สะเทือนใจคนรักสัตว์ "พลายตุลา" ลูกช้างป่าเพศผู้พลัดหลงโขลง วัย 10 เดือนเศษ ป่วยโรคติดเชื้อเฮอร์ปีส์ไวรัสในช้างมานานข้ามปี ล่าสุดสิ้นลมแล้วอย่างสงบ กลับสู่ดาวช้าง ขณะที่ "พังมีนา" ลูกช้างป่าวัยใกล้เคียงกัน อาการล่าสุดแข็งแรงขึ้นมาก แต่ยังคงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ที่จะพากลับคืนสู่ธรรมชาติ
จากกรณีที่ "พลายตุลา" ลูกช้างป่าเพศผู้ พลัดหลงโขลงเดินมาหาทหารพรานนาวิกโยธิน บริเวณฐานปฏิบัติการทุ่งกร่าง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 65 ขณะนั้นมีอายุราว 1-2 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ตั้งชื่อให้ว่า "เจ้าตุลา" ตามเดือนที่พบเจอ สภาพตอนนั้นลูกช้างมีอาการอ่อนแอ สัตวแพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และให้กินน้ำนมช้างจากแม่ช้าง 4 เชือก ที่เพิ่งตกลูกจากสวนนงนุช พัทยา จากการตรวจสุขภาพลูกช้างพบว่า ป่วยเป็นโรคติดเชื้อเฮอร์ปีส์ไวรัสในช้าง (EEHV) ทีมสัตวแพทย์ได้ให้ยาต้านไวรัสแบบกิน เพื่อรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรก จนทำให้พลายตุลาเริ่มมีสุขภาพแข็งแรง และเป็นช้างอารมณ์ดีขึ้น ขี้เล่น กลายเป็นขวัญใจคนรักสัตว์ ต่อมาเมื่อเย็นวันที่ 13 ส.ค. 66 พลายตุลาได้ล้มลงระหว่างส่งมารักษาตัวที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา สร้างความเศร้าสะเทือนใจให้บรรดาแฟนคลับของช้างน้อยแสนรู้ตัวนี้จำนวนมาก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 66 ที่ห้องทำการคลินิก ณ ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) นายเผด็จ ลายทอง ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สบอ.2 (ศรีราชา) พร้อม สพ.ญ.มัชฌมณ แก้วพฤหัสชัย หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ร่วมกันแถลงข่าวสาเหตุการสิ้นใจของ "พลายตุลา" ลูกช้างป่าเพศผู้ วัยเพียง 10 เดือนเศษ ล้มลงจากไปอย่างสงบ เมื่อช่วงใกล้ค่ำคืนวันที่ 13 ส.ค. เวลา 18.13 น.
...
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ยังมี "พังมีนา" ลูกช้างป่าเพศเมียกำพร้าแม่อีก 1 ตัว อยู่ในวัยไล่เลี่ยกับพลายตุลา นายเผด็จ ลายทอง พร้อมด้วย สพ.ญ.มัชฌมณ เปิดเผยว่า พังมีนามีความแข็งแรงขึ้นมาก แต่ยังคงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ที่จะพากลับคืนสู่ธรรมชาติ จากที่เคยมีความพยายามจะนำเข้าโขลงช้างมาแล้ว แต่เชื่อมั่นว่าไม่ยากเพราะแตกต่างกับพลายตุลาที่ป่วยด้วยโรคไวรัสเฮอร์ปีส์ ทำให้โขลงช้างป่าไม่ยอมรับร่วมโขลง ถึงแม้ปกติแล้วแม่ช้างจะรักและหวงแหนลูกช้างมากก็ตาม เพราะจะเป็นภาระในการดำรงชีวิตตามวิถีของสัตว์ป่า