อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) สั่งบริษัทเอกชนรายใหญ่ ทำหนังสือชี้แจงแล้ว หลังมีชาวบ้าน จ.ปราจีนบุรี ร้องเรียนได้รับความเดือดร้อน กรณีลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมในพื้นที่
จากกรณีชาวบ้านในพื้นที่กรอกสมบูรณ์ ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้รับความเดือดร้อนจากบริษัทเอกชนรายใหญ่ ลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมในพื้นที่ มีรถบรรทุกกากฯ วิ่งเข้า-ออกในพื้นที่วันละหลายสิบเที่ยว ส่งผลให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบส่งกลิ่นเหม็น และแหล่งน้ำที่ปนเปื้อนสารพิษนั้น
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2565 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนชาวบ้าน และประชาชนผู้หวังดีส่งข้อมูลเกี่ยวกับการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมมาให้กรมควบคุมมลพิษตรวจสอบ เช่น ทะเบียนรถบรรทุกที่ลักลอบขนสารอันตรายต่างๆ เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการตรวจสอบ ทั้งนี้ตนมอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมตรวจสอบ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปก่อนหน้านี้แล้ว พร้อมเรียกประชุมเจ้าหน้าที่เพื่อขยายผลตรวจสอบทั้งพื้นที่ได้รับอนุญาต และพื้นที่ใกล้เคียงที่ไม่ได้รับอนุญาตว่ามีสารอันตรายส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตรายหรือไม่ อีกทั้งมีคำสั่งให้บริษัทเอกชนต้องสงสัยทำหนังสือชี้แจงถึงข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้นแล้ว
ส่วนกรณีนี้มีการลักลอบขนขยะอันตรายจาก จ.ฉะเชิงเทรา หรือไม่นั้น นายอรรถพล กล่าวว่า เป็นข้อมูลในเชิงสืบสวน กรมควบคุมมลพิษยังไม่สามารถเชื่อมข้อมูลจากกรมโรงงานฯ ถ้าได้ข้อมูลเรื่องนี้จะตรวจสอบง่ายขึ้น
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวถึงปัญหาการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมว่า เรื่องนี้ต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องแม้จะวางระบบมีเทคโนโลยีเพื่อติดตามการขนถ่ายกากฯ แต่หากไม่เข้มงวดมักจะเกิดปัญหา อีกส่วนคือ ผู้ประกอบการที่มีเจตนากระทำผิดกฎหมาย อาศัยช่องว่างต่างๆ กระทำความผิด เรื่องนี้น่าเป็นห่วง เพราะมีการลักลอบทิ้งเกิดขึ้นบ่อยครั้ง คพ.ต้องใช้มาตรการเฝ้าระวัง สืบสวน รวมถึงขยายผลจากข้อมูลของประชาชนผู้หวังดีส่งมาให้ เบื้องต้น และประสานงานกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) หากมีหลักฐานขยายผลไปถึงบริษัท หรือผู้ประกอบการรายใด คพ.จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด.
...