"บิ๊กจ๊อด" ลงเรือหลวงนเรศวรตรวจเยี่ยม กองเรือยุทธการ หน่วยกำลังรบทางเรือ พร้อมยิงสลุต 19 นัดคำนับ ยันความพร้อมของกองเรือยุทธการคือความพร้อมของ ศรชล. จึงต้องรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จึงต้องทำให้สมดุลกำลังรบ พร้อมเยี่ยม ร.ล.จักรีนฤเบศร และหน่วยซีล เพื่อเข้ารับฟังการบรรยายสรุป โดยมี "บิ๊กดุง" นำบิ๊กทหารต้อนรับ

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 65 ที่กองเรือยุทธการ จ.ชลบุรี พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. พร้อมด้วยคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมกองเรือยุทธการ เดินทางถึง ร.ล.นเรศวร ซึ่งจอดเทียบ ณ ท่าเรือแหลมเทียนฐานทัพเรือสัตหีบ โดยมี พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) และนายทหารชั้นผู้ใหญ่จากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือในสังกัดของกองเรือยุทธการให้การต้อนรับ พร้อมทั้งเรียนเชิญผู้บัญชาการทหารเรือขึ้นแท่นเพื่อรับการยิงสลุตคำนับ โดยเรือหลวงปิ่นเกล้า จำนวน 19 นัด ต่อมา ผบ.ทร. เข้าห้องโถงนายทหารเพื่อลงนามในสมุดเยี่ยมและรับมอบของที่ระลึก

จากนั้น ผบ.ทร.ได้ออกจากห้องโถงนายทหาร ไปยังบริเวณลานจอดอากาศยานของ ร.ล.นเรศวร เพื่อให้โอวาทแก่กำลังพลในสังกัดกองเรือยุทธการ โดยมีใจความสำคัญว่า ภารกิจในการรักษาเอกราช อำนาจ และสิทธิอธิปไตย รวมทั้งการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือ ซึ่งกองเรือยุทธการ เป็นหน่วยกำลังรบที่สำคัญของกองทัพเรือ ดังนั้นความพร้อมของกองเรือยุทธการ คือ ความพร้อมของกองทัพเรือ และในปัจจุบันความพร้อมของกองเรือยุทธการ ก็คือ ความพร้อมของ ศรชล. (ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล) อีกด้วย

...

และท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ผันผวนและมีความขัดแย้งอย่างที่ไม่อาจคลี่คลายในเวลาอันใกล้นี้ ชาติต่างๆ เร่งพัฒนากองทัพอย่างก้าวกระโดด ทำให้สมดุลกำลังรบเปลี่ยนแปลง จึงมีความจำเป็นที่กองทัพเรือจะต้องเร่งพัฒนาขีดความสามารถของกำลังทางเรือให้มีศักยภาพที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ ที่ ผบ.ทร.ถือว่าเป็นนโยบายที่สำคัญของกองทัพเรือในปีนี้ และจะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบการฝึก เพื่อให้การเตรียมความพร้อมของกองเรือยุทธการทั้งในระดับองค์บุคคล องค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธี สามารถเชื่อมต่อกับการฝึกกองทัพเรือที่เป็นการฝึกในระดับยุทธศาสตร์ และยุทธการ ที่มุ่งสู่การใช้กำลังตามแผนป้องกันประเทศให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด

ผบ.ทร.ได้ขอให้กำลังพลกองเรือยุทธการทุกนาย ตระหนักถึงคุณค่าและภาคภูมิใจในความเป็นชาวเรือ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อันสำคัญของประเทศ รักษาระเบียบวินัยทหารที่ดี อันจะเป็นพื้นฐานไปสู่การปฏิบัติตนตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด ฝึกฝนให้มีความเชี่ยวชาญในการเดินเรือ และใช้ยุทโธปกรณ์ในระดับที่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะสมประสบการณ์ให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์อย่างมีสติ และเป็นไปในแนวทางที่เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างแท้จริง

จากนั้นในเวลา 10.50 น. ผบ.ทร. ได้เดินทางไปยัง ร.ล.จักรีนฤเบศร เพื่อเข้ารับฟังการบรรยายสรุป และตอบข้อซักถามเกี่ยวกับปัญหา อุปสรรค ข้อขัดข้อง และผลการปฏิบัติหน้าที่ จนเมื่อเสร็จสิ้นการบรรยายสรุป ผู้บัญชาการทหารเรือได้ลงนามในสมุดเยี่ยม พร้อมรับมอบของที่ระลึกจากผู้บัญชากองเรือยุทธการ

...

จากนั้นเวลา 13.00 น. ผบ.ทร.ได้เดินทางต่อไปยังหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปเรื่องโครงสร้างการจัดหน่วยของ นสร. โดยมี พล.ล.ต.ทินกร กาญจนเตมีย์ ผบ.นสร. กองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับ แล้วเดินทางต่อไปตรวจเยี่ยมหน่วยเฉพาะกิจกองเรือยุทธการ 642 พร้อมกับรับฟังบรรยายการสรุปเกี่ยวกับหน้าที่ภารกิจ ปัญหาอุปสรรค และข้อขัดข้องต่างๆ ของหน่วย

ทั้งนี้ หน่วยเฉพาะกิจกองเรือยุทธการที่ 642 มีภารกิจหลัก ในการถวายงานแด่พระบรมวงศานุวงศ์และบุคคลสำคัญเกี่ยวกับการดำน้ำ การฝึกดำน้ำและการปฏิบัติทางการทหารนอกเหนือจากสงครามหรือตามที่ได้รับมอบหมาย อาทิเช่น จากเหตุการณ์ น้ำมันรั่วไหลกลางทะเลในพื้นที่จังหวัดระยองเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 หน่วยเฉพาะกิจกองเรือยุทธการที่ 642 ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่มีบทบาทที่สำคัญ โดยได้ดำเนินการดำน้ำสำรวจคราบน้ำมันและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลระยองบริเวณเกาะเสม็ด และหน้าอ่าวอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด พร้อมเก็บตัวอย่าง น้ำ ดิน ทราย ที่อยู่ในระดับความลึกตั้งแต่ 5-10 เมตร นำไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ เพื่อดูผลกระทบต่างๆ ที่เกิดจากคราบน้ำมัน จากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหล ในทะเลพื้นที่ จ.ระยอง ตั้งแต่เกิดเหตุจนสถานการณ์คลี่คลาย.

...

...