ชุดเฉพาะกิจปราบปรามทุเรียนอ่อน จ.จันทบุรี จับทุเรียนอ่อน คาล้งผลไม้ริมถนนสุขุมวิท อ.ท่าใหม่ หลังสุ่มตรวจพบผลอ่อนเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ค่ากว่า 1 ล้าน เตรียมส่งไปจีนทางเครื่องบิน
สายวันที่ 13 มี.ค. นายชลธี นุ่มหนู ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 (สวพ.6) นำกำลังเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร ฝ่ายปกครอง และตำรวจสภ.ท่าใหม่ เข้าตรวจสอบล้งรับซื้อทุเรียน ชื่อล้ง TST ของบริษัท ไทย ชิงเต่า จำกัด ตั้งอยู่ ริมถนนสุขุมวิท ม.1 ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ หลังมีการเข้าสุ่มตรวจ พบทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) ที่บรรจุกล่องเรียบร้อย เตรียมส่งออกไปต่างประเทศทางเครื่องบิน คาดว่ามีปริมาณ 5 ตัน โดยเจ้าหน้าที่ได้สุ่มตรวจทุเรียนพันธุ์กระดุม จำนวน 3 ผล พบจำนวนเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้ง ที่ได้คือ 16, 17 และ 18 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน คือต้องได้ 27 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป
ด้านนายอาโม เป็นชาวจีน เจ้าของล้งทุเรียน กล่าวผ่านล่ามคนไทยว่า ทุเรียนทั้ง 5 ตัน รับซื้อจากสวนในพื้นที่ อ.ขลุง จ.จันทบุรี โดยมีมือตัดทุเรียนที่ทำหน้าที่จัดหาทุเรียนมาให้ แต่ตนไม่รู้ว่าเป็นทุเรียนด้อยคุณภาพ จึงต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ได้มาตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยจะนัดให้มือตัดมาคัดเลือกทุเรียนที่ผ่านเกณฑ์ให้สุ่มตรวจ พร้อมข้อตกลงว่า หากพบว่าน้ำหนักต่ำกว่าค่ามาตรฐานเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้ง ก็จะยอมให้เจ้าหน้าที่ยึดทำลายทั้งหมด
...
หลังจากทำการอายัดทุเรียนไว้ เจ้าหน้าที่ได้ให้ทางตัวแทนมือตัด มาคัดทุเรียนที่มีความแก่ไว้จำนวนหนึ่ง จากนั้นทำการสุ่มตรวจมา 1 ผล วัดหาน้ำหนักแห้ง ผลที่ได้ คือ 15 เปอร์เซ็นต์จึงได้ยึดไว้เพื่อเตรียมทำลายทั้งหมด 1,066 ผล มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท
นายชลธี นุ่มหนู ผอ.สวพ.6 เปิดเผยว่า ช่วงเวลานี้ ซึ่งเป็นต้นฤดูกาล นับเป็นช่วงเวลาสำคัญ มีการช่วงชิงเรื่องราคาเป็นปัจจัยสำคัญให้เกิดแรงจูงใจ ในการกระทำความผิด กระทำสุ่มเสี่ยงในการเร่งตัดทุเรียน ก่อนเปอร์เซ็นต์ น้ำหนักแห้งไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐาน และการส่งออกโดยทางเครื่องบินเป็นจุดอ่อน ให้รอดจากสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้ ซึ่งชุดเฉพาะกิจฯ ได้ติดตามตรวจสอบทุกล้ง เพื่อให้การส่งออกทุเรียนจันทบุรีเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีของทุเรียนตลอดฤดูกาล
"สำหรับบทลงโทษ มี 3 ส่วน คือ ส่วนของล้งรับซื้อ มีโทษตามประมวลกฎหมายอาญา จำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ มือตัด มีโทษปรับ และเจ้าของสวนทุเรียน หลังจากสอบสวนแล้วอาจได้รับโทษเพิกถอนใบอนุญาต GAP ซึ่งจากการตรวจสอบ ทราบชื่อเจ้าของสวนแล้วอยู่ในพื้นที่ อ.ขลุง ทางฝ่ายปกครองจะสอบสวนต่อไป ส่วนทุเรียนที่ยึดได้ทั้งหมดนี้จะนำไปเก็บไว้ที่ สภ.ท่าใหม่ เพื่อรอทำลาย