พบแล้ว 1 ศพลูกเรือประมงอับปาง จมก้นทะเลระยอง หลัง จนท.ค้นหา 3 วันต่อเนื่อง ท่ามกลางอุปสรรค-สิ่งกีดขวางเพียบ ยังเหลืออีก 3 ไม่รู้ชะตากรรม คาดติดอยู่ในตัวเรือ ด้านผู้รอดชีวิต เล่านาทีจม-หลังถูกคลื่นซัดกลางลำเรือ   

จากเหตุการณ์เรือประมงไดหมึก "อนันตศักดิ์" อับปางกลางทะเล จ.ระยอง เมื่อคืนวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ลูกเรือ 7 คน จมกลางทะเล โชคดีมีเรือประมงใกล้เคียงเข้าช่วยเหลือไว้ได้ 3 คน ยังสูญหายไม่รู้ชะตากรรมอีก 4 คน ทัพเรือภาคที่ 1 ได้ส่งเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ต.264 พร้อมนักประดาน้ำ ทำการลาดตระเวนเพื่อค้นหา ต่อเนื่อง 3 วัน แต่ไร้วี่แวว คาดว่าทั้งหมดอาจติดอยู่ในตัวเรือ ที่ทีมค้นหายังไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางเป็นอุปสรรคจำนวนมาก 

ล่าสุดเมื่อเวลา 22.00 น. วันนี้ (2 พ.ย.) ศูนย์บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้รับรายงานว่า พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย ลอยขึ้นมาเหนือน้ำใกล้จุดที่เรืออับปาง หลังจากทีมนักประดาน้ำสามารถทะลวงสิ่งกีดขวางรอบตัวเรือได้บางส่วน ในระดับความลึก 40 เมตร ทราบชื่อต่อมาคือ นายเตี้ย อายุ 32 ปี ชาวเมียนมา ส่วนอีก 3 ราย คือ นายอดิเรก อายุ 42 ปี ไต๋ชาวไทย นายโก อายุ 45 ปี ชาวเมียนมา และนายไนท์ อายุ 23 ปี ชาวเมียนมา ยังไม่พบ 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำศพกลับเข้าฝั่ง ที่ท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมประสาน พ.ต.ท.สำราญ สุขโต สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ร่วมตรวจสอบชันสูตรพลิกศพ ก่อนให้ญาติรับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา

...

จากการสอบถาม นายณรงค์ มีพลู อายุ 42 ปี ลูกเรือชาวไทย หนึ่งในผู้รอดชีวิต เปิดเผยถึงนาทีเกิดเหตุว่า ก่อนเกิดเหตุขณะลอยลำไดหมึก มีฝนตกลงมาปรอยๆ ก่อนมีเสียงลมแรงพัดผ่านจนเกิดเสียงดัง ช่วงพริบตาก็มีคลื่นลูกใหญ่ 1 ลูก โหมซัดเข้ามากลางลำเรือ จนเรือพลิกคว่ำ ค่อยๆ จมดิ่งลงใต้ทะเล ตนพยายามตะเกียกตะกายหนีพ้นน้ำ จนเอาชีวิตรอดออกมาเจอกับ นายไข่นุ้ย อายุ 37 ปี และนายอ้วน อายุ 43 ปี ลูกเรือชาวพม่า ที่รอดตายมาด้วยกัน จึงหาสิ่งของเกาะลอยคอไว้กลางทะเล นาน 11 ชั่วโมง ก่อนจะมีเรือประมงผ่านมาพบและช่วยเหลือไว้ ซึ่งตนรู้สึกเสียใจมาก ที่เพื่อนร่วมเรือไม่สามารถหนีออกมาได้ทั้งหมด 

ด้าน นายสันติภาพ สำราญรัตน์ อายุ 48 ปี เจ้าของเรือ เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และไม่มีใครอยากให้เกิด อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณกองทัพเรือ ที่ส่งเรือและนักประดาน้ำ เข้าช่วยเหลือทำการค้นหาอย่างต่อเนื่อง ตนรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก ที่ยังคงดำเนินภารกิจ ไปจนกว่าจะพบผู้สูญหายอีก 3 คนที่เหลือ