เสี่ยวอนสายเปย์ พบรักสาวหน้าตาดีในเฟซบุ๊ก โดนหลอกสูญเงินกว่า 7 แสนบาท แจ้งความตำรวจ สภ.พลูตาหลวง ขณะที่สาวไม่ตรงปก ยืนยันจะเข้ารับทราบข้อกล่าวหา และไกล่เกลี่ยกับฝ่ายชาย
จากกรณี เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 นายถาวร ขันชัย หรือเสี่ยวอน อายุ 40 ปี ชาว ต.น้ำเกลี้ยง อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ อาชีพ พ่อค้า เกษตรกร ได้เข้าร้องทุกข์ต่อ นายยอดชาย ถนอมสิงห์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่าถูกหญิงสาวชื่อ น.ส.วรรณา หรือแอน สนั่นเมือง อายุ 33 ปี มีบ้านพักอยู่ในชุมชนบ้านขลอด อ.สัตหีบ สร้างเฟซบุ๊กปลอม หลอกลวงให้โอนเงินสูญกว่า 7 แสนบาท นั้น
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 ตุลาคม 2564 นายถาวร ขันชัย หรือเสี่ยวอน ผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.เอกชัย มูลลี สารวัตรสอบสวน สภ.พลูตาหลวง จ.ชลบุรี พร้อมนำหลักฐานสำคัญ อาทิ หน้าโปรไฟล์เฟซบุ๊กปลอม ข้อความแชต สลิปการโอนเงินนับ 100 รายการ ที่โอนไปยังบัญชี ธนาคารทหารไทย ของ น.ส.วรรณา สนั่นเมือง ตลอดเกือบ 1 ปี รวมเป็นเงินกว่า 7 แสนบาท
...
พ.ต.ท.เอกชัย มูลลี สารวัตรสอบสวน สภ.พลูตาหลวง เปิดเผยว่า ในคดีนี้ได้รับแจ้งความไว้ แต่ต้องส่งสำนวนคดีไปยัง สภ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากต้นเรื่องของเหตุเกิดที่นั่น แม้ผู้ก่อเหตุจะอยู่ในพื้นที่อำเภอสัตหีบก็ตาม ขณะนี้อยู่ในระหว่างสอบปากคำ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่า น.ส.แอน มีความผิดจริง ก็ถูกดำเนินคดีในข้อหา ฉ้อโกง หลอกลวง โดยการนำข้อมูลอันเป็นเท็จ ข้อความ รูปภาพ ลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์
นายถาวร หรือเสี่ยวอน ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ยอมรับว่า รู้สึกเสียใจอย่างมาก จากที่ได้รู้จักกันในเฟซบุ๊ก โดยฝ่ายหญิงได้ใช้รูปโปรไฟล์เป็นหญิงสาวหน้าตาดี แต่งกายคล้ายคุณหมอ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.63 โดยคุยจีบกันมาร่วม 1 ปี ไม่เคยพบหน้ากัน ตลอดระยะเวลาฝ่ายหญิง ทำตัวให้น่าสงสาร ทั้งหลอกว่า มีพ่อแม่ที่ล้มป่วยเป็นโรคมะเร็ง ถูกจับเป็นคดีความ และอีกมากมาย ล้วนสร้างเรื่องหลอกให้ตนเองหลงเชื่อ ด้วยการส่งภาพบุคคลอื่น ด้วยความรักและความสงสาร จึงโอนเงินให้ในทันที ทุกครั้งที่ฝ่ายหญิงมีความเดือดร้อน
นายถาวร หรือเสี่ยวอน กล่าวอีกว่า ที่สำคัญ เงินในบัญชีธนาคาร 470,000 บาท และเงินสดกว่า 3 แสนบาท ที่เก็บสะสมมาจากน้ำพักน้ำแรงหวังจะใช้ปลูกบ้าน ต้องมาโอนให้เพราะความรัก ความสงสาร จนหมดเกลี้ยง บ้านที่หวังจะปลูกเป็นรากฐานชีวิต ก็มีเพียงเสาเท่านั้น ในวันนี้จึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดี เพราะความรักที่เคยมีให้ได้เปลี่ยนเป็นความเจ็บช้ำไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ นายยอดชาย ถนอมสิงห์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ได้นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของ น.ส.แอน แต่ปิดประตูเงียบ ไม่มีคนอยู่ในบ้าน โดยชาวบ้านใกล้เคียงบอกว่า ได้ออกไปพร้อมกับสามีตั้งแต่ช่วงเช้า
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อกับ น.ส.แอน และพูดคุยกันถึงในกรณีดังกล่าว ก็ได้ยอมรับว่า หลอกลวงฝ่ายชายจริง และมีสามีอยู่แล้ว โดยใช้รูปโปรไฟล์ปลอมซึ่งเป็นรูปเพื่อนสมัยเรียน ภายหลังฝ่ายชายมาตามหาบุกถึงบ้าน ยอมรับว่าตกใจอย่างมาก เกรงจะได้รับอันตราย จึงได้ขอเงินจากญาติ 1,000 บาท หนีขึ้นไปอยู่กรุงเทพฯ แต่ยืนยันจะเข้าพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในเร็ววัน เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา และไกล่เกลี่ยกับฝ่ายชาย