเลระดับ 3 (Sea State 3) สามารถสนับสนุนภารกิจอื่นๆ ด้วยความสามารถที่มีอยู่ได้ หากมีความจำเป็น เช่น การลากเป้าในการฝึกยิงอาวุธ ขจัดคราบน้ำมันในทะเลบริเวณท่าเรือได้ และดับเพลิงไหม้ในเรือ ทั้งในเขตฐานทัพ ท่าเรือต่างๆ ของกองทัพเรือ ตลอดชายฝั่งได้ รวมทั้งสามารถบังคับเรือให้ไปทางข้างได้ ทั้งซ้ายและขวา ใช้ส่วนหัวเรือทั้งดึงและดันได้โดยไม่ต้องกลับลำเรือ และเน้นการใช้งานสำหรับการดันเรือเป็นหลัก.
...
...