ผบ.สอ.รฝ. จัดพิธีรับและให้โอวาท 78 จ่าตรี จบใหม่ปี 2565 และเข้าสังกัดหน่วย สอ.รฝ. ให้เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และตอบสนองภารกิจที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน ชาติ มีสติ รู้ตัว รู้คิด เสมือนเข็มทิศชี้ทางตั้งแต่เริ่มออกเดินเรือ


เมื่อวันที่ 2 พ.ค.65 พล.ร.ต.สรวุท ชวนะ ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ผบ.สอ.รฝ.) เป็นประธานในพิธีต้อนรับและให้โอวาทจ่าตรีสายวิทยาการ สอ.รฝ. ที่สำเร็จการศึกษา ประจำปี 2565 ณ บริเวณหน้ากองบัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี หลังจากได้รับการประดับเครื่องหมายยศ และมอบประกาศนียบัตร จากผู้บัญชาการทหารเรือ โดย หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ได้รับมอบจ่าสำเร็จใหม่สายวิทยาการ สอ.รฝ. จำนวน 78 นาย

โดยจ่าตรีที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนชุมพลทหารเรือนั้น นับเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ เป็นผลมาจากความวิริยะอุตสาหะ ความขยันหมั่นเพียรในการศึกษาเล่าเรียน ประกอบกับการประพฤติปฏิบัติหน้าที่อยู่ในระเบียบวินัย อันเข้มงวดขณะศึกษาอยู่ที่โรงเรียนชุมพลทหารเรือ ตลอดระยะเวลา 2 ปี เมื่อสำเร็จการศึกษา และได้รับการแต่งตั้งยศ เป็นจ่าตรี จะได้รับการบรรจุตำแหน่งหน้าที่ใน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ซึ่งเป็นหน่วยกำลังรบหลักของกองทัพเรือ ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการปฏิบัติการป้องกันภัยทางอากาศและการป้องกันฝั่ง และการปฏิบัติภารกิจในหน่วยเฉพาะกิจ ของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ในพื้นที่ทัพเรือภาค 1-3 ตลอดจนการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ที่กองทัพเรือมอบหมาย

...


ทั้งนี้ พล.ร.ต.สรวุท ชวนะ ผบ.สอ.รฝ. ได้ให้โอวาทกับ "จ่าตรี" ที่มาบรรจุใหม่ เพื่อเป็นแนวทางในการรับราชการว่า เมื่อท่านเข้ามาเป็นทหารต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งแล้ว ถือได้ว่าท่านเป็นบุคลากรที่มีความสำคัญ ต่อ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งอย่างยิ่ง จะต้องมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งร่างกายและจิตใจ และตั้งใจฝึกฝนใฝ่หาความรู้ เพื่อให้เกิดความพร้อม ทั้งองค์บุคคลและองค์ยุทธวิธี ซึ่งความพร้อมนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนงานของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ให้เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และตอบสนองภารกิจ ที่กองทัพเรือมอบหมาย ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่ขอให้ จ่าตรีทุกนายที่มาบรรจุใหม่ ได้ยึดมั่นในการปฏิบัติงานกับหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งในแต่ละหน่วยต่อ คือ ต้องมีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างสูงสุด และยึดมั่นในการปกครองบังคับบัญชาที่ดีมีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทำ ตลอดเวลา

เพราะนับต่อจากนี้ไปจ่าตรีใหม่ทุกนายจะต้องได้รับมอบหมายในการปกครอง กำกับ และควบคุมพลทหารกองประจำการในสังกัดตามภาระหน้าที่ จึงขอให้ใช้หลักการปกครองด้วยคุณธรรม จริยธรรม เป็นไปตามระเบียบแบบแผนทางทหาร ต้องไม่มีการลงโทษเกินขอบเขต หรือกลั่นแกล้งและทำร้ายร่างกายโดยเด็ดขาด อีกทั้งต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องไม่ดี อบายมุขทั้งปวง และให้มีระเบียบวินัยที่ดี ดังที่ผู้บัญชาการทหารเรือได้ฝากข้อคิด แก่นักเรียนจ่าทหารเรือในวันที่ประดับเครื่องหมายยศว่า

"ทัศนคติเริ่มต้นและอุดมการณ์สำคัญมาก เปรียบเสมือนเข็มทิศชี้ทางตั้งแต่เริ่มออกเดิน หากการเริ่มต้นไม่ดี ผิดทิศผิดทางตั้งแต่แรก ยิ่งนานไปความผิดพลาดยิ่งสูง และอาจเป็นผลเสียแก่ตัวเราและกองทัพเรือ ก่อนที่จะออกเดินทาง เราจึงต้องแก้เข็มทิศให้ไม่มีอัตราผิด และขีดเข็มให้ตรงไปยังจุดหมายที่ต้องการ ซึ่งในที่นี้ผมหมายถึงเราจะต้องยึดมั่นในอุดมการณ์ ในการรักษาไว้ซึ่งสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรักษาไว้ซึ่งความเที่ยงธรรมและซื่อสัตย์สุจริต"

...

...