หนุ่มซิ่ง จยย.บิ๊กไบค์ซีบีอาร์ 500 ชนประสานงา จยย.เวฟ ด้วยกันคาแยกซอยเล้งกี่ ถนนพัทยาสาย 3 เจ็บสาหัส ส่วนคู่กรณีตายคาที่ ตร.เมืองพัทยา รอสอบปากคำผู้บาดเจ็บและดูภาพวงจรปิดเพื่อดำเนินการต่อไป
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 31 ก.ค. 65 พ.ต.ท.อภิเชษฐ์ เมธีธรรมาภรณ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุมีจักรยานยนต์ชนประสานงาบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ 1 ราย เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบริเวณแยกเล้งกี่ ถนนพัทยาสาย 3 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังแจ้งพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยาเร่งรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบไทยมุงจำนวนมาก ด้านเจ้าหน้าที่ได้กันผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่เกิดเหตุ
ก่อนตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบ น.ส.ปรีษา เดชาสินวดี อายุ 28 ปี ชาวบ้าน ม.5 ต.ดงเย็น อ.เมือง จ.มุกดาหาร สภาพนอนจมกองเลือดหมดสติปลุกไม่ตื่น เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างได้ปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต แต่ไม่เป็นผล ผู้บาดเจ็บนั้นอาการสาหัสเกินไป เสียชีวิตในเวลาต่อมา ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 i สีดำ ทะเบียนป้ายแดง 1-8866 สภ.เมืองพัทยา สภาพหน้ารถถูกชนอย่างรุนแรงพังยับเยิน
...
ห่างจุดเกิดเหตุไป 10 เมตร พบผู้บาดเจ็บอีกรายเป็นชายไทยทราบชื่อ คือ นายวัฒนา อุ่นวงษ์ อายุ 23 ปี ชาวบ้าน ม.4 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เจ้าหน้าที่ได้ปฐพยาบาลในเบื้องต้นก่อนเคลื่อนเร่งด่วนรักษาตัวที่ รพ.เมืองพัทยา ตรวจสอบโดยรอบพบรถจักรยานยนต์ของผู้บาดเจ็บเป็นรถบิ๊กไบค์ ยี่ห้อฮอนด้า ซีบีอาร์ 500 สีแดง ทะเบียนป้ายแดง 1-6367 สภ.เมืองพัทยา สภาพหน้ารถพังยับเยิน
ด้านนายปริญญา ชลายน อายุ 40 ปี คนเห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ตนได้ทำธุระอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุและได้สังเกตเห็นรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ขี่มาด้วยความเร็ว มุ่งหน้าจากพัทยาใต้ไปพัทยากลาง ส่วนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตมุ่งหน้าจากพัทยากลางไปพัทยาใต้ ก่อนมาชนประสานงากันที่แยกพัทยาสาย 3 ตัดซอยเล้งกี่ดังกล่าว
เบื้องต้นด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้ถ่ายภาพที่เกิดเหตุเก็บไว้เป็นหลักฐานก่อนให้เก็บรถจักรยานยนต์ทั้งคันเก็บรักษาที่ สภ.เมืองพัทยา ก่อนพร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่สว่างได้เก็บรักษาร่างของผู้เสียชีวิตไปไว้ที่ รพ.บางละมุง ก่อนจะประสานหาญาติผู้เสียชีวิต เพื่อแจ้งให้รับทราบถึงการเกิดเหตุในครั้งนี้ ส่วนตัวผู้บาดเจ็บนั้นต้องให้รักษาตัวให้หายดีก่อนจะให้มาทำการสอบสวนเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองจะลงพื้นที่อีกครั้งเพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบดูว่าใครผิดใครถูก เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป.