กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน เข้าคุมเงินบริจาคในบัญชีแม่เด็กขอน้ำซุป หลังพ่อเอาไปดื่มสุราจนเมาแล้วทำร้ายเมีย โดยจะร่วมกับ พม.ชลบุรี กันเงินไปสร้างบ้านให้เสร็จ เป็นทุนการศึกษาเด็ก และค่ากินค่าอยู่
ความคืบหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาทบริเวณเพิงพัก หมู่ 4 ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม นายกัมพล สุขสว่าง กำนัน ต.นาป่า นายทศพร ยั่งยืน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.ดอนหัวฬ่อ พบ นางปลา (นามสมมติ) อายุ 39 ปี มารดาของเด็กหญิงขอน้ำซุปจนเป็นข่าวดัง ร่ำไห้ด้วยใบหน้าปูดบวมทั้งใบหน้า ศีรษะแตก กู้ภัยไตรคุณธรรมปฐมพยาบาลบาดแผลเบื้องต้น โดยถูกนายไก่ (นามสมมติ) สามีและเป็นพ่อของเด็กหญิงที่เดินมาขอน้ำซุปกินกับข้าว เอาตะหลิวตี ชกต่อยตนหลายครั้ง สาเหตุอารมณ์เสีย เนื่องจากเอาเงินที่คนใจบุญบริจาคมาไปดื่มสุรา และหาว่าตนจะมีชู้ ซึ่งไม่เป็นความจริง
ต่อมาตำรวจได้จับกุมสามีที่เป็นคนทำร้าย ยังอยู่ในอาการเมาสุราอย่างหนัก พูดจาไม่รู้เรื่อง ตำรวจต้องนำตัวขึ้นรถไปสงบสติอารมณ์ที่ สภ.เมืองชลบุรี และต่อมาได้มี น.ส.ต้อย (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ได้มาให้ข้อมูลและกล่าวหานายไก่ ว่าจะข่มขืนตน ก่อนตีเมีย ซึ่งตอนนั้นนายไก่ได้บุกเข้าไปในบ้านตนที่อยู่ใกล้กันด้วยอาการเมา เข้ามากอดปลุกปล้ำตน ผลักตนล้มลง แต่ตนต่อสู้ผลักนายไก่กระเด็นแล้วก็วิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากร้านค้า และต่อมาก็ได้ข่าวว่ามาตบต่อยตีเมียดังกล่าว
นายกัมพล สุขสว่าง กำนัน ต.นาป่า กล่าวว่า 2 สามีภรรยาเป็นพ่อแม่เด็กหญิงที่เดินไปขอน้ำซุปจากร้านค้าจนเป็นข่าวโด่งดัง และมีผู้ใจบุญนำสิ่งของมามอบให้ รวมทั้งยังโอนเงินบริจาคเข้าบัญชีผู้เป็นแม่ รวมเงินกว่าครึ่งล้านบาท แต่พ่อเด็กหญิงก็เอาเงินไปกินเหล้าจนเมาเละเทะก่อเรื่องขึ้นมา ต่อไปนี้ทางกำนันและผู้ใหญ่บ้านรวมทั้งให้ตำรวจ และแจ้งไปยังการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ชลบุรี เป็นพยานจะไปอัปเดตเงินในบัญชีว่ามีเท่าไรแล้วจะแบ่งเอาไว้สร้างบ้าน ซึ่งตอนนี้ได้เช่าที่วัดนาเขื่อนไว้แล้ว ส่วนที่เหลือก็จะแบ่งเป็นทุนการศึกษาของเด็กหรือลูก 3 คน และจะแบ่งอีกส่วนเอาให้ไว้ใช้ในส่วนประจำวันครอบครัว โดยต้องบังคับกันเลย ถ้าไม่ทำอย่างนี้เงินส่วนนี้คงไม่เหลือแน่ๆ
...
ต่อมาผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นายธนบูรณ์ สุดสงวน สมาชิกสภาเทศบาลตำบลดอนหัวฬ่อ เปิดเผยว่า ได้พานางต้อย (นามสมมติ) ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองชลบุรี ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรับเรื่อง แต่นางต้อยทำทีท่าจะไม่เอาเรื่อง แต่ตำรวจก็ดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย ส่วนข้อหาอนาจารนั้นได้ลงบันทึกประจำวันไว้ เนื่องจากไม่มีพยานบุคคล
สอบถาม นายแดง (นามสมมติ) พี่ชายนางปลา ได้เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องน้องสาวถูกสามีทำร้าย ตนก็ไม่สบายใจเพราะเป็นห่วงหลานด้วย ได้ปรึกษากับญาติจะเดินทางไปรับนางสนิทและหลานทั้ง 3 คนกลับมาอยู่ จ.ศรีสะเกษ โดยช่วงนี้ก็จะให้นางปลานั้นไปทำการย้ายหลานที่โรงเรียน เพื่อมาเรียนต่อที่จังหวัดศรีสะเกษ หากย้ายเสร็จแล้วเรียบร้อยตนก็จะเอารถเดินทางมารับกลับ จ.ศรีสะเกษ ทันที และหากทางด้าน นายไก่ สามี นางปลา นั้นจะกลับมาอยู่กับลูกและเมีย ตนละญาติก็ให้มาอยู่ได้ แต่ต้องมีข้อแม้คือต้องกลับตัวใหม่ ต้องเลิกเหล้าโดยเด็ดขาด และห้ามยุ่งเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ต่างๆ เลยทีเดียว เพราะไม่ฉะนั้นถ้าหากเมาเดี๋ยวก็กลับมาทำร้ายลูกและเมียอีก หากทำไม่ได้ ทั้งพี่ชายและญาติก็จะไม่ยอมให้มาอยู่ด้วยเด็ดขาด.