ตำรวจแจ้งข้อหาครูคนขับกับครูประจำรถตู้มรณะคร่าชีวิต “น้องจีฮุน” เด็กหญิง ป.2 วัย 7 ขวบ กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย รอง ผบ.ตร.เผยข้อมูลช่วงปี 57-63 มีเด็กถูกลืมติดอยู่ในรถถึง 129 ครั้งสังเวยชีวิต 6 ศพ พ่อแม่น้องจีฮุนยังแคลงใจ 4 ข้อสงสัย โร่ร้องกระทรวงยุติธรรมช่วยไขปมปริศนาการเสียชีวิต ขอย้ายศพไปเก็บที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์พร้อมเตรียมยื่นให้ผ่าพิสูจน์ซ้ำรอบสอง เชื่อว่าลูกต้องเปิดประตูรถออกมาได้ ข้องใจสภาพศพนอนเรียบร้อยไม่มีร่องรอยดิ้นรนเอาชีวิตรอด แต่พบรอยช้ำถลอกที่แขนขาทั้งที่อาบน้ำให้ตอนเช้ายังไม่มี รมว.ศึกษาธิการสั่งกำชับเข้มมาตรการล้อมคอก เล็งใช้ระบบเซ็นเซอร์ส่งสัญญาณเตือนเด็กติดรถรับส่งนักเรียน
ยังเป็นเรื่องเศร้าสะเทือนใจของผู้คนในสังคมถือเป็นบทเรียนสำคัญให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งวางมาตรการป้องกันเหตุสลดซ้ำรอย กรณี ด.ญ.เขมนิจ หรือน้องจีฮุน ทองอยู่ วัย 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนเพลินจิตวิทยา โรงเรียนเอกชนชื่อดังใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี ถูกพบเป็นศพอยู่ในรถตู้รับส่งนักเรียนของโรงเรียน หลังครูขับรถไปรับมาโรงเรียนในช่วงเช้าแล้วสะเพร่าลืมเช็กยอดนักเรียนบนรถ ทิ้งน้องจีฮุนติดอยู่ในรถทั้งวันจนเสียชีวิต ตำรวจเชิญตัวนายบุญลือ แก้วดวงศรี อายุ 63 ปี ครูสังคมที่มาช่วยขับรถวันเกิดเหตุ และ น.ส.อารยา วายุวรรธนะ อายุ 29 ปี ครูประจำรถมาสอบสวน ยอมรับว่าประมาทเองที่ดูแลเด็กไม่ทั่วถึง ขณะที่พ่อแม่ผู้สูญเสียยังทำใจไม่ได้กับการจากไปของลูกสาวตัวน้อย ยัง ฝากศพไว้ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ โดยผลชันสูตรศพระบุสาเหตุการตายเกิดจากภาวะโลหิตล้มเหลวจากอาการฮีตสโตรก
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 ก.ย. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผอ.ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) เผยว่า ตามที่ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีน้องจีฮุน อายุ 7 ขวบ เสียชีวิตในรถตู้โรงเรียนเมื่อวันที่ 30 ส.ค. เวลาประมาณ 17.00 น. ล่าสุดตำรวจ สภ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้สอบปากคำพยานและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ผลการตรวจชันสูตรศพเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากภาวะอุณหภูมิในร่างกายสูงเกิน (เด็กที่ติดในรถจะเสียชีวิตจากกรณีนี้เป็นส่วนใหญ่) พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานายบุญลือ ครูคนขับรถตู้ และ น.ส.อารยา ครูเวรประจำรถรับส่งนักเรียนในข้อหากระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท ผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพ
...
รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลของกรมควบคุมโรคตั้งแต่ปี 2557-2563 มีเหตุการณ์ที่เด็กถูกลืมทิ้งไว้ในรถโรงเรียนตามลำพังมากถึง 129 ครั้ง ในจำนวนนี้มีเด็กเสียชีวิต 6 ราย จากนี้ไป คงต้องมาทบทวนมาตรการความปลอดภัยกันแบบบูรณาการกันอีกครั้ง ทั้งภาครัฐและภาคประชาชน หมายถึงกลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
ที่กระทรวงยุติธรรม เมื่อเวลา 10.40 น. น.ส.เมทิกา โกศลปลั่งศรี และนายไทยอนันต์ ทองอยู่ พ่อแม่ของน้องจีฮุน พร้อมนายมนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือทนายแก้ว ยื่นคำร้องให้ตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของน้องจีฮุน หลังมีข้อสงสัยหลายประการ มีว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม เป็นผู้รับเรื่องเปิดเผยว่า เบื้องต้นกระทรวงยุติธรรมรับคำร้องของครอบครัวผู้เสียหายไว้ สถาบันนิติวิทยาศาตร์จะตรวจสอบประเด็นการเสียชีวิตว่าเป็นการฆาตกรรมหรือไม่ หรือเกิดจากการขาดอากาศหายใจเป็นระยะเวลานาน พร้อมตรวจสอบสภาพรถตู้คันที่เกิดเหตุเพื่อหาลายนิ้วมือแฝง รวมถึงจะตรวจสอบการผ่าพิสูจน์ศพโดยตำรวจว่าถูกต้องสมบูรณ์หรือไม่ ครอบครัวผู้เสียชีวิตเห็นดีกับมาตรการดังกล่าว ทั้งนี้ หากครอบครัวยังมีข้อสงสัยใด กระทรวงยุติธรรมจะยื่นคำร้องให้ผ่าพิสูจน์ซ้ำได้ ตอนนี้ยังอยู่ในระยะเวลาการทำงานของ รพ.ตำรวจ อย่างไรก็ตามกรณีนี้เจ้าของโรงเรียนต้องรับผิดชอบในการเสียชีวิตของเด็กเพราะถือเป็นความผิดของลูกจ้าง ทั้งนี้ จะจัดหาทนายความกองทุนยุติธรรมให้ความช่วยเหลือและเยียวยาเงินไม่เกิน 110,000 บาท ประกอบกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมส่งเรื่องไปยังยุติธรรมจังหวัดต่อไป
น.ส.เมทิกา แม่ผู้สูญเสียกล่าวว่า มาขอยื่น คำร้องให้มีการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อให้คลายข้อสงสัย หลังโรงเรียนยังไม่แจ้งผลการ ตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ อีกทั้งพบว่าสภาพเสื้อผ้าและท่าทางของลูกเรียบร้อยมาก ไม่มีคราบน้ำตา น้ำลาย หรือปัสสาวะ ขณะที่ รพ.ตำรวจได้แจ้งผลชันสูตรว่า ลูกเสียชีวิตจากอาการฮีตสโตรกจนระบบไหลเวียนเลือดล้มเหลว เกิดจากการอยู่ในที่ร้อนเป็นเวลานานจนหมดสติไป อย่างไรก็ตามมองว่า ไม่ว่าลูกจะอ่อนเพลียแค่ไหนก็น่าจะเปิดประตูหรือกระจกรถได้ อีกทั้งน้องจีฮุนยังร่าเริงแจ่มใสไม่มีโรคประจำตัว แพทย์แจ้งสภาพศพว่ามีรอยฟกช้ำบริเวณต้นแขนซ้ายและจุดเขียวที่ขา รวมถึงรอยถลอกที่แขน ตอนเช้าตนอาบน้ำให้ลูกยังไม่พบ ถือเป็นรอยใหม่เป็นข้อสงสัยอีกประเด็น ครอบครัวยังคงจะเก็บร่างไว้ก่อน ขณะเดียวกันเพิ่งเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดจากการนำเสนอผ่านสื่อเท่านั้น ยังไม่ได้รับการประสานจากโรงเรียนมา
ขณะที่นายไทยอนันต์ ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า โรงเรียนประสานมาว่าจะชดเชยค่าเสียหายให้แล้ว แต่ครอบครัวยังไม่พร้อมพูดคุย ยืนยันว่าน้องจีฮุนเปิดกระจกรถและเปิดประตูได้ แต่ไม่ทราบว่าสามารถเปิดประตูและกระจกรถตู้โรงเรียนได้หรือไม่ ครอบครัวเกิดข้อสงสัยในหลายประเด็นคือ เด็กน่าจะดิ้นรนเอาชีวิตรอดในรถที่ร้อนระอุ เพราะเสื้อผ้าน้องไม่หลุดรุ่ย รวมถึงยังไม่พบมีคราบใดบนกระจกและตามตัวรถทั้งๆที่เด็กยังเป็นวัยที่ซุกซน รวมถึงกล้องหน้ารถจะบันทึกเหตุการณ์ได้ แต่โรงเรียนและตำรวจยังไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนนี้มา นอกจากนี้ เวลาที่ใช้ในการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนเพียง 15 นาที น้องจีฮุนไม่น่าจะหลับลึกขนาดที่คนขึ้นลงรถก็ไม่ทราบ
ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายไทยอนันต์ และ น.ส.เมทิกา พ่อแม่ของน้องจีฮุนมาติดต่อแจ้งความจำนงค์ทำเรื่องขอรับศพลูกสาวไปฝากไว้ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี ระหว่างรอผลชันสูตรอย่างเป็นทางการของสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ถ้าทราบผลทางการแล้ว จะมาพิจารณาอีกครั้งว่าจะให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ผ่าชันสูตรรอบ 2 หรือไม่ เพราะติดใจสงสัยเรื่องรอยฟกช้ำบริเวณขาของน้องจีฮุน วันนี้ครอบครัวมายื่นความจำนงค์ฉีดยาฟอร์มาลีน จากนั้นจะกลับไปนำเอกสารการเสียชีวิตที่ สภ.พานทอง นำมาให้วันที่ 2 ก.ย. เพื่อรับศพไปเก็บรักษาไว้ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
น.ส.เมทิกากล่าวอีกครั้งว่า ครอบครัวเชื่อถือผลของนิติเวช รพ.ตำรวจ แต่ยังมีข้อสงสัยบางส่วนที่อยากให้ตรวจสอบอีกครั้งถึงประเด็นการเสียชีวิต มีการชี้แจ้งมาบ้างแล้วแต่ยังไม่ละเอียดระบุว่าน้องเกิดอาการฮีตสโตรก ได้ไปยื่นเรียกร้องที่กระทรวงยุติธรรมเพื่อให้คลี่คลายและตรวจสอบ 4 ข้อสงสัยของครอบครัว คาดว่าผลจะออกภายใน 2 สัปดาห์ จำเป็นต้องนำร่างน้องไปฝากไว้ก่อน ส่วนพิธีทางศาสนาจะทำได้หลังจากคลายข้อสงสัยทางนิติวิทยาศาสตร์ทั้งหมดแล้ว ส่วนที่ทางโรงเรียนติดต่อมาว่าจะชดใช้ในสิ่งที่เกิดขึ้น ครอบครัวยังทำใจไม่ได้ ยังมีหลายประเด็นที่ยังไม่ได้รับคำตอบ โดยเฉพาะร่องรอยการฟกช้ำบริเวณต้นแขนและขา รอยถลอกที่แขน จะเกิดขึ้นก่อนหรือหลังเสียชีวิตยังไม่ทราบแน่ชัด รวมทั้งในรถไม่พบร่องรอยคราบน้ำลายหรือดิ้นรนเอาตัวรอดของน้อง แต่แพทย์บอกว่าอาจเกิดจากการพบร่างของน้องที่นอนหันข้างอยู่ อาจเกิดรอยช้ำจากตรงนั้นได้ แต่ยังไม่ชัดเจนต้องรอผลก่อน
...
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนเพลินจิตวิทยา อ.พานทอง จ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุ พบนายสิริพงศ์ นวสกุลธนนนท์ รอง ผอ.โรงเรียน เผยว่า ทางโรงเรียนยินยอมชดใช้เยียวยาทุกอย่าง เบื้องต้นได้พูดคุยกับญาติน้องจีฮุนแล้ว แต่ต้องรอคุยรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนมาตรการป้องกันหลังเกิดเหตุได้กำชับครูทุกคนและจะพยายามป้องกันไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ส่วนบทลงโทษครูก็มีระเบียบชัดเจนอยู่แล้ว ช่วงนี้ต้องประคับประคองกันอยู่ วันนี้จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน ส่วนตนในฐานะตัวแทนของโรงเรียนต้องกราบขอโทษครอบครัวน้องจีฮุนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วย
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า มอบหมายให้ ดร.พีระศักดิ์ รัตนะ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว รวมถึงสอบสวนครูที่เกี่ยวข้อง ส่วนการดำเนินคดีเป็นเรื่องของตำรวจดำเนินการ มาตรการความปลอดภัยในสถานศึกษาถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่สำคัญที่ทุกโรงเรียนจะต้องปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยเฉพาะระเบียบเรื่องรถรับส่งนักเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เช่น การเช็กชื่อจำนวนนักเรียนในรถ เป็นต้น ดังนั้น ขอให้ทุกโรงเรียนทั้งโรงเรียนของรัฐและเอกชนปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้จะตรวจสอบสถานศึกษาทุกแห่งถึงระบบรถรับส่งนักเรียนด้วยว่ามีมาตรฐานและมีความปลอดภัย มากน้อยแค่ไหน
รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากำชับมาตรการความปลอดภัยและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเรื่องรถรับส่งนักเรียนมาตลอด แต่เข้าใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอาจเป็นความประมาทเลินเล่อ อยากฝากครูทุกคนใส่ใจความปลอดภัยของนักเรียนให้มากกว่าเดิม รวมถึงสถานศึกษาจะต้องซักซ้อมให้ความรู้นักเรียนถึงวิธีการเอาตัวรอดรูปแบบต่างๆให้มากขึ้นด้วย ขณะเดียวกันประสานไปยังสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) นำนวัตกรรมระบบเซ็นเซอร์สัญญาณเตือนเด็กติดรถรับส่งนักเรียน ทราบข้อมูลว่ามีหลายวิทยาลัยที่ผลิตนวัตกรรมดังกล่าวออกมาใช้ได้ผล จะนำมาติดตั้งให้รถตู้รับส่งนักเรียนของโรงเรียนรัฐและเอกชนเพื่อสร้างความปลอดภัยอย่างเป็นระบบให้เข้มแข็งมากขึ้น
...