ส่อแล้งหนัก "อธิบดีกรมชลฯ" ไม่ประมาท เร่งใช้โครงข่ายน้ำตะวันออกสูบกลับ หวังเติมน้ำเต็มอ่างประแสร์ เพื่อรักษาเศรษฐกิจประเทศ
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 66 นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำในภาคตะวันออก โดยประชุมหน่วยงานชลประทานในพื้นที่ภาคตะวันออกทั้งหมดที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาประแสร์ จ.ระยอง เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำและวางแผนป้องกันบรรเทาสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงและการคาดแคลนน้ำ อันเนื่องมาจากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาที่คาดการณ์ว่าอาจเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงระหว่างเดือน พ.ค.-ก.ค.66 และจากปรากฏการณ์เอลนีโญส่งผลให้มีฝนน้อยกว่าค่าปกติ

ทั้งนี้ได้กำชับให้ใช้โครงข่ายน้ำในภาคตะวันออกให้เต็มประสิทธิภาพเพื่อป้องกันปัญหาภัยแล้ง โดยได้ย้ำว่าจะต้องไม่ให้กระทบต่อน้ำอุปโภค บริโภคและเศรษฐกิจในพื้นที่ทั้งภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม และในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมทั้งให้เตรียมแผนสำรอง เช่น เครื่องสูบน้ำ หรือรถบรรทุกน้ำสำหรับช่วยเหลือประชาชน และให้ทุกพื้นที่ตรวจสอบการทำงานของอาคารชลประทาน เครื่องมือ เครื่องจักรให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา
...

"ได้ย้ำว่าการผันน้ำให้เป็นไปตามแผนที่เตรียมไว้ เมื่อระดับน้ำสามารถสูบได้ตามข้อตกลงกับกลุ่มผู้ใช้น้ำให้ผันน้ำทันที เพื่อสำรองน้ำรองรับสถานการณ์ให้มากที่สุด อย่าประมาทกับสถานการณ์ ซึ่งวันนี้มีรายงานว่าระดับน้ำที่คลองสะพานเพิ่มมาก โดยบวกถึง 18.20 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง(ม.รทก.) ทางสำนักชลประทานที่ 9 จึงเริ่มสูบน้ำจากคลองสะพานเติมอ่างเก็บน้ำประแสร์ได้ถึง 470,000 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อวัน จากปัจจุบันอ่างประแสร์มีน้ำอยู่ 196 ล้าน ลบ.ม.ร้อยละ 67 ของความจุอ่าง 295 ล้านลบ.ม. เมื่อน้ำต้นทุนอ่างประแสร์เพิ่ม จะสามารถเป็นศูนย์กลางในการกระจายน้ำผ่านระบบสูบกลับไปช่วยในการผลิตประปา และอุตสาหกรรม ในพื้นที่ EEC นอกจากนี้จะทำการสูบผันน้ำคลองพระองค์ไชยานุชิต-อ่างเก็บน้ำบางพระ เมื่อระดับน้ำและคุณภาพน้ำเป็นไปตามเกณฑ์ เพื่อช่วยระบบประปาของ จ.ชลบุรี ทั้งหมดเพื่อรองรับสถานการณ์ตามที่กรมอุตุฯ ได้คาดการณ์ไว้" นายประพิศ กล่าว

นายทินกร เหลือล้น ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9 เปิดเผยว่า อธิบดีกรมชลประทานได้กำชับให้บริหารตามแผนอย่างเคร่งครัด ซึ่งทางสชป.9 ได้วางแผนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมระบบสูบกลับน้ำทั้งโครงข่าย เช่น การผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ไปลงอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ ผันต่อไปยังอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ตามที่ได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำอ่างเก็บน้ำประแสร์ (JMC) เริ่มสูบวันที่ 1 มิ.ย. 66 ถึงฤดูฝนปี 67 วันละ 2.5 แสนลบ.ม. หรือเดือนละ 7.5 ล้านลบ.ม. อย่างไรก็ตาม ณ สิ้นฤดูฝนคือ 1 พ.ย. 66 กรมชลฯ จะหารือกับ JMC และ Keyman water warroom ภาคอุปโภคบริโภค และภาคเกษตร อุตสาหกรรม อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเตรียมความพร้อมสูบผันน้ำจากคลองพระองค์ไชยานุชิตมาลงอ่างเก็บน้ำบางพระ ซึ่งปกติจะเริ่มสูบเดือน ส.ค. 66 แต่หากคุณภาพน้ำค่าความเค็มไม่เกินกำหนดจะปรับมาสูบเดือน ก.ค. เป็นการปรับแผนการผันน้ำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อรองรับการใช้น้ำของพื้นที่อีอีซี จ.ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา และภูมิภาคภายใต้ข้อตกลงของกลุ่มผู้ใช้น้ำในพื้นที่ และการเฝ้าระวังค่าความเค็ม ทั้งนี้ปริมาณความต้องการใช้น้ำของพื้นที่อีอีซีจากโครงข่ายน้ำภาคตะวันออกประมาณ 1.2 ล้านลบ.ม.ต่อวัน.