สะเทือนใจ น้องหมานั่งเฝ้าศพเจ้านายไม่ห่าง หลังเสียชีวิตเปลือยกายปริศนามาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน เพื่อนบ้านเผย ผู้ตายเป็นเบาหวาน และเคยบ่นเรื่องปวดหัวรุนแรง ก่อนจะมาเป็นศพ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 ส.ค. 65 ร.ต.อ.องอาจ ทุมสุด รอง สว.สอบสวน สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งว่า มีกลิ่นของศพเน่าลอยออกมาจากบ้านพักเลขที่ 99/5 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยา รุดไปทำการตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหรูชั้นเดียว ตรวจภายในบ้านพบว่า ประตูรั้วและประตูบ้านถูกล็อกกลอนประตูจากด้านใน โดยมีกลิ่นของศพเน่าลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณบ้าน หน่วยกู้ภัยต้องนำเครื่องตัดถ่างมางัดประตูเข้าไปตรวจสอบ เมื่อเปิดบ้านเข้าไป เจ้าหน้าที่ถึงกับผงะ เมื่อพบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือ นายสมคิด วรรณสุทธิ์ อายุ 48 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตในสภาพนอนคว่ำหน้า ไม่สวมเสื้อผ้า เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน หรือประมาณไม่ต่ำกว่า 72 ชม. จนศพเริ่มขึ้นอืด น้ำเหลืองไหล และไม่สามารถชันสูตรสาเหตุการตายเบื้องต้นได้
นอกจากนี้การเข้าไปชันสูตรศพเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีน้องหมาชื่อเจ้า “ริชซี่” สุนัขสายพันธุ์ค็อกเกอร์ สแปเนียล หูยาว สีน้ำตาล เพศผู้ อายุประมาณ 2-3 ปี สภาพเนื้อตัวมอมแมม นั่งเฝ้าศพผู้ตายไม่ห่าง โดยพยายามเห่าและขู่จะเข้ากัดหน่วยกู้ภัยที่พยายามจะเข้าไปชันสูตรศพ จนต้องมีการหลอกล่อด้วยอาหารและให้จับตัวได้ในที่สุด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงสามารถเข้าไปเก็บร่างผู้เสียชีวิตได้ และนำส่งชันสูตรต่อที่โรงพยาบาลบางละมุง
จากการสอบถามเพื่อนบ้าน เล่าว่า ไม่ได้เจอผู้ตาย 2-3 วันแล้ว โดยปิดบ้านเงียบ แต่ก็ไม่คิดเอะใจอะไร จนมาวันนี้ได้กลิ่นเหม็นเน่าของศพลอยออกมาจากบ้านผู้ตาย จึงโทรแจ้งเจ้าที่ให้มาตรวจสอบ ก่อนพบว่าเสียชีวิตดังกล่าว แต่จาการพูดคุยกับผู้ตายเคยบอกว่าป่วยเป็นเบาหวาน และก่อนที่จะมาเสียชีวิตยังบอกด้วยว่าปวดหัวรุนแรงมากก่อนจะเดินหายเข้าไปในบ้าน และมาทราบอีกทีกายเป็นศพดังกล่าว
...
ร.ต.อ.องอาจ ทุมสุด ร้อยเวรสอบสวน เปิดเผยว่า การแนวทางการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าผู้ตายเป็นเกย์ โดยมีคู่ขาเป็นชาวต่างชาติไม่ทราบสัญชาติ ซึ่งเดินทางไปมาหาสู่กันเป็นประจำ และปัจจุบันคู่ขาต่างชาติดังกล่าวได้เดินทางกลับประเทศไปแล้ว ส่วนการชันสูตรเบื้องต้นไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ ต้องทำเรื่องส่งศพให้สถาบันนิติเวชวิทยาทำการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งติดต่อหาญาติเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมในการสรุปสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป.