"เฉลิมชัย" ชวนเที่ยวงานเทศกาลผลไม้และของดี อ.แกลง ประจำปี 2565 มุ่งเน้นให้เกษตรกรรักษาคุณภาพและมาตรฐานการผลิตให้ตรงตามความต้องการของตลาด พร้อมชูมาตรการ Zero COVID Rayong Fruit เพื่อขยายโอกาสสู่ตลาดภายในและภายนอกประเทศ
เมื่อวันที่ 15 พ.ค.65 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานเทศกาลผลไม้และของดี อ.แกลง ประจำปี 2565 ปีที่ 40 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 17 พ.ค.65 โดยมี นายสาธิต ปิตุเตชะรมช.สาธารณสุข นายธารา ปิตุเตชะ นายบัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง และผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ เข้าร่วม ณ สถานีบริการน้ำมันบางจาก (ไต๋ ปิโตรเลียม) พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ชนะการประกวดผลไม้ และผู้สนับสนุนการจัดงาน ทั้งมอบป้ายมาตรการด้านความปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในผลไม้เพื่อการส่งออกของ จ.ระยอง (Zero COVID Rayong Fruit : ZCRF) เยี่ยมชมการจำหน่ายผลไม้ ชิมทุเรียนหลากสายพันธุ์จากสวนบ้านเรา หมู่ที่ 8 ต.กระแสบน อ.แกลง จ.ระยอง และร่วมกิจกรรมทอดทุเรียนกระทะยักษ์ โดยการจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงแหล่งผลิตผลไม้ที่ดี มีคุณภาพ เพิ่มศักยภาพในด้านการจำหน่ายผลไม้ของเกษตรกร สร้างขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกรที่ผลิตผลไม้เป็นอาชีพหลัก ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับ อ.แกลง อีกทางหนึ่ง
...
สำหรับปริมาณผลผลิตของไม้ผล 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ของเดือน เม.ย. 65 ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง จันทบุรี และตราด พบว่า มีจำนวนรวม 1,189,522 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีจำนวน 903,865 ตัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 32) เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น และมีฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2564 ส่งผลให้เอื้อต่อการออกดอกและติดผล แม้จะมีภัยธรรมชาติจากลมพายุช่วงปลายปี 2564 และเดือน ก.พ.-มี.ค.65 ที่ทำให้ดอกและลูกร่วงเสียหาย แต่ในภาพรวมปริมาณผลผลิตยังคงมากกว่าปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผลผลิตได้ทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่กลางเดือน ก.พ. และจะออกต่อเนื่องจนถึงกลางเดือน ก.ย. 65 โดยผลผลิตจะออกมากที่สุดช่วงเดือน พ.ค.65 (คิดเป็นร้อยละ 51 ของผลผลิตทั้งหมด) ทำให้ผลผลิตผลไม้ไทยปีนี้อาจเพิ่มขึ้นถึง 32% กระทรวงเกษตรฯ จึงต้องเตรียมมาตรการรับมือ เพื่อไม่ให้ผลไม้กระจุกตัวและเกิดปัญหาราคาตกต่ำ ซึ่งในปีที่ผ่านมา ไทยส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 1.6 แสนล้านบาท โดยเฉพาะทุเรียนส่งออกทะลุแสนล้านเป็นครั้งแรก
นอกจากนี้ ในส่วนของมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2565 ได้มีการบริหารจัดการผลไม้ทั้งระบบ เป็นมาตรการหลักในการขับเคลื่อน ประกอบด้วย 17 มาตรการ อาทิ 1. มาตรการเร่งรัดตรวจและรับรอง GAP ซึ่งมีเป้าหมายในปี 2565 ไม่ต่ำกว่า 120,000 แปลง 2. มาตรการช่วยผู้ประกอบการ/เกษตรกร/ ล้ง กระจายผลผลิตผลไม้ออกนอกแหล่งผลิต กิโลกรัมละ 3 บาท ปริมาณ 80,000 ตัน 3. มาตรการเสริมสภาพคล่องให้ผู้ส่งออกโดยจะช่วยเหลือดอกเบี้ย 3% และช่วยผู้ส่งออกที่ส่งออกผลไม้อีกกิโลกรัมละ 5 บาท ปริมาณ 60,000 ตัน 4. ร่วมบูรณาการระหว่างกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนให้มีการใช้พ.ร.บ.เกษตรพันธสัญญา การทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าด้านผลไม้ โดยจะสนับสนุนให้มีการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อเกษตรกรได้ทราบว่าขายผลไม้ได้เท่าไหร่ มีคนซื้อที่มีหลักประกัน เซ็นสัญญาตามกฎหมายชัดเจนไม่ต่ำกว่า 30,000 ตัน และ 5. มาตรการส่งเสริมการบริโภคผลไม้ในประเทศ เป็นต้น
"การจัดงานครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์แก่พี่น้องเกษตรกรในด้านการจำหน่ายสินค้าการเกษตร และด้านการท่องเที่ยวใน อ.แกลง จึงอยากให้เกษตรกรรักษาคุณภาพและมาตรฐานการผลิตให้ตรงตามความต้องการของตลาด ซึ่งจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับจังหวัด รวมถึงขยายโอกาสทางการตลาดไปสู่ภายในและภายนอกประเทศ และพัฒนาเป็นเกษตรอุตสาหกรรมและเกษตรท่องเที่ยวได้ และขอแสดงความยินดีกับ จ.ระยอง ที่ประสบความสำเร็จจากการที่ผลไม้โดยเฉพาะทุเรียน สามารถนำเงินเข้าจังหวัดมาได้กว่าหมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นเม็ดเงินที่มาถึงมือพี่น้องเกษตรกรโดยตรง จึงอยากมาร่วมยินดีกับความสำเร็จกับเกษตรกรและทุกภาคส่วน ที่ทำงานร่วมกันเพื่อให้ประสบความสำเร็จไปข้างหน้า ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ พร้อมจะเข้ามาสนับสนุนเกษตรกร และมุ่งที่จะสร้างความเข้มแข็งและสร้างรายได้ให้พี่น้องเกษตรกรทุกกลุ่มต่อไป" นายเฉลิมชัย กล่าว.